WORLD7

BANPU2024

smed PIONEER 720x100

บล.บัวหลวง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน

รอบด้านตลาดหุ้น
Sideways down 2
    วันนี้คงคำแนะนำ เหมือนเมื่อวาน กระชับพอร์ต และนักเล่นสั้น ควรวาง Stop loss ถ้าปิดต่ำกว่า 1,575/1,570 จุด
      สัปดาห์นี้ คาดแนวรับ 1,573 จุด แนวต้าน 1,600/1,620 จุด ปัจจัยบวก มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไทย, รายละเอียด EU-QE ปัจจัยลบ ตัวเลขเศรษฐกิจโลกชะลอ, ฮ่องกงประท้วง ปี 2003 และ 2012 ดัชนีฯ MSCI AXJP ลงเฉลี่ย 3-4% หุ้นไทยมี Downside บริเวณ 1,536 จุด หากอิงการปรับลงจากเหตุการณ์อดีต, กลต. เล็งออกมาตรการสกัดหุ้นซิ่ง
กลยุทธ์เล่นรอบระยะเดือน (ตค.) คาดช่วงครึ่งแรกของเดือน หุ้นกลุ่ม ค้าปลีก โรงพยาบาล ขนส่ง (Low Beta) ที่ปรับลงมาก่อนหน้า Outperform ตลาด ส่วนกลุ่ม แบงก์ พลังงาน ปิโตรฯ คาด Underperform และแนะนำซื้อเก็งกำไรหุ้นกลาง-เล็ก ที่มีข่าวบวกหนุน / คาดการปรับฐานรอบนี้ ดัชนีฯไม่หลุดกรอบขาขึ้นใหญ่ 1,530 จุด ส่วนปัจจัยลบหลักเดือนนี้ คือ วิตกผลการประชุมเฟดปลายเดือน เข้มงวดนโยบายการเงิน

      หุ้นแนะนำ GUNKUL ILINK (เก็งกำไรกระแสข่าวเซ็นสัญญาขายโครงข่าย Fiber optic)

      BLS รายงานพื้นฐานวันนี้ (ดูรายละเอียดฉบับเต็ม)
(+) PTT ข่าวขึ้น LPG (ภาคขนส่ง) และ NGV คาดกระทบกำไร PTT ปีนี้เพิ่มขึ้นราว 470 ล้านบาท (คิดเป็น 0.6%) ส่วนปีหน้า +1.9 พันล้านบาท (+2%) / มองราคาหุ้นขึ้นรับข่าวนี้ไปแล้ว และเรามองว่าจะไม่มีการขยับราคาขึ้นแบบต่อเนื่อง กลยุทธ์ระยะสั้น แนะ Sell into strength
(+) SPALI คงคำแนะนำ ซื้อ TP 32 บาท (ปรับขึ้นจาก 30 บ.) โดยเราปรับคาดการณ์กำไร ปี 2014-15 ขึ้น 12% และ 10% ตามลำดับ จากยอดขายที่ดีกว่าคาด โดย Backlog 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะทยอยโอน (Secure กำไรปีนี้ 100% และ คิดเป็น 72% ของคาดการณ์ปี 2015) ส่งผลให้กำไร 2H14 คาดเติบโต 131% y-y และ 39% h-h โดยกำไร 3Q14 คาด 1.2 พันล้านบาท (+255% y-y และ 155% q-q) ส่วน 4Q14 คาด กำไรที่ 1.7 พันล้านบาท (-4% y-y)
(+) MAJOR คงคำแนะนำ ซื้อ TP 26 บาท คาดกำไร 3Q14 ที่ 265 ล้าบาท (+32% y-y, -41% q-q) กำไรที่ลดลง q-q เป็นเพราะ ผลกระทบฤดูกาล (หน้าฝน, เด็กเปิดเทอม, หนังทำเงินมีน้อย) ส่วนกำไรที่เพิ่มขึ้นเทียบกับปีที่แล้ว เพราะ ไม่มีสถานการณ์การชุมนุมทางการเมือง คาดว่ายอดขายตั๋ว 4Q14 จะดีขึ้น จากหนังใหม่ที่รอเข้าฉาย เช่น The Equalizer, The Hunger Games: Mockingjay Part 1, The Hobbit 3:

      และปีหน้ามีหนังทำเงินรอฉายจำนวนมากได้แก่ The Avengers: Age of Ultron, Star Wars VII, Man of Steel: Superman/Batman, Pirate of the Caribbean: Dead Men Tell No Tales, Fantastic Four Reboot, Terminator 5, The Hunger Games: Mockingjay, Part 2, James Bond 24, Snow White and the Huntsman 2, Jurassic Park IV, Mission Impossible 5 and Die Hardest

หุ้นมีข่าว
     (+) ท่องเที่ยว MINT ERW CENTEL คาดนักท่องเที่ยวจีนเพิ่มขึ้นช่วง Golden week (เริ่ม 1 ตค.) / ได้ประโยชน์จากการชุมนุมในฮ่องกง
      (+) CK ITD STEC UNIQ ยื่นซอง รฟฟ.สายสีเขียว แล้ว วงเงิน 2.9 หมื่นล้านบาท รู้ผลต้นปีหน้า สัญญา 1 มูลค่า 1.4 หมื่นล้านบาท สัญญา 2 6 พันล้านบาท สัญญา 3 3.7 พันล้านบาท และ สัญญา 4 2.6 พันล้านบาท (ทั้ง 4 บจ. ยื่นครบ 4 สัญญา)
(+) BTS สนใจบริหารการเดินรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต ลิงค์ และจะเข้าร่วมประมูลเดินรถสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง สายสีเขียว ช่วงสะพานใหม่-คูคต รถไฟฟ้าสายสีชมพู และรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย
(+) รัฐบาลจีนเผย จะจัดเก็บภาษีทรัพยากรบนพื้นฐานราคาตลาด ส่งผลให้หุ้น ถ่านหินจีน ปรับสูงขึ้น จากคาดการปฎิรูปภาษีส่งผลให้ราคาถ่านหินในจีนปรับเพิ่มขึ้น
(+) IFEC สภาอุตสาหกรรมยื่น รมว.พลังงาน กลับไปใช้ระบบ Adder แบบเดิม และขอปรับ adder พลังงานลมขึ้นเป็น 4.5 บ.จาก 3.5 บ. สำหรับผู้ประกอบการขนาดใหญ่ ส่วนโรงไฟฟ้าขยะขอ adder 3.5 บ. นาน 10 ปี (จาก 7ปี) เนื่องจาก Fleet in tariff ไม่สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง (กรุงเทพธุรกิจ) /คาดราคาหุ้นขึ้น รับประชุมผู้ถือหุ้น อนุมัติขายหุ้นเพิ่มทุน PP และ RO
(+) SST คาดมีดีลซื้อกิจการเพิ่ม

ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
(*) นายกสมาคมโบรกเกอร์ เผยไม่มีการหารือเรื่องมาตรการสกัดหุ้นร้อนตามที่เป็นข่าว ว่าจะให้หุ้นติด Cash balance ห้ามนำมาวางเป็นหลักประกันฯ
(-) การประท้วงในฮ่องกงคาดส่งผลกดดันหุ้นภูมิภาคปรับฐาน เบื้องต้นคาด Downside หุ้นไทยบริเวณ 1,536 จุด อิงการปรับลดลงเหมือนตลาดหุ้นภูมิภาคในอดีตราว 4%เหมือนปี 2012: 21 พค. 1989 (ชุมนุม 1.5 ล้านคน) HSI ร่วง 14.5% MSCI Asia Ex Japan -7.4% (ภายใน 2-3 วันทำการ) และเกิดกรณี เทียนอันเหมิน 4 กค. HSI ร่วง อีก 22% MSCI AxJP -11% 1 กค.2003 (จำนวนคนชุมนุม 5 แสน) HSI -1% แย่กว่าตลาดหุ้นภูมิภาค (ลง 1 วัน) ปลาย กค.2012 และ 3 กย. 2012 HSI ร่วง 4-5% และ ตลาดหุ้นภูมิภาคร่วง 3-4% และ ปรับสูงขึ้นหลังยุติการชุมนุม 8% ภายใน 2 สัปดาห์ รอบนี้มีรายงานจำนวนผู้ชุมนุมราว 5 แสนคน โบรกเกอร์ต่างชาติคาดผลกระทบรอบนี้จะเหมือนปี 2003-2012 ซึ่งการปรับลดลงจะเกิดขึ้นช่วงสั้นๆ และเมื่อปัญหายุติพบว่าหุ้นขึ้นเฉลี่ย 10%
(-) กระทรวงพาณิชย์ รายงานส่งออก เดือน สค. -7.4% แย่กว่าคาดที่ -3.3% y-y ส่วนนำเข้า -14.17% ทำให้เดือน สค.เกินดุล $1.15 พันล้าน และ 8 เดือน ส่งออก -1.36% y-y นำเข้า -12.7% และเกินดุล $280 ล้าน / ด้านแบงก์ชาติ คาดส่งออกปีนี้ 0% ปรับลดจากเดิมที่คาด 3% ส่วนปีหน้าโต 4% จากเดิมคาด 6% จีดีพีปี 2558 ปรับลดมาอยู่ที่ 4.8% จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัวได้ 5.5%
(+) เมื่อวาน จีนรายงาน HSBC PMI mfg (กย.) 50.2 ต่ำคาด 50.5 (จาก 50.5) US Chicago PMI เดือน กย.ร่วง 3.8 จุด เหลือ 60.5 ต่ำกว่าคาดที่ 62
(+) เช้านี้ จีนรายงาน Official PMI (กย.) 51.1 ดีกว่าคาดที่ 51 จาก 51.1
(-) วันนี้ ไทยเงินเฟ้อ (กย.) 2% ลงจาก 2.1% y-y, ญี่ปุ่น Tankun survey (กย.) คาดปรับลดลงเหลือ 10 จาก 12 จุด, US ISM เดือน กย. 58.5 ชะลอลงจาก 59, EU PMI (กย.) คาด 50.5 (ไม่เปลี่ยนแปลง)
(+) พฤหัส ประชุม ECB คาดดอกเบี้ยไม่เปลี่ยนแปลง 0.05% (EU QE คาดมีรายละเอียดเพิ่มเติม)
(+) วันศุกร์ (กย.) US อัตราว่างงานคาด 6.1%, การจ้างงานนอกภาคเกษตร (กย.) คาด +2.1 แสนราย จาก 1.42 แสนราย

หุ้นในกระแส
(+) กระแส M&A: SST IFEC HEMRAJ
(+) หุ้นร้อนหลุด Cash balance: ออกสัปดาห์หน้า AJP SOLAR SUPER VIH และสัปดาห์ถัดไป ACD DIMET EMC EVER GENCO SST TAKUNI
วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336

ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อตลาด
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐยังทำสถิติสูงสุด
ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐยังคงทำจุดสูงสุดใหม่จากเหตุผลเศรษฐกิจขยายตัวได้ดีเมื่อเทียบกับเศรษฐกิจกลุ่มประเทศหลักยุโรป และเอเชีย ขณะที่เฟดสหรัฐกำลังพิจารณาเวลาการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นครั้งแรกในรอบ 7 ปี ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าเร็วเริ่มสร้างความกังวลต่อเฟดว่าอาจกระทบต่อภาคการส่งออก อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐอาจชะลอ และอัตราเงินเฟ้ออาจต่ำเกินไป ท่ามกลางข้อถกเถียงในคณะกรรมาธิการพิจารณานโยบายการเงินของสหรัฐ หรือ FOMC ว่าเฟดควรเริ่มขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่อไร (Bloomberg)

ทางการจีนประกาศผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มภาคอสังหาฯ
ทางการจีนประกาศลดมาตรการคุมเข้มธุรกิจภาคอสังหาฯภายหลังมีการเก็งกำไรมากเกินไปจนเกิดภาวะฟองสบู่ซึ่งกระทบต่อความสามารถในการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง โดยธนาคารกลางจีนยอมให้มีการวางเงินดาวน์น้อยลงสำหรับการซื้อบ้านหลังที่สอง โดยการผ่อนคลายมาตรการควบคุมเกิดขึ้นครั้งแรกในรอบ 4 ปีเพื่อพยายามให้เศรษฐกิจประเทศโตได้ตามเป้าหมาย 7.5% ปีนี้ โดยที่ผ่านมาตัวเลขภาคการลงทุน และภาคการบริโภคภายในประเทศจีนยังคงไม่แน่นอนซึ่งทำให้นักวิเคราะห์เริ่มปรับมุมมองต่อเศรษฐกิจจีนแย่ลง (Bloomberg)

สศอ.ชี้ MPI ส.ค.วูบ 2.7% เทียบปีก่อน แต่ดีขึ้นกว่าเดือนก.ค
ดร.สมชาย หาญหิรัญ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) กล่าวว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือน ส.ค.57 หดตัว 2.7% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน แต่มีทิศทางดีขึ้นกลับมาขยายตัวที่ 2.6% เทียบกับเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และดัชนีการส่งสินค้าปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.9% ด้านอัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ 60.29% สำหรับอุตสาหกรรมที่ลดลง ได้แก่ อุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ เครื่องประดับ น้ำตาล การกลั่นน้ำมัน และเครื่องแต่งกาย เป็นต้น (หนังสือพิมพ์บ้านเมือง)

ธปท.ห่วงเศรษฐกิจปีนี้โตได้แค่ 1.5%
ธปท.ห่วงบริโภคส่งออกหด กดจีดีพีปีนี้โตต่ำ 1.5% มาตรการกระตุ้นส่งผลปีหน้า นางรุ่ง มัลลิกะมาส ผู้อำนวยการอาวุโส สายนโยบายเศรษฐกิจการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เปิดเผยภาวะเศรษฐกิจเดือนส.ค. ชะลอตัวลงเล็กน้อย มาจากการบริโภคภาคเอกชนขยายตัวติดลบ 0.2% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าที่เพิ่มขึ้น 1% ขณะที่การลงทุนขยายตัวติดลบ 1.2% ลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ติดลบเพียง 0.5% (หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์)

จัดโซนนิ่งเกษตรจ่อคิวเข้าครม.ล่อด้วยเงินอุดหนุน
ปีติพงศ์ลั่น ใช้เวลา 1 สัปดาห์ นำโซนนิ่งพืชเศรษฐกิจข้าว-ยางอ้อย-ข้าวโพด-มัน-ปาล์ม เสนอให้ ครม. นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงการปรับโครงสร้างการเกษตรที่จะมีการปรับเปลี่ยนพื้นที่การเพาะปลูกหรือโซนนิ่งเพื่อสร้างยุทธศาสตร์การผลิตสินค้าเกษตรให้เหมาะสมในแต่ละพื้นที่ โดยแผนจะต้องให้เสร็จสิ้นให้เร็วที่สุด เพื่อนำมาใช้ในการวางกรอบการเพาะปลูกพืชเกษตรในฤดูกาลที่จะถึงนี้ โดยเฉพาะข้าวและยางพารารวมทั้งพืชเศรษฐกิจอีก 4 ชนิด เช่น อ้อยข้าวโพด มันสำปะหลัง และปาล์ม (หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์)
ชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ Tel. (662) 618-1330-1

รายงานวันนี้
หุ้น: SPALI คำแนะนำ: ซื้อ ราคาเป้าหมาย (บาท): 32.00
เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ และปรับเพิ่มราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2558 จาก 30 บาท เป็น 32 บาท
เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรหลักขึ้น 12% สำหรับปี 2557 และ 10% สำหรับปี 2558 หนุนจากสมมติฐานรายได้จากโครงการที่อยู่อาศัยที่เพิ่มขึ้น
กำไรมีแนวโน้มอัพไซด์จากค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่อาจลดลง กว่าประมาณการ
คาดแนวโน้มกำไรในช่วงครึ่งหลังของปี 2557 เติบโตแข็งแกร่ง 131% YoY และ 39% HoH เป็น 2.9 พันล้านบาท
การเปิดตัวโครงการใหม่ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ซึ่งขยายตัว 63% YoY และ 125% HoH เป็น 20,800 ล้านบาทจะหนุนให้ยอดจองซื้อไตรมาส 3-4/57 เติบโตแข็งแกร่ง
นักวิเคราะห์: นฤมล เอกสมุทร

หุ้น: MAJOR คำแนะนำ: ซื้อ ราคาเป้าหมาย (บาท): 26.00
เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ หนุนโดยอัพไซด์จากหน้าหนังที่โดดเด่นในปีหน้าควบคู่ไปกับการขยายสาขาเชิงรุกของบริษัท
รายได้บ๊อกซ์ออฟฟิซ 10 อันดับสูงสุดเดือนก.ค.-ส.ค. 2557 รวมกันเพิ่มขึ้น 8% YoY เป็น 733 ล้านบาท หนุนจากหน้าหนังที่แข็งแกร่ง
รายได้ตั๋วหนังของ MAJOR ในไตรมาส 3/57 คาดเพิ่มขึ้น 14% YoY เป็น 982 ล้านบาท แต่ลดลง 32% QoQ
รายได้อาหารและเครื่องดื่มสำหรับไตรมาส 3/57 คาดเพิ่มขึ้น 15% YoY และรายได้โฆษณาในโรงภาพยนตร์คาดเพิ่มขึ้น 4% YoY

นักวิเคราะห์: ประสิทธิ์ สุจิรวรกุล ผู้ช่วยนักวิเคราะห์: บุญธิดา จนางคะกาญจน์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!