WORLD7

BANPU2024

smed PIONEER 720x100

บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน

“ซื้อใหม่...เน้นตามด้วยค่าบวก”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
     สรุปปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : เมื่อวานนี้ตลาดปรับขึ้นเล็กน้อย (+0.11% ปิดที่ 1587.35 จุด) นักลงทุนต่างชาติกลับมาเป็นซื้อสุทธิ 1.6พันล้านบาท ส่วนอีก 3 กลุ่มที่เหลือเป็นขายสุทธิ โดยเห็นการเข้ามาเก็งกำไรผลประกอบการ 3Q57 กลุ่มแบงค์มากขึ้น อย่างไรก็ตาม ในระยะสั้นหุ้น BBLอาจอ่อนตัวลงเพราะ NPL เพิ่มขึ้นจากลูกค้ารายใหญ่ ทำให้ NPL Ratio เพิ่มจาก 2.2% เป็น 2.5% และแบงค์น่าจะมีการกันสำรองค่าเผื่อฯเพิ่มแม้ว่าCoverage ratio จะสูงมาก เพราะเชื่อว่า BBL จะยังคงใช้หลัก Conservative ไว้ก่อน ซึ่งประเด็นนี้ทำให้หุ้น BBL น่าจะยัง Underperform กลุ่ม ส่วนเรื่องแผนกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นของรัฐบาลเป็นไปตามคาด คือ ให้เร่งการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐ, เร่งรัดการอนุมัติโครงการส่งเสริมการลงทุนของBOI และช่วยเหลือต้นทุนการผลิตชาวนาวงเงิน 4 หมื่นล้านบาท ซึ่งส่วนนี้เป็นบวกกับหุ้นที่มีสัดส่วนรายได้ในต่างจังหวัดสูง เช่น DCC, DRT, ADVANC,SINGER, AJD, TK, SAWAD, BIGC, MAKRO, CPALL เป็นต้น ส่วนตลาดหุ้นต่างประเทศ Sentiment เป็นลบหลังจากที่มีข่าวพบผู้ติดเชื้ออีโบลารายแรกในสหรัฐ ซึ่งฉุดตลาดหุ้นสหรัฐร่วง 1.3-1.6% เมื่อคืนนี้ (หุ้นกลุ่มยาปรับขึ้นแต่ไม่สามารถชดเชยกับหุ้นสายการบินที่ดิ่งแรง) และทำให้ตลาดหุ้นเอเชียอ่อนตัวลงในวันนี้ด้วย กลยุทธ์หลักในช่วงนี้คือ ซื้อตามค่าบวกของราคาหุ้น โดย Theme การลงทุนในเดือนต.ค.เป็นการเลือกซื้อหุ้นที่มีข่าวบวก/ปัจจัยสนับสนุน Top Picks เดือนต.ค.57 เป็น CK, CPN, MINT, SYNTEC, TUF ส่วน Dark Horse คือ MJD, TICON สำหรับหุ้นพื้นฐานแนะนำลงทุนวันนี้TTA

      กลยุทธ์ทางเทคนิค : ซื้อใหม่เน้นซื้อตามค่าบวก ค่าลบหรือต่ำกว่า 1585 จุดควรชะลอ/ลดพอร์ต โดยเฉพาะพอร์ตที่มีเงินสดเหลืออยู่น้อย เพราะดัชนีมีโอกาสอ่อนไปยัง 1560-1550 จุดหรือต่ำกว่า ส่วนการปรับขึ้นมีแนวต้านระยะสั้น 1610-1620 จุด ส่วนหุ้นที่ราคามีโอกาสทำ New High เมื่อพิจารณาจากสัญญาณทางเทคนิค ประกอบด้วย VIH, CENTEL, TMB, GUNKUL, APCS, PE (สีน้ำเงิน คือ หุ้นที่เข้ามาใหม่ใน List) ส่วนหุ้นที่แนะนำและปรับขึ้นมาอยู่ในพื้นที่น่าหาจังหวะ Take Profit รอบสั้น คือ LOXLEY, EMC, GLAND หุ้นที่หลุด List – STPI

 

Market Drivers
ปัจจัยต่างประเทศ
• ECB : ประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) วันนี้...คาดว่าจะตอกย้ำถึงการใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ยังเปราะบางล่าสุดมาร์กิตเปิดเผย PMI ภาคการผลิตเดือนก.ย.ปรับตัวลงแตะ 50.3 ซึ่งต่ำสุดในรอบ 14 เดือน จากระดับ 50.7 ในเดือนก.ค.และลดลงเมื่อเทียบกับตัวเลขเบื้องต้นที่ 50.5
•/- สหรัฐ : เฟดกลับมาซื้อพันธบัตรสุทธิเพิ่มในเดือนก.ย. ที่ 4.07หมื่นล้านUS$ จากที่ซื้อสุทธิ 1.96 หมื่นล้านUS$ ในเดือนก่อนหน้า คาดว่าส่วนหนึ่งจะมาจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง โดยดัชนี PMI ภาคการผลิตสหรัฐลดลงเป็น 57.5 ในเดือนก.ย. จาก 57.9 ในเดือนส.ค. และการค่าใช้จ่ายด้านการก่อสร้างลดลง 0.8%YoY

- ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐดิ่งลง 1.3-1.6% เนื่องจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ (CDC) เปิดเผยว่าพบผู้ติดเชื้ออีโบลารายแรกในสหรัฐ หุ้นสายการบินร่วงแรง แต่หุ้นกลุ่มยาปรับขึ้นแข็งแกร่ง
- ราคาน้ำมันดิบซบเซา สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.ลดลง43 เซนต์ ปิดที่ 90.73 US$/bbl ส่วนสัญญา BRENT ลดลง 51 เซนต์ ปิดที่ 94.16 US$/bbl…บริษัทซาอุดิอาราเบียน ออยล์ โค ลดราคาขายน้ำมันดิบให้ลูกค้าในเอเชีย 0.20-1.2 US$/bbl

     • สัญญาทองคำ COMEX ขยับขึ้นเล็กน้อย (+3.9 US$ ปิดที่1,215.5 US$/ออนซ์) เนื่องจากกังวลเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวปัจจัยในประเทศ & ข่าวหลักทรัพย์เด่น
     •/+ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนก.ย.57 ของไทยลดลงเป็น 1.75% ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเท่ากับ 1.73% สำหรับงวด 9M57 อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเท่ากับ 2.15% และพื้นฐาน 1.56% โดยหลักมาจากราคาพลังงานที่ต่ำลงตามตลาดโลก และราคาเนื้อสัตว์ลดลงหลังอุปทานออกมามากขึ้นตามฤดูกาล สำหรับการปรับขึ้นของราคา LPG และ NGV ทุกๆ 1 บาท/กก. ทำให้อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นเพียง 0.00108% และ 0.00144% ตามลำดับ...ความเห็น Retail Research อัตราเงินเฟ้อของไทยยังต่ำและไม่เป็นแรงกดดัน ทำให้ทางการไทยยังคงใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายได้อย่างต่อเนื่อง เราคาดว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายและในระบบการเงินของไทยจะทรงตัวในระดับปัจจุบันไปถึงอย่างน้อยกลางปี 58 ซึ่งเป็นบวกกับกลุ่มที่พักอาศัย, เช่าซื้อ, บัตรเครดิต & สินเชื่อบุคคล, อุปโภคและบริโภคซึ่งเริ่มเห็นการฟื้นตัวตั้งแต่ 4Q57 โดยเฉพาะที่พักอาศัยที่เป็นคอนโดกลางเมืองที่คึกคักขึ้นมาก

    + วานนี้ (1 ต.ค.57) ครม.อนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 2-3เดือนแรกของปีงบประมาณ 58 ซึ่งประกอบด้วย การเร่งรัดการใช้จ่ายและลงทุนภาครัฐกว่า 3 แสนล้านบาท รวมทั้งเร่งอนุมัติโครงการที่ขอรับส่งเสริมการลงทุนจาก BOI ที่คงค้างอยู่ 4.3 แสนล้านบาท และช่วยเหลือต้นทุนการผลิตชาวนา 3.4 ล้านครอบครัว 4 หมื่นล้านบาท...ความเห็นRetail Research คาดว่าการเร่งเบิกจ่ายเงินภาครัฐจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่จะเห็นผลดีอย่างเป็นรูปธรรมในปี 58 แต่ก็ช่วยให้ความเชื่อมั่นประชาชนดีขึ้น ซึ่งหนุนให้การจับจ่ายใช้สอยภายในพลิกฟื้นได้สำหรับการให้เงินช่วยเหลือชาวนานั้น เป็นบวกกับหุ้นที่มีสัดส่วนรายได้ในต่างจังหวัดสูง เช่น DCC, DRT, ADVANC, SINGER, AJD, TK,SAWAD, BIGC, MAKRO, CPALL เป็นต้น

+ กสทช.อนุมัติให้อีก 4 บริษัทในตลาดฯขาย Set top box ของทีวีดิจิตอล ได้แก่ LOXLEY, SINGER, MLINK และ TWZ ซึ่งเป็นการอนุมัติเพิ่มเติมจากช่วงก่อนหน้า...ความเห็น Retail Research นับเป็นข่าวดีกับผู้ประกอบการที่ได้รับอนุมัติ แต่การที่มีผู้ผลิตและจำหน่าย Settop box จำนวนมากขึ้นเป็น 42 บริษัท (ทั้งในและนอกตลาดฯ) ทำให้การแข่งขันด้านราคาก็จะสูงขึ้นตามมา อัตรากำไรกล่องมีโอกาสลดลงจากการขายราคาเดิมแล้วพ่วงด้วยเคมเปญหรือของแถมที่มากขึ้น ซึ่งเป็นผลดีกับผู้บริโภค แต่เป็นลบเล็กๆ กับผู้ประกอบการที่เคยขายกล่องอยู่แล้ว

- BBL มี NPL เพิ่ม 0.3% จาก 2.2% ในกลางปี 57 เป็น 2.5% โดยมาจากลูกค้ารายใหญ่บางกลุ่มที่มีปัญหาเฉพาะบริษัท (ไม่เกี่ยวกับอุตสาหกรรม) ซึ่งหากคำนวณย้อนกลับจากสินเชื่อที่มีอยู่ พบว่า NPL จะเพิ่มขึ้นราว 5 พันล้านบาท ซึ่งค่อนข้างมีนัยสำคัญ และคาดว่าธนาคารจะมีการกันสำรองค่าเผื่อฯเพิ่มขึ้นในช่วง 2H57 ทำให้กำไรสุทธิ & ราคาหุ้นอาจจะ Underperform กลุ่ม การลงทุนใน BBL เน้นซื้ออ่อนตัว มีหุ้นอยู่แล้ว ระยะสั้นแนะนำให้ Switch ไป KBANK ก่อน

• TTA : จะบันทึกผลตอบแทนการลงทุน SINO GRANDNESS เป็นเงินปันผลหรือ Equity income? ขณะนี้ TTA กำลังรอความชัดเจนจากผู้สอบบัญชีหลังเข้าถือหุ้น 9% ในบริษัทไซโน แกรนด์เนส ฟู้ด อินดัสตรีกรุ๊ป (SINO GRANDNESS) ของจีน ทั้งนี้ถ้าพิจารณาตามสัดส่วนการถือหุ้นที่ 9% ก็ควรจะรับรู้เป็นเงินปันผล แต่เนื่องจากบริษัทได้เป็นกรรมการด้วย ซึ่งแสดงถึงการมีอำนาจบริหาร จึงเจรจากับผู้สอบบัญชีเพื่อรับรู้ผลตอบแทนการลงทุนเป็น Equity income หากสำเร็จก็เป็นบวกกับ TTAอย่างมีนัยสำคัญ โดยในปี 56 SINO GRANDNESS มีกำไรสุทธิ 2.17พันล้านบาท คิดส่วนแบ่งกำไรตามที่ถือหุ้น 9% ก็คือ 195 ล้านบาท ซึ่งเท่ากับ 17% ของคาดการณ์กำไรสุทธิ TTA ในปี 58 ที่ 1.15 พันล้านบาทส่วนระยะเวลาคืนทุนอยู่ที่ประมาณ 5 ปี โดยคำนวณแบบ Simple ที่ราคาซื้อ 954 ล้านบาท & ส่วนแบ่งกำไร 195 ล้านบาท/ปี) แนะนำซื้อเก็งกำไร+ SINGER : กำลังเจรจาเข้าซื้อกิจการ (M&A) คาดว่าจะได้ข้อสรุปใน 1Q58 เป้าหมายการเข้าซื้อ คือ กิจการขนาดเล็กในท้องถิ่นของไทย ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตและกระจายสินค้า บริษัทตั้งงบลงทุนไว้ 200-300ล้านบาท ธุรกิจบริษัทมีโอกาสเติบโตหลังเปิด AEC ซึ่งบริษัทกำลังมองหาโอกาสที่จะเข้าไปลงทุนในกัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม ธุรกิจ SINGER มีกำไรดี โดยอัตรากำไรขั้นต้นสูงที่ 50-55% และอัตรากำไรสุทธิ 8-10% สำหรับการเติบโตของกำไรปี 57 คาดว่าจะเป็นเลขหลักเดียว ส่วนในปี 58 มีโอกาสขยายตัวได้ 15-20% แนะนำซื้อลงทุน ราคาเป้าหมายของ Consensus อยู่ที่ 25 บาท มี Upside จากราคาปิดวานนี้ 38%

นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค - arparporns@th.dbsvickers.com 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!