WORLD7

BANPU2024

smed PIONEER 720x100

บล.เคเคเทรด : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน

 

SET ยังไม่เจอแนวรับ
SET View
     แนวโน้มวันนี้คาด SET มีโอกาสปรับลงทดสอบบริเวณ 1520-1530 จุด ด้วยหลากปัจจัยกดดันจิตวิทยาการลงทุน(1) ตลาดหุ้นภูมิภาคส่วนใหญ่เปิดลบตามดัชนีดาวโจนส์ที่ปิดลบ 272 จุดเมื่อคืนนี้(2) IMF ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกลง(3) ต่างชาติขายสุทธิสัญญาล่วงหน้าในตลาด TFEX อีก 1.8 หมื่นสัญญา สะสมจากต้นเดือนแล้วกว่า 4.4 หมื่น (4)ราคาน้ำมันดิบยังคงปรับลงต่อเนื่องยังคงกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน(5) กลุ่มธนาคารยังมีโอกาสถุกปรับลดคาดการณ์อัตราเติบโตของสินเชื่อหลังประกาศงบราวกลางเดือนนี้ (6) ทางเทคนิค SET ปิดต่ำกว่า 1550 จุดซึ่งเป็น lower bound ของ uptrend channel บ่งบอกถึง SET สิ้นสุดขาขึ้นระยะกลาง โดยมีแนวรับถัดไปบริเวณ 1500 จุดหรือต่ำกว่าเว้นแต่จะสามารถกลับขึ้นมายืนบริเวณดังกล่าวได้ภายในสัปดาห์นี้

      กลยุทธ์การลงทุน ระยะ 1-2 วัน เสี่ยงซื้อหาก SET เปิดลบตั้งแต่บริเวณ 1530 จุดลงไปและสามารถกลับมาปิดบวกได้ในวันนี้แต่หากเปิดสูงกว่า 1540 จุดหาจังหวะทยอยขายไม่ไล่ราคาวันนี้หาก SET ปิดเหนือ 1540 จุดไม่ได้เน้นถือครองเงินสด

    (1)Top Daily Pick :WORK (ช่อง Workpont TV เดือนก.ย. ยังคงมีเรตติ้งสูงสุดในกลุ่มทีวีดิจิทัล ซึ่งจะได้ประโยชน์จากการแจกคูปองทีวีดิจิทัลในสัปดาห์นี้ ขณะที่ราคาหุ้นเริ่มกลับมามี upside จากมูลค่าเหมาะสม)LH(ยอด presales 3Q57 ที่สูงเป็นประวัติการณ์ที่ 1 หมื่นลบ., การเปิด 9 โครงการใหม่มูลค่า 1.6 หมื่นลบ.ช่วง 2H57 รวมถึงมีงานในมือกว่า 2 หมื่นล้านบาท รองรับการรับรู้รายได้ต่อเนื่องไปถึงสามปี)
     (2)Technical Pick : BTS TUF FPI GENCO TEAM
     (3)Theme Play : กลุ่มสื่อสารนำตลาดที่คาดผลประกอบการ 3Q57 ออกมาดี (ADVANC DTAC INTUCH THCOM)

CK และ SEAFCO จะได้ประโยชน์ชัดเจนจากงานประมูลรถไฟฟ้าปี 58
    1.เราเริ่มเห็นความชัดเจนของงบลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาลมากขึ้นโดยจะเห็นว่างบทั้งหมดราว 2.4 ล้านล้านบาท ส่วนใหญ่เน้นไปที่ระบบการขนส่งในประเทศ ประกอบด้วยขนส่งมวลชน, รถไฟรางคู่ และถนนมอเตอร์เวย์ ในสัดส่วน 40%, 30% และ 30% ตามลำดับซึ่งจะทำให้กลุ่มบริษัทรับเหมาก่อสร้างโดยรวมมีงานรองรับต่อเนื่องไปตลอดจากปี 58 จนปี 63

     2.สำหรับในปี 58 เราประเมินว่าจะมีงบประมาณราว 3 แสนล้านบาท โดยงบลงทุนรถไฟฟ้าเป็นสัดส่วนมากที่สุดราว 2.5 แสนล้าน คิดเป็น 70% ของงบทั้งปีรองลงมาคืองบรถไฟรางคู่ (7.4 หมื่นล้าน),ท่าอากาศยาน (2.4 หมื่นล้าน), และมอเตอร์เวย์ ชลบุรี-มาบตาพุด (1.5หมื่นล้าน) โดยในโครงการรถไฟฟ้าเราคาดจะได้เห็นการประมูลสายสีชมพูและสายสีส้มต่อจากสายสีเขียวในระยะเวลาอันใกล้นี้ การอ่อนตัวของราคาหุ้นในกลุ่มรับเหมาะที่จะได้ประโยชน์จากโครงการเหล่านี้ (CK ITD STEC SEAFCO) จะเป็นจังหวะทยอยสะสม สำหรับการลงทุนระยะ 6-12 เดือนขึ้นไป

       3.CK (ซื้อ/31.2 บาท) น่าสนใจที่สุดในกลุ่ม (1)เป็นบริษัทที่มีศักยภาพเป็นอันดับต้นในการรับงานรถไฟฟ้าและโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆจากภาครัฐ (2)อยู่ระหว่างเซ็นสัญญามูลค่ากว่า 2.5 หมื่นล้านกับงานก่อสร้างของบริษัทลูก (บางปะอินโคเจน2,เขื่อนน้ำบาก,และงานขยาย TTW) จะทำให้ backlog ทั้งหมดเพิ่มเป็น 1.25 แสนล้าน สูงเป็นประวัติการและสูงที่สุดในกลุ่ม (3)มีบริษัทลูกที่มีศักยภาพในธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน (BMCL BECL TTW CKP) นอกจากการรับส่วนแบ่งรายได้และเงินปันผลแล้ว มูลค่าตลาดของบ.ลูกมีโอกาสเติบโตตามผลประกอบการในอนาคต (4) ใน 3Q57 จะมีบันทึกกำไรพิเศษจากการขายบางส่วนของ BMCL ไปโดยจะบันทึกเป็นมูลค่าสูงถึงกว่า 40% ของกำไรทั้งปีของ CK มาอีกด้วย

4.SEAFCO (เก็งกำไร/ 6.7บาท) เป็นผู้รับงานฐานรากและเสาเข็มซึ่งใช้ในงานก่อสร้างรถไฟฟ้า ที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญเฉพาะและมีคู่แข่งน้อยราย ล่าสุดได้รับงานรถไฟฟ้าสายสีเขียวแบบ subcontract มาจาก CK และมีโอกาสรับงานอื่นๆอีกต่อเนื่อง

Smart Port Note
     Beta ของพอร์ตลงทุนแสดงถึงความเสี่ยงของหุ้นในพอร์ตเทียบกับตลาด SET หากค่า Beta สูงกว่าหนึ่งเท่า แสดงถึงความเสี่ยงของพอร์ตลงทุนที่สูงกว่า SET
Growth Port มีค่า Beta เท่ากับ 1.36
Trading Port มีค่า Beta เท่ากับ 0.86
Dividend Port มีค่า Beta เท่ากับ 0.87
Quant Port มีค่า Beta เท่ากับ 0.50 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!