WORLD7

BANPU2024

smed PIONEER 720x100

บล.กรุงศรี : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

แนวโน้มและปัจจัยการลงทุนวันนี้
เหนือ 1550 จุดเก็งกำไร – ต่ำกว่ารอดู
  ตลาดหุ้นปรับตัวลงแรง -1.73% สวนทางกับตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในภูมิภาค โดยปิดตลาดที่ 1543.13 จุด (-27.15 จุด) ดัชนี MAI ลดลงมากถึง -3.64%, และลดลงเกือบทุกกลุ่มยกเว้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ และลดลงมากสุดคือกลุ่มเหมืองแร่ -4.3%, ท่องเที่ยว -3.4%, อสังหาฯ -3.3%, มีเดียส์ -2.9% และเงินบาททำสถิติอ่อนค่าต่อเนื่องในรอบกว่า 3 เดือนที่ 32.63 บาท/US$ และเงิน US$ แข็งค่าแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 ปี สะท้อนทุนไหลกลับ มูลค่าการซื้อขายเพิ่มขึ้นเป็น 55,461 ล้านบาท ต่างชาติสลับซื้อสุทธิเล็กน้อย 184 ล้านบาท กองทุนในประเทศขายสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 อีก 3,013 ล้านบาท

ปัจจัยการลงทุนวันนี้
  การประท้วงต่อต้านรัฐบาลจีนในฮ่องกงเพิ่มความกังวลถึงผลกระทบต่อเศรษฐกิจในภูมิภาค โดยเฉพาะจีน ซึ่งฮ่องกงเป็นเป็นช่องทางหนึ่งที่จีนใช้เป็นฐานเชื่อมต่อกับประเทศต่างๆทั้งทางด้านตลาดทุน ตลาดเงินและการขนส่ง เหตุการณ์นี้อาจ ทำให้เศรษฐกิจจีนที่ยังคงซบเซาอยู่เลวร้ายไปกว่าเดิม และอาจซ้ำเติมราคาน้ำมันและผลให้อุปสงค์น้ำมันดิบลดลงต่อเนื่อง
  ธนาคารโลกปรับลดคาดการณ์จีดีพีจีนเหลือ 7.4% ในปี 57 และ 7.2% ในปี 58 และปรับลดการคาดการณ์จีดีพีไทยปีนี้เหลือ 1.5% จากเดิม3.0% ส่งออกยังหดตัวลงจากความอ่อนแอของภาคสินค้าและบริการคาดว่าการส่งออกปีนี้จะโตได้เพียง 0.7% และการนำเข้าหดตัว 5.1% การบริโภคภาคครัวเรือนขยายตัวอย่างจำกัดที่ 2% ในช่วงครึ่งปีหลังเป็นผลจากปัญหาหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มสูงกว่า 80% ของ GDP ในช่วงท้ายของครึ่งปีแรก ส่วนการลงทุนภาคเอกชนคาดว่าจะปรับตัวขึ้นอย่างช้าๆ ที่ 1.5% เนื่องจากอัตราการใช้กำลังการผลิตยังคงตัวอยู่ที่ 60.6% ในเดือนมิ.ย. และในปี 58 คาดการณ์เติบโตจะลดลงเหลือ 3.5% จากเดิม 4.5% ส่งออกเติบโต 6.4% ลงทุนภาครัฐเติบโต 10% บริโภคครัวเรือน 1.5%
  สมาชิกสภาปฎิรูปแห่งชาติ (สปช.) ทั้ง 250 คนได้จัดตั้งขึ้นแล้วเสร็จ รัฐบาลคาดหวังการช่วยการปฎิรูปประเทศทั้ง 11 ด้านซึ่งกระบวนการต่อจากนี้คือการตั้งคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และร่างรัฐธรรมนูญให้แล้วเสร็จซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 6 เดือน

  เราประเมินความเสี่ยงจากแรงขายต้นไตรมาสและปรับฐานยังมีอยู่ มองว่า SET วันนี้จะมีสำคัญที่ 1,550 จุดหากรีบาวด์และยืนได้เหนือ 1550 จะเข้าสู่กรอบราคา 1,550-1,570 จุดแนะนำเลือกซื้อหุ้นเก็งกำไรสั้นเมื่อขาขึ้น แต่ถ้าตลาดปรับลดลงต่ำกว่า 1,550 จุด มีโอกาสปรับฐานทางลงได้ต่อในกรอบ 1,550-1,525 จุด (แนวรับเชิง P/E Band เส้น 17 เท่าหรือเทียบเท่า 1530 จุดถือว่ามีนัยสำคัญ) แนะนำรอดูตลาดปรับฐาน

แนวโน้มการลงทุนสำหรับระยะกลาง
ลดพอร์ตถือครองเหลือ 20%

  เราได้ลดพอร์ตถือครองหุ้นเหลือ 20% และสัดส่วนการถือครองเงินสด 80% โดยจำนวนหุ้นที่ถือครองอยู่ 4 บริษัทคือ PTTEP, HMPRO, CPALL, และ ADVANC

  Accumulate : -- รอสะสมหุ้น

  Trading : เลือกซื้อหุ้นเก็งกำไรเหนือ 1550 จุด ต่ำกว่า รอ

  เปรียบเทียบดัชนี

  สถานะพอร์ตจำลอง (เริ่มวันที่ 25 พ.ย. 56)
  พอร์ตหุ้น 20% ถือเงินสด 80%

ผลตอบแทนพอร์ตจำลอง (30%) = +0.9%
ผลตอบแทนถือเงินสด (70%) = +1.6%
ผลตอบแทนรวม (100%) = +2.5%
ผลตอบแทนตลาด SET = +14.1%

  พอร์ตลงทุน KSS ได้รับรู้กำไรจากการลดพอร์ต 4 ครั้งในวันที่ 2 ก.ย. ลดจาก 70% เหลือ 60% (ส่วนต่างขาดทุนเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก -0.7%)
  วันที่ 5 ก.ย. จาก 60% เหลือ 50% (ส่วนต่างกำไรเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก +3.3%)
  วันที่ 16 ก.ย. ขายหุ้นลดพอร์ตจาก 50% เหลือ 30% (ส่วนต่างกำไรเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก +5.9%)
  วันที่ 24 ก.ย. ขายหุ้นลดพอร์ตจาก 30% เหลือ 20% (ส่วนต่างกำไรเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก +1.7%)
  รวมการรับรู้ส่วนต่างกำไรเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักจากการลดพอร์ต 4 ครั้งคิดเป็น +10.2%

Analysts :
Kasamapon Hamnilrat Registration No. 17622
Apisak Limthumrongkul Registration No. 13130

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!