Details

Category: บทวิเคราะห์

Published: Friday, 19 September 2014 18:58

Hits: 1927

บล.บัวหลวง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

ขึ้น (ดีกว่าคาด)
วันนี้คาด ขึ้น แนวรับ 1,575 ต้าน 1,590/1,600 จุด
  ระยะสัปดาห์ ปัจจัยบวก ผลการประชุมเฟด ไม่ทำให้ตลาดผิดหวัง ในถ้อยแถลงยังไม่ตัดคำว่า “Considerable time” ออก (ต้องรอให้ภาวะเศรษฐกิจดีกว่านี้ถึงเริ่มขึ้นดอกเบี้ย) ซึ่งดีกว่าที่ตลาดและ MS มอง จากถ้อยแถลงดังกล่าว ทำให้เกิดแรงซื้อคืนหุ้นระยะสั้นจากที่ขายไปก่อนหน้า, จีนอัดฉีดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจราว 5 แสนล้านหยวน (standing lending facility (SLF)) เทียบเท่ากับการลด RRR 0.5% ปัจจัยลบ MS คาด MSCI Thailand มี Downside ราว 8.4% และ Valuation ตลาดหุ้นไทยไม่ถูก
  กลยุทธ์เล่นรอบระยะเดือน (กย.) เราได้แนะนำขึ้นทยอยขายล็อกกำไร หุ้นใหญ่ที่จะตกเป็นเป้าหมายในการถูกขายล็อกกำไรได้แก่ ขนส่ง ค้าปลีก อาหาร Utilities โรงพยาบาล (ราคาลงมาแล้ว-แนะรอซื้อคืน) และแนะนำซื้อเก็งกำไรหุ้นกลาง-เล็ก ที่มีข่าวบวกหนุน คาดขึ้นดีกว่าดัชนีฯ คงคาดดัชนีฯไม่หลุดกรอบขาขึ้น 1,530/1,517 จุด
  หุ้นแนะนำ SAMART LOXLEY IFEC
  BLS รายงานพื้นฐานวันนี้ (ดูรายละเอียดฉบับเต็ม)
  (+) BA (IPO report) Blackout เริ่มวันนี้เป็นต้นไปถึง 24 พย. (ห้ามกระจายและเปลี่ยนแปลงรายงาน) เราประเมินมูลค่าตลาดที่เหมาะสม ราว 6.2-7.2 หมื่นล้านบาท (IPO 520 ล้านหุ้น) ปัจจัยหนุน 1) การเติบโตระยะยาว 3 ปี CAGR เฉลี่ย 55% ดีกว่าอุตสาหกรรม จากการเปิด AEC การขยายจำนวนเครื่องบิน (ปี2018 คาด 43 ลำ จากตอนนี้ที่ 25 ลำ) และการขยายเส้นทางการบินเพิ่ม (เปิดเพิ่มอีก 4 เส้นทาง และเพิ่มความถี่ในการบิน) 2) GPM ดีกว่ากลุ่ม คู่แข่งน้อยจากมีสนามบินหลายจุดที่ครอง Slot การบินไว้เองเกือบหมด เช่น สมุย SPF เป็น Hub ในการบินในและ ต่างประเทศ ตอนนี้ได้ 32 Slot จาก 36 Slot ในสนามบินสมุย กำลังขอเปิดเพิ่มเป็น 50 Slot 3) มีปันผลรับจาก BGH (ถืออยู่ 7.83%) หนุนกำไรระยะยาว เป็น Hidden value asset
  (+) กลุ่มรับเหมาเราแนะนำ Overweight หุ้น Top pick ได้แก่ CK STEC DCON
หุ้นมีข่าว
  (+) (SAMART) SAMTEL บอร์ด AOT อนุมัติ งานบำรุงรักษาระบบตรวจบัตรโดยสารขึ้นเครื่อง CUTE สนามบินสุวรรณภูมิเรียบร้อย มูลค่างานราว 2.3 พันล้านบาท / เราใส่ไว้ในประมาณการแล้วคาด AOT เร่งเดินหน้างานประมูลอื่นๆ คาดร่างสัญญาคืบหน้าปลายเดือนนี้
  + LOXLEY ประมูลงานระบบคัดกรองผู้โดยสารขาเข้าสนามบินสุวรรณภูมิ มูลค่างาน 8 พันล้านบาท
  + SAMTEL (TP 24 บ.) ประมูลงานระบบคัดกรองผู้โดยสารล่วงหน้า (APPS) มูลค่า 3.4 พันล้านบาท
  (+) LOXLEY SAMART AIT รอผลการประมูลงาน วางระบบข้อมูลที่ดินในลาว
  (+) IFEC คาดประกาศซื้อโรงไฟฟ้าเพิ่มเร็วๆนี้
  (+) SST คาดมีดีลซื้อกิจการเพิ่ม
  (+) EGCO กลางเดือน กย.คาดมีความคืบหน้าเรื่องการตรวจสอบโครงการ IPP 5000 MW (หรือ IPP รอบ 3) ด้านสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจกฟผ. ยื่น รมว.พลังงาน ให้ประมูล IPP 3 ใหม่ หากมีการประมูลใหม่คาด เป็นบวกต่อ EGCO

ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
  (-) กลต. หารือ ตลท. ออกมาตรการควบคุมการเก็งกำไรหุ้นเล็ก และ หุ้น MAI
  (0) ครม.ผ่านร่าง กม.ลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และนิติบุคคล เรามอง Neutral ต่อตลาด 1) ภาษีบุคคลธรรมดาเป็นมาตรการที่ตลาดรับรู้อยู่แล้ว (รัฐเคยประกาศการทยอยปรับลดภาษีให้ใกล้เคียงกับ AEC) 2) ภาษี บจ. เราใส่ไว้ในประมาณการอยู่แล้วที่ 20% ดังนั้นไม่มีผล
  (+/0) จีนออกมาตรการอัดฉีดเงิน 5 แสนล้านหยวน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่านการปล่อยสภาพคล่องระยะสั้น 2 วัน ให้สถาบันการเงิน MS มอง Neutral ต่อตลาด (คาดไว้อยู่แล้ว) / เรามองภาพระยะสั้น หุ้นเชื่อมโยงสินค้าโภคภัณฑ์ PSL TTA BANPU PTTGC IVL อาจขึ้นได้ไม่ไกลจากข่าวนี้ แต่ ระยะกลางคาดมีโอกาส Outperform ตลาด เพราะมองว่าจีน มีโอกาสจะดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายเพิ่มขึ้น
  (+) เมื่อวันอังคาร US PPI (Core) สค. +0.1% ตามคาด (ลงจาก +0.2%) เงินเฟ้อและการผลิตสหรัฐฯที่ชะลอลง คาดลดความวิตกเฟด เข้มงวดนโยบายเร็ว
  (+) เมื่อวันพุธ เงินเฟ้อ US CPI (สค.) พลิกติดลบ 0.2% m-m แย่กว่าคาดที่ 0% จาก 0.1%
  (+) ประชุม เฟด เดือน กย. ไม่สร้างความผิดหวังให้ตลาด และเป็นตามที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาด โดยเฟดยังไม่เปิดเผยมาตรการรองรับการเข้มงวดนโยบายการเงินหลังสิ้นสุด QE และไม่เน้นเรื่องระยะเวลาในการขึ้นดอกเบี้ย (อย่างไรก็ตามเราคาดว่าผลกระทบจาก Forward guidance ในการประชุมรอบ ตค.-ธค. จะมีผลลบต่อตลาดจากการปรับพอร์ตของนักลงทุนต่างชาติ แต่เชื่อว่าการลงไม่น่ากลัว เพราะปลายปีก่อนขายไปเยอะ จากประกาศสิ้นสุด QE)
  (-) นักค้าเงินคาดการลงมติ Scottish referendum (แยกออกจากสหราชอาณาจักร) ปลายสัปดาห์นี้ ส่งผลให้เงินปอนด์ และยูโรอ่อนค่า (ดอลลาร์แข็งค่าเทียบสกุลเงินหลัก)
  (+/-) การประชุมเดือน กย. กนง.คงดอกเบี้ยที่ 2%

วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
สรุปภาพตลาด

ขึ้น (ดีกว่าคาด)

วันนี้คาด ขึ้น แนวรับ 1,575 ต้าน 1,590/1,600 จุด
       ระยะสัปดาห์ ปัจจัยบวก ผลการประชุมเฟด ไม่ทำให้ตลาดผิดหวัง ในถ้อยแถลงยังไม่ตัดคำว่า "Considerable time" ออก (ต้องรอให้ภาวะเศรษฐกิจดีกว่านี้ถึงเริ่มขึ้นดอกเบี้ย) ซึ่งดีกว่าที่ตลาดและ MS มอง จากถ้อยแถลงดังกล่าว ทำให้เกิดแรงซื้อคืนหุ้นระยะสั้นจากที่ขายไปก่อนหน้า, จีนอัดฉีดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจราว 5 แสนล้านหยวน (standing lending facility (SLF)) เทียบเท่ากับการลด RRR 0.5% ปัจจัยลบ MS คาด MSCI Thailand มี Downside ราว 8.4% และ Valuation ตลาดหุ้นไทยไม่ถูก
กลยุทธ์เล่นรอบระยะเดือน (กย.) เราได้แนะนำขึ้นทยอยขายล็อกกำไร หุ้นใหญ่ที่จะตกเป็นเป้าหมายในการถูกขายล็อกกำไรได้แก่ ขนส่ง ค้าปลีก อาหาร Utilities โรงพยาบาล (ราคาลงมาแล้ว-แนะรอซื้อคืน) และแนะนำซื้อเก็งกำไรหุ้นกลาง-เล็ก ที่มีข่าวบวกหนุน คาดขึ้นดีกว่าดัชนีฯ คงคาดดัชนีฯไม่หลุดกรอบขาขึ้น 1,530/1,517 จุด

หุ้นแนะนำ SAMART LOXLEY IFEC

BLS รายงานพื้นฐานวันนี้ (ดูรายละเอียดฉบับเต็ม)
(+) BA (IPO report) Blackout เริ่มวันนี้เป็นต้นไปถึง 24 พย. (ห้ามกระจายและเปลี่ยนแปลงรายงาน) เราประเมินมูลค่าตลาดที่เหมาะสม ราว 6.2-7.2 หมื่นล้านบาท (IPO 520 ล้านหุ้น) ปัจจัยหนุน 1) การเติบโตระยะยาว 3 ปี CAGR เฉลี่ย 55% ดีกว่าอุตสาหกรรม จากการเปิด AEC การขยายจำนวนเครื่องบิน (ปี2018 คาด 43 ลำ จากตอนนี้ที่ 25 ลำ) และการขยายเส้นทางการบินเพิ่ม (เปิดเพิ่มอีก 4 เส้นทาง และเพิ่มความถี่ในการบิน) 2) GPM ดีกว่ากลุ่ม คู่แข่งน้อยจากมีสนามบินหลายจุดที่ครอง Slot การบินไว้เองเกือบหมด เช่น สมุย SPF เป็น Hub ในการบินในและ ต่างประเทศ ตอนนี้ได้ 32 Slot จาก 36 Slot ในสนามบินสมุย กำลังขอเปิดเพิ่มเป็น 50 Slot 3) มีปันผลรับจาก BGH (ถืออยู่ 7.83%) หนุนกำไรระยะยาว เป็น Hidden value asset
(+) กลุ่มรับเหมาเราแนะนำ Overweight หุ้น Top pick ได้แก่ CK STEC DCON

หุ้นมีข่าว
(+) (SAMART) SAMTEL บอร์ด AOT อนุมัติ งานบำรุงรักษาระบบตรวจบัตรโดยสารขึ้นเครื่อง CUTE สนามบินสุวรรณภูมิเรียบร้อย มูลค่างานราว 2.3 พันล้านบาท / เราใส่ไว้ในประมาณการแล้วคาด AOT เร่งเดินหน้างานประมูลอื่นๆ คาดร่างสัญญาคืบหน้าปลายเดือนนี้
+ LOXLEY ประมูลงานระบบคัดกรองผู้โดยสารขาเข้าสนามบินสุวรรณภูมิ มูลค่างาน 8 พันล้านบาท
+ SAMTEL (TP 24 บ.) ประมูลงานระบบคัดกรองผู้โดยสารล่วงหน้า (APPS) มูลค่า 3.4 พันล้านบาท
(+) LOXLEY SAMART AIT รอผลการประมูลงาน วางระบบข้อมูลที่ดินในลาว
(+) IFEC คาดประกาศซื้อโรงไฟฟ้าเพิ่มเร็วๆนี้
(+) SST คาดมีดีลซื้อกิจการเพิ่ม
(+) EGCO กลางเดือน กย.คาดมีความคืบหน้าเรื่องการตรวจสอบโครงการ IPP 5000 MW (หรือ IPP รอบ 3) ด้านสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจกฟผ. ยื่น รมว.พลังงาน ให้ประมูล IPP#3 ใหม่ หากมีการประมูลใหม่คาด เป็นบวกต่อ EGCO

ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
(-) กลต. หารือ ตลท. ออกมาตรการควบคุมการเก็งกำไรหุ้นเล็ก และ หุ้น MAI
(0) ครม.ผ่านร่าง กม.ลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และนิติบุคคล เรามอง Neutral ต่อตลาด 1) ภาษีบุคคลธรรมดาเป็นมาตรการที่ตลาดรับรู้อยู่แล้ว (รัฐเคยประกาศการทยอยปรับลดภาษีให้ใกล้เคียงกับ AEC) 2) ภาษี บจ. เราใส่ไว้ในประมาณการอยู่แล้วที่ 20% ดังนั้นไม่มีผล
(+/0) จีนออกมาตรการอัดฉีดเงิน 5 แสนล้านหยวน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่านการปล่อยสภาพคล่องระยะสั้น 2 วัน ให้สถาบันการเงิน MS มอง Neutral ต่อตลาด (คาดไว้อยู่แล้ว) / เรามองภาพระยะสั้น หุ้นเชื่อมโยงสินค้าโภคภัณฑ์ PSL TTA BANPU PTTGC IVL อาจขึ้นได้ไม่ไกลจากข่าวนี้ แต่ ระยะกลางคาดมีโอกาส Outperform ตลาด เพราะมองว่าจีน มีโอกาสจะดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายเพิ่มขึ้น
(+) เมื่อวันอังคาร US PPI (Core) สค. +0.1% ตามคาด (ลงจาก +0.2%) เงินเฟ้อและการผลิตสหรัฐฯที่ชะลอลง คาดลดความวิตกเฟด เข้มงวดนโยบายเร็ว
(+) เมื่อวันพุธ เงินเฟ้อ US CPI (สค.) พลิกติดลบ 0.2% m-m แย่กว่าคาดที่ 0% จาก 0.1%
(+) ประชุม เฟด เดือน กย. ไม่สร้างความผิดหวังให้ตลาด และเป็นตามที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาด โดยเฟดยังไม่เปิดเผยมาตรการรองรับการเข้มงวดนโยบายการเงินหลังสิ้นสุด QE และไม่เน้นเรื่องระยะเวลาในการขึ้นดอกเบี้ย (อย่างไรก็ตามเราคาดว่าผลกระทบจาก Forward guidance ในการประชุมรอบ ตค.-ธค. จะมีผลลบต่อตลาดจากการปรับพอร์ตของนักลงทุนต่างชาติ แต่เชื่อว่าการลงไม่น่ากลัว เพราะปลายปีก่อนขายไปเยอะ จากประกาศสิ้นสุด QE)
(-) นักค้าเงินคาดการลงมติ Scottish referendum (แยกออกจากสหราชอาณาจักร) ปลายสัปดาห์นี้ ส่งผลให้เงินปอนด์ และยูโรอ่อนค่า (ดอลลาร์แข็งค่าเทียบสกุลเงินหลัก)
(+/-) การประชุมเดือน กย. กนง.คงดอกเบี้ยที่ 2%

วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336

รายงานวันนี้

กลุ่ม: รับเหมา คำแนะนำ: เพิ่มน้ำหนักการลงทุน ราคาเป้าหมาย (บาท): -

เรายังคงคำแนะนำ เพิ่มน้ำหนักการลงทุน เนื่องจากเรามองว่ากลุ่มรับเหมาจะยังคงให้ผลตอบแทนสูงกว่าตลาด
คาดจะมีการประมูลโครงการขนาดใหญ่ในระหว่างสมัยรัฐบาลของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
เรามองว่า ITD มีโอกาสสูงที่จะได้งานโครงการรถไฟรางคู่ ส่วนโครงการส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าเราคิดว่า ITD และ CK มีโอกาสได้งานสูงสุด
แนวโน้มของ STEC ดูดีขึ้นภายใต้ bull-case และ base-case แต่แนวโน้มของ CK ดูดีที่สุดภายใต้ bear-case
ในกลุ่มรับเหมาขนาดเล็ก เราชื่นชอบ DCON มากที่สุด โดยเราปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น ซื้อ ด้วยราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2558 ที่ 22.25 บาท

นักวิเคราะห์: ไชยธร ศรีเจริญ
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์: ธนัท พจน์เกษมสิน