WORLD7

BANPU2024

smed PIONEER 720x100

บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน

“เน้นซื้อตามด้วยค่าบวก”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
       สรุปปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : เมื่อวานนี้ตลาดปิดทรงตัวที่ 1585.67 จุด +6.7%QoQ และ +22.1%YTD โดยมีการเลือกซื้อหุ้นหลักกระจายไปในกลุ่มต่างๆ เช่น KBANK, BBL, PTT, SCC, TUF, GFPT, GLOW, VGI, UNIQ, UV, MODERN, HANA, KCE เป็นต้น นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิแต่ลดลงเป็น 406 ล้านบาท สถาบันในประเทศและพอร์ตบล.ซื้อ-ขายใกล้เคียงกัน ส่วนรายย่อยซื้อสุทธิ สำหรับวันนี้ จับตาแพจเกจกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นที่ครม.พิจารณาในวันนี้ และการประชุม ECB ในวันที่ 2 ต.ค.57 ซึ่งตลาดคาดการณ์ว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเพิ่มเติม ส่วนปัจจัยที่จับตา คือสถานการณ์การเมืองในฮ่องกง ซึ่งขณะนี้มีความกังวลว่าถ้ายืดเยื้อจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจจีน รวมถึงการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยวไทย ซึ่ง HighSeason กำลังเริ่มต้นตั้งแต่เดือนต.ค.นี้ สำหรับการลงทุนในหุ้นเดือนต.ค.57 เราเห็นว่าต้องใช้ความระมัดระวังอย่างสูง เพราะ Valuation ที่สูงขึ้นมากของหุ้น & ตลาด ทำให้จะมีความผันผวนมากขึ้น กลยุทธ์เดือนนี้เป็นการเลือกซื้อหุ้นที่มีข่าวบวก/ปัจจัยสนับสนุน ทั้งจากเรื่องผลประกอบการฟื้นตัว(Business Turnaround), ได้อานิสงค์จากการบริโภคและการลงทุนฟื้นตัว, มีกำไรพิเศษจากการขายสินทรัพย์ เป็นต้น และธุรกิจเดินหน้าไปได้ดีในระยะยาวหลังเปิด AEC ในปี 58 หุ้น Top Picks เดือนต.ค.57 เป็น CK, CPN, MINT, SYNTEC, TUF ส่วน Dark Horse คือ MJD, TICON ส่วนหุ้นพื้นฐานแนะนำลงทุนวันนี้เป็น GFPT (ดูรายละเอียดเพิ่มใน Fundamental Pick วันนี้)

      กลยุทธ์ทางเทคนิค : ซื้อใหม่เน้นซื้อตามค่าบวก ค่าลบหรือต่ำกว่า 1585 จุดควรชะลอ/ลดพอร์ต โดยเฉพาะพอร์ตที่มีเงินสดเหลืออยู่น้อย เพราะดัชนีมีโอกาสอ่อนไปยัง 1560-1550 จุดหรือต่ำกว่า ส่วนการปรับขึ้นมีแนวต้านระยะสั้น 1610-1620 จุด ส่วนหุ้นที่ราคามีโอกาสทำ New High เมื่อพิจารณาจากสัญญาณทางเทคนิค ประกอบด้วย VIH, STPI, CENTEL, TMB, LOXLEY, GUNKUL, EMC, GLAND (สีน้ำเงิน คือ หุ้นที่เข้ามาใหม่ใน List)ส่วนหุ้นที่แนะนำและปรับขึ้นมาอยู่ในพื้นที่น่าหาจังหวะ Take Profit รอบสั้น คือ VGI, FANCY หุ้นที่หลุด List – ไม่มี

Market Drivers
ปัจจัยต่างประเทศ
- สหรัฐ : ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคก.ย.หดตัวเป็น 86.0 จาก 93.4ในเดือนส.ค. (สูงสุดในรอบเกือบ 7 ปี) และเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ5 เดือน
- สหรัฐ : ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เขตชิคาโกลดลงเป็น 60.5ในเดือนก.ย. จากระดับ 64.3 ในเดือนส.ค.
- สหรัฐ : ราคาบ้านเพิ่มช้าลง ดัชนีราคาบ้าน 20 เมืองในเดือนก.ค.ปรับตัวขึ้น 6.7%YoY ชะลอตัวจากอัตรา 8.1%YoY ในเดือนมิ.ย. และเพิ่มขึ้นในอัตราที่ช้าที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2555 หรือในรอบ 20 ปี

• ECB : ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะประชุม 2 ต.ค.นี้ คาดว่าจะตอกย้ำถึงการใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยอัตราเงินเฟ้อที่ตำเพียง 0.3% ของยูโรโซนหนุนให้ใช้นโยบายดังกล่าว จับตาเดือนต.ค.57 ว่า ECB จะเริ่มโครงการเข้าซื้อพันธบัตร (QE) ด้วยมูลค่าเท่าใด
• DJIA ปิดที่ 17,042.90 จุด (-28.32 จุด หรือ -0.17%) นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ อย่างไรก็ตาม ตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแอลงทำให้ความวิตกเรื่องการปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วผ่อนคลาย

- ราคาน้ำมันดิบร่วงแรง สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.ร่วงลง 3.41 ดอลลาร์ ปิดที่ 91.16 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วน BRENT ดิ่ง 2.53ดอลลาร์ ปิดที่ 94.67 ดอลลาร์/บาร์เรล ตลาดคาดสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐรายสัปดาห์จะเพิ่มขึ้น & ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐเดือนก.ย.ออกมาอ่อนแอ
- สัญญาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 7.2 ดอลลาร์หรือ 0.59% ปิดที่ 1,211.6 ดอลลาร์/ออนซ์…คาด ECB จะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม

ปัจจัยในประเทศ & ข่าวหลักทรัพย์เด่น
+/- กระทรวงพลังงานปรับเพิ่มราคา LPG ขนส่ง 0.62 บาท/กก.และ NGV 1 บาท/กก. และหลังจากตั้งกพช.ชุดใหม่ไม่เกิน 2 สัปดาห์ข้างหน้า ลุ้นการปรับครั้งใหญ่ยกแผงทั้งก๊าซและน้ำมัน โดยคนใช้ก๊าซLPG & NGV และดีเซล ต้องจ่ายเพิ่ม แต่กลุ่มเบนซินจ่ายน้อยลง

ความเห็น DBS Retail Research นับเป็นบวกกับ PTT (ราคาพื้นฐาน366 บาท) โดยเป็นการลดผลขาดทุนในธุรกิจ LPG & NGV ลง 2 พันล้านบาท/ปี (2% ของกำไรสุทธิ) รวมทั้งเปิดโอกาสให้ขยายปั๊มก๊าซเพิ่มขึ้นอย่างไรก็ตามในระยะสั้น หุ้นพลังงาน ซึ่งรวมถึง PTT มีปัจจัยกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลง ทำให้อาจมีผลขาดทุนจากสต็อกมากใน 4Q57ส่วนภาคขนส่งน่าจะมีการขอปรับขึ้นราคาในระยะต่อไป ซึ่งหากแท็กซี่ในกรุงเทพฯขึ้นราคา ก็จะเป็นบวกกับ BTS (ราคาพื้นฐาน 10.17 บาท),BMCL (Not Rated) เพราะคนอาจหันไปใช้รถไฟฟ้า & รถใต้ดิน & แอร์พอร์ตลิงค์มากขึ้น

+ รับเหมาก่อสร้าง : เดินหน้าประมูลงานต่อเนื่อง วงการคาด CK-ITDSTEC-UNIQ เข้าประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว 4 สัญญา มูลค่า 2.9หมื่นล้านบาท คาดเปิดซองและประกาศผลประมูลในต้นปี 58
ความเห็น DBS Retail Research เราชอบกลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่มีStories เข้ามากระตุ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ Valuation ที่สูงทำให้ต้องระมัดระวังในการเข้าซื้อใหม่ หุ้นเด่น Top Pick คือ CK (ราคาพื้นฐาน29.50 บาท) รองลงมาเป็น STEC (ราคาพื้นฐาน 29.50 บาท)

+ CPN มีแผนลงทุน 1 หมื่นล้านบาท ทำโครงการ "เซ็นทรัล เวสท์เกต" โดยคาดว่าจะเปิดบริการได้ในกลาง 2Q58 นอกจากนั้นยังจะจับมือกับรฟม.สร้าง Skywalk เชื่อม MRT รถไฟฟ้าสายสีม่วงช่วงบางซื่อ-บางใหญ่ เพื่อหนุนโครงการเซ็นทรัลบางใหญ่ด้วย บริษัทมีเป้าหมายเติบโต10-15% ต่อปีในช่วงปี 57-61
ความเห็น DBS Retail Research เห็นว่าการเติบโตที่ CPNตั้งเป้าหมายไว้มีความเป็นไปได้ เมื่อพิจารณาจากงบลงทุนที่ประมาณ 1หมื่นล้านบาท/ปีและประสบการณ์ในการดำเนินงานของบริษัท เราชอบCPN ที่มีธุรกิจและรายได้ที่มั่นคง อัตราการเช่าพื้นที่เฉลี่ยของโครงการสูงกว่า 90% และมีโอกาสปรับเพิ่มค่าเช่าหลังโครงการสาธารณูปโภคทยอยดำเนินการ นอกจากนั้นยังมีกำไรจากการขายสินทรัพย์เข้า CPNRF &REIT ด้วย แนะนำซื้อ ราคาพื้นฐาน 54 บาท

+ TPIPL ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงยุติข้อพิพาททุกคดี ทั้งคดีแพ่งและคดีอาญา กับ IRPC และบริษัทในกลุ่มในเครือ ซึ่งเป็นผลดีกับทั้งสองบริษัท ทำให้การดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกันมีความราบรื่นมากยิ่งขึ้น ในเบื้องต้นมีข่าวว่า IRPC จะได้รับค่าเช่าคืน 470 ล้านบาทหลังยกเลิกค่าเช่าตึก TPI ล่วงหน้า (ข่าวหุ้น 1 ต.ค.57)
ความเห็น DBS Retail Research หาก IRPC ได้รับค่าเช่าคืนตามที่เป็นข่าว ก็จะเป็นเรื่องดีกับบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ เพราะเม็ดเงินที่จะได้รับคืนคิดเป็น 15% ของกำไรสุทธิบริษัทในปี 57 ที่ DBS ประมาณการไว้ที่ 2.8พันล้านบาท แนะนำซื้อเก็งกำไร IRPC (ราคาพื้นฐาน 4.50 บาท)

นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค : Tel 7829 arparporns@th.dbsvickers.com

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!