WORLD7

BANPU2024

smed PIONEER 720x100

บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

แม้ SET ยังปรับลงแรง แต่คาดว่าใกล้จะมีรีบาวด์ให้เทรดดิ้งสั้นได้บ้าง...

 กลยุทธ์ : แม้ว่า SET ยังปรับตัวลงแรงต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อน แต่ FSS คาดว่าระยะสั้นยังมีลุ้นโอกาสที่ดัชนีจะมีจังหวะรีบาวด์กลับขึ้นไปแกว่งตัวด้านบวกให้เทรดดิ้งสั้นตามรอบได้บ้าง ดังนั้นสามารถเลือกหุ้นซื้อช่วงลบ เพื่อรอขายทำกำไรช่วงบวกได้ แต่เรายังแนะนำเพียงการเข้าเทรดดิ้งสั้นตามรอบเท่านั้น เพราะเป้าหมายหลักยังมีสิทธิปรับลงไปที่ 1500 จุดหรือต่ำกว่า
  หุ้นเด่นทางเทคนิค : PCSGH, TRT, TPIPL(buy back)
  แนวโน้ม : เมื่อวานนี้ตลาดหุ้นไทยยังปรับตัวลงรุนแรงต่อเนื่องอีกโดยเฉพาะในช่วงครึ่งวันเช้า ก่อนที่ในภาคบ่ายจะมีจังหวะแกว่งทรงตัวได้ดีขึ้นบ้าง แต่ก็ยังมีแรงขายในช่วงปลายตลาดกดดันให้ปิดเป็นลบที่บริเวณจุดต่ำสุดของวัน ขณะที่เช้านี้บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศก็ถือว่าไม่ได้สดใสมากนัก โดยตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนนี้ก็เริ่มมีจังหวะแกว่งตัวผันผวนเป็นบวกเป็นลบแคบๆ หลังจากการทะยานขึ้นแรงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา(3 ต.ค.) คาดว่ามาจากแรงกดดันเกี่ยวกับข้อมูลยอดสั่งซื้อภาคโรงงานของเยอรมนีที่ร่วงลงอย่างหนัก อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ยังปิดเป็นบวกได้ดี ทำให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ยังคงเคลื่อนไหวเป็นบวกลบแคบๆ ไม่ได้มีการปรับตัวลงรุนแรงมากนักและยังมีจังหวะบวกสลับให้เห็นด้วย รวมทั้งยังไม่ได้มีปัจจัยลบใหม่ๆ เข้ามากดดันตลาด ดังนั้น FSS คาดว่าหลังจาก SET มีแรงขายกดดันให้ปรับตัวลงมาพอควรแล้วในช่วงสัปดาห์เศษที่ผ่านมา น่าจะมีแรงซื้อกลับเข้ามาเก็งกำไรจากการปรับตัวลงแรงช่วยหนุน รวมทั้งใกล้ช่วงประกาศงบฯ ไตรมาส 3/57 แล้ว ก็น่าจะมีแรงซื้อเข้ามาลุ้นผลประกอบการหุ้นเป็นรายตัวด้วย เราจึงยังแนะนำให้กลับเข้าเลือกหุ้นซื้อเพื่อเทรดดิ้งได้ แต่ยังเน้นให้ดูจังหวะขายทำกำไรช่วงบวกไว้ด้วย
  แนวรับ 1541-1539 , 1536-1532 จุด แนวต้าน 1548-1553 , 1556-1560 จุด
  Fund Flow วานนี้ยังไหลออกจากตลาดหุ้นภูมิภาคต่อเนื่องเป็นวันที่ 20 โดยนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นเกาหลีใต้ US$228.5 ล้าน ไต้หวัน US$117.9 ล้าน อินโดนีเชีย US$7.8 ล้าน แต่ซื้อไทย US$5.6 ล้าน และเวียดนาม US$0.2 ล้าน ขณะที่ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดทำการ ค่าเงินภูมิภาคเช้านี้ค่อนข้างนิ่ง Flow น่าจะยังไหลออกแต่เบาบาง

ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
  (0) ยังไม่ยกเลิกกฎอัยการศึก แม้ว่าอาจมีผลต่อบรรยากาศการลงทุนอยู่บ้าง แต่นายกฯยืนยันว่าต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศเป็นหลัก เพราะหากยกเลิกอัยการศึกก็อาจปฏิรูปไม่ได้ ในระยะสั้นอาจกระทบหุ้นที่ถูกเก็งกำไรประเด็นนี้มาก่อนเช่น AOT, AAV, ERW แต่หุ้นดังกล่าวเป็นหุ้นที่มีพื้นฐานดี ในระยะยาวเรายังแนะนำซื้อลงทุน
  (+) เงินบาทที่อ่อนค่าทำให้กลุ่มอิเล็คทรอนิคส์แข็งแรงกว่ากลุ่มอื่น เราคิดว่าเหตุผลดังกล่าวเป็นเพียง Sentiment แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ได้ช่วยการส่งออก เพราะสินค้าส่งออกของเรายังมีปัญหาทั้ง Supply side คือปริมาณผลผลิตกุ้งยังกลับมาไม่เต็มที่ และราคาพืชผลทางการเกษตรหลายประเภทที่ยังอยู่ในระดับต่ำเช่น ข้าว ยางพารา มันสำปะหลัง เห็นได้จากยอดส่งออกในช่วง 2 เดือนแรกของ 3Q14 ยังทำได้เฉลี่ยเพียง US$1.89 หมื่นล้าน ลดลง 4.3% Y-Y อย่างไรก็ตาม ไก่ส่งออกยังทำได้ดี เรายังแนะนำ CPF (ราคาเป้าหมายปี 2015 ที่ 35.50 บาท) เพราะคาดว่ากำไรใน 3Q14 น่าจะเติบโตสูง ส่วน GFPT ราคาหุ้นใกล้เต็มมูลค่าแล้ว สำหรับหุ้นในกลุ่มอิเล็คทรอนิคส์ น่าจะมีกำไรดีทุกบริษัทเพราะ 3Q เป็น High season ของธุรกิจอยู่แล้ว เรายังชอบ KCE (ราคาเป้าหมายปี 2015 ที่ 48 บาท) มากที่สุดเพราะ Valuations ที่ถูกที่สุดในกลุ่ม
  (+) PS ยอด Presales ใน 3Q14 ทำได้ดี เพิ่มขึ้นถึง 37% Q-Q และ 21% Y-Y เพิ่มขึ้นทั้งบ้านเดี่ยวและคอนโด ทำให้ Presales งวด 9M14 ทำได้ 73% ของเป้าทั้งปี แนวโน้มกำไรปกติใน 3Q14 น่าจะเพิ่มขึ้นทั้ง Q-Q และ Y-Y ตามทิศทางรายได้โอน เรายังคงคำแนะนำซื้อ คงราคาเป้าหมายปี 2015 ที่ 42 บาท (PE 13 เท่า) โดย PS เป็นหนึ่งใน Top pick ในกลุ่มที่อยู่อาศัย
  (0) CPALL แนวโน้มการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ใน 3Q14 ไม่สดใสนัก อาจพลิกกลับมาหดตัว 1-3% Y-Y จาก +0.5% Y-Y ใน 2Q14 เพราะการตอบรับ Stamp Promotion ไม่ดีเท่าปีก่อน และถูกกระทบจากการบริโภคที่ยังไม่ฟื้นตัวนัก แต่ชดเชยได้บางส่วนจากค่าใช้จ่ายในดีลซื้อ MAKRO ที่ลดลง ทำให้เราคาดเบื้องต้นว่าน่าจะมีกำไรสุทธิ 2.4-2.5 พันล้านบาท เพิ่ม 6% Q-Q แต่ลดลงประมาณ 10% Y-Y ต่ำกว่าที่เคยคาดไว้ จึงมีโอกาสที่เราจะปรับประมาณการกำไรสุทธิปีนี้ลง แต่เรายังมองบวกต่อการฟื้นตัวของการบริโภคในปีหน้า จึงยังคงราคาเป้าหมายปี 2015 ที่ 58 บาท และคงคำแนะนำซื้อ

  ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปรับตัวลดลงเล็กน้อยหลังจากพุ่งขึ้นแข็งแกร่งในวันก่อนหน้า โดยนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่รายงานการประชุมของ FED จะออกมาในอีก 2 วันข้างหน้า รวมถึงตลาดจับตาดูผลประกอบการ 3Q14 ของบริษัทจดทะเบียน
  ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนสามารถปิดในแดนบวกได้ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวนแม้ตัวเลขเศรษฐกิจของเยอรมนีจะออกมาไม่ดี
  ส่วนตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวค่อนมาในแดนลบโดยนักลงทุนจับตาดูผลการประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่นและออสเตรเลียว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินหรือไม่อย่างไร
  ค่าเงินบาทแกว่งตัวค่อนข้างผันผวนวานนี้ ล่าสุดวันนี้ปรับตัวในกรอบ 32.50-32.63 บาท/ดอลลาร์
  ราคาน้ำมันดิบในตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน พ.ย. เพิ่มขึ้น 0.60 ดอลลาร์/บาร์เรล มาปิดที่ 90.34 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังร่วงลงอย่างหนักสัปดาห์ก่อน รวมถึงค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่เริ่มอ่อนค่าลงบ้างเป็นอีกปัจจัยหนุน
  ราคาทองคำในตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. พุ่งขึ้น 14.40 ดอลลาร์/ออนซ์ มาปิดที่ 1,207.30 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากราคาทองคำปรับตัวลงไปทำจุดต่ำสุดในรอบ 15 เดือน โดยได้รับแรงหนุนจากดอลลาร์สหรัฐฯที่อ่อนค่าลง
ปัจจัยที่ต้องติดตาม

1-7 ต.ค. - จีน: ตลาดปิดทำการ เฉลิมฉลองวันชาติ
7 ต.ค - อินโดนีเซีย: ธนาคารกลางประชุม
- ออสเตรเลีย: ธนาคารกลางประชุม
8 ต.ค. - จีน:HSBC China Composite PMI (ก.ย.)
9 ต.ค. - ไทย:ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ก.ย.)
- สหรัฐ:รายงาน Fed Minutes ของวันที่ 16-17 ก.ย.
10 ต.ค. - จีน:ยอดสินเชื่อ (ก.ย.)
- สิงคโปร์: 3Q14 GDP
10-11 ต.ค. - IMF meeting
13 ต.ค. - จีน:ดุลการค้า (ก.ย.)
14 ต.ค. - ไทย: FSMART เทรดวันแรก (ราคา IPO 2.50 บาท)
- ยูโรโซน: ZEW Survey Expectations (ต.ค.)
15 ต.ค. - จีน: เงินเฟ้อ (ก.ย.)
- เกาหลีใต้: ธนาคารกลางประชุม
- สหรัฐ: ยอดค้าปลีกและเงินเฟ้อ (ก.ย.)
Contact person : Somchai Anektaweepon
Research Dept.   Tel: 02-646-9967, 02-646-9852 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!