WORLD7

BANPU2024

smed PIONEER 720x100

บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

แม้ SET ปรับลง แต่ก็มีแรงซื้อดันกลับ จึงยังลุ้นเทรดดิ้งสั้นตามรอบได้!!

  กลยุทธ์ : SET ปรับตัวลงมาพอควรแล้วในช่วงสัปดาห์เศษที่ผ่านมา และยังมีแรงรับกลับให้เห็น ทำให้ FSS คาดว่าระยะสั้นมีลุ้นโอกาสที่ดัชนีจะรีบาวด์กลับขึ้นไปแกว่งตัวด้านบวกได้บ้าง ดังนั้นช่วงนี้จึงยังเข้าเทรดดิ้งสั้นตามรอบได้ แต่ควรมองหาจังหวะขายทำกำไรช่วงบวกด้วย เพราะเราคาดว่าสุดท้าย SET ยังมีสิทธิปรับลงไปที่ 1500 จุดหรือต่ำกว่าอยู่


  หุ้นเด่นทางเทคนิค : VGI, CCP, SPCG(short)
  แนวโน้ม : แม้ว่าเมื่อวานนี้ SET จะยังปรับตัวลงต่อเนื่องในช่วงต้นชั่วโมง แต่ก็เป็นแค่ช่วงแรกหลังเปิดทำการ แต่หลังจากนั้นดัชนีก็ค่อยๆ ไต่ระดับกลับขึ้นมาแกว่งตัวบวก-ลบเล็กน้อยอยู่เกือบตลอดวัน ก่อนที่ในช่วงท้ายจะมีแรงซื้อหนาแน่นขึ้นและช่วยผลักดันให้ SET กลับมาปิดเป็นบวกได้ในที่สุด แสดงถึงแรงซื้อเก็งกำไรจากการปรับตัวลงแรง และคาดการณ์ผลประกอบการรายไตรมาสที่เริ่มกลับเข้ามาในตลาดตามที่ได้กล่าวถึงไปบ้างแล้ว ขณะที่เช้านี้ยังได้รับแรงหนุนจากการบวกกลับขึ้นมาแรงของตลาดหุ้นสหรัฐ เพื่อขานรับรายงานการประชุมเฟดที่ส่งสัญญาณว่าจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะเวลาอันใกล้นี้ ทำให้บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ค่อนข้างสดใสด้วย ดังนั้น FSS จึงยังคาดว่า SET มีโอกาสที่จะยังอยู่ในช่วงรีบาวด์ขึ้นได้ต่อเนื่อง เราจึงยังแนะนำให้เลือกหุ้นเข้าซื้อเพื่อเทรดดิ้งสั้นตามรอบได้เช่นเดิม อย่างไรก็ตามเราคาดว่าการรีบาวด์รอบนี้จะเป็นช่วงสั้นและมีกรอบขึ้นที่ค่อนข้างจำกัด เพราะยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามาเพิ่ม และสุดท้ายแล้วยังต้องระวังการปรับตัวลงใหม่อีกครั้ง เพื่อลุ้นโอกาสไหลลงหาระดับดัชนีเป้าหมายแถว 1500 จุดหรือต่ำกว่าตามที่เคยคาดไว้เดิมอีก ดังนั้นในจังหวะตลาดบวกจึงควรมองหาจังหวะขายทำกำไรเพื่อลดความเสี่ยงด้วย
  แนวรับ 1540-1535 , 1532-1528 จุด แนวต้าน 1548-1552 , 1556-1560 จุด
  Fund Flow วานนี้ยังไหลออกจากตลาดหุ้นภูมิภาคติดต่อกันเป็นวันที่ 22 ในปริมาณการที่เบาบาง โดยนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไต้หวัน US$133.8 ล้าน เกาหลีใต้ US$102.5 ล้าน ไทย US$78.4 ล้าน อินโดนีเซีย US$19 ล้าน ฟิลิปปินส์ US$8.3ล้าน และเวียดนาม US$3.5ล้าน ค่าเงินภูมิภาคเช้านี้แข็งค่าเล็กน้อยตามยูโร Flow น่าจะเบาบางต่อ

 

ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
  (+) รายงานประชุม Fed กลับมาหนุนบรรยากาศการลงทุนในระยะสั้น รายงานการประชุม Fed เมื่อ 16-17 ก.ย. ระบุว่าเศรษฐกิจสหรัฐที่ผ่านมาขยายตัวได้ดีปานกลางและตลาดแรงงานดีขึ้น แต่การชะลอตัวของเศรษฐกิจในยุโรปและเอเชีย ในขณะที่ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น อาจส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจ (ส่งออก) ของสหรัฐเองในระยะต่อไป รายงานนี้ทำให้ตลาดตีความว่า Fed อาจเลื่อนการขึ้นดอกเบี้ยออกไป จากเดิมที่กังวลว่าจะขึ้นดอกเบี้ยภายใน 1H15 ส่งผลค่าเงินดอลลาร์กลับมาอ่อนค่า ทองกลับมาบวก ค่าเงินบาทเริ่มอ่อน ดีต่อหุ้นและโภคภัณฑ์
  (0) ธนาคารจะเริ่มรายงานผลประกอบการ 3Q14 ตั้งแต่จันทร์หน้า เราคิดว่ามีโอกาสที่กำไรจะออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาด และเป็นเหตุให้การรีบาวนด์ของตลาดฯขณะนี้ไม่ยั่งยืน เราคาดกำไรใน 3Q14 น่าจะทำได้เพียงทรงตัวทั้ง Q-Q และ Y-Y (ตลาดคาดกำไรเพิ่ม Q-Q) จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ยังชะลอตัว และการตั้งสำรองฯสูงขึ้นในบางธนาคาร (SCB, KBANK, BBL) แม้ไม่รวมการตั้งสำรองฯ กำไรจากการดำเนินงาน (PPOP) ก็ชะลอเพราะต้นทุนการเงินเพิ่มและรายได้ค่าธรรมเนียมลดลงเพราะธุรกิรรมการเงินซบเซา สอดคล้องกับสินเชื่อที่คาดว่าจะฟื้นตัวช้า เพียง 0.7-1% Q-Q เพราะการลงทุนใหม่ๆยังไม่เกิด การบริโภคของรากหญ้ายังไม่ฟื้น อย่างไรก็ตาม คาด KTB มีกำไรโตมากสุดเมื่อเทียบ Q-Q และ KBANK โดดเด่นที่สุด Y-Y เรายังชอบ KBANK (เป้าหมายปี 2015 ที่ 261 บาท) ในระยะยาว ส่วนระยะสั้น ชอบ KTB (เป้าหมายปี 2015 ที่ 27.60 บาท)
  (+) SPALI แนวโน้มกำไรใน 3Q14 จะดีขึ้นมากทั้ง Q-Q และ Y-Y เนื่องจากในไตรมาสนี้มีคอนโดที่ครบกำหนดโอนมูลค่าสูง 8.77 พันล้านบาท และคาดกำไรใน 4Q14 จะทรงตัวดีต่อเนื่อง สำหรับยอด Presales ใน 3Q14 ทำได้ 6.86 พันล้านบาท เพิ่มถึง 77% Q-Q และ 55% Y-Y ทำให้ Presales 9M14 เป็น 67% ของเป้าทั้งปีซึ่งยังมีโอกาสทำได้ตามเป้า เพราะจะมีคอนโดอีก 4 โครงการและบ้านอีก 3 โครงการเปิดขายใน 4Q14 ราคาหุ้นปัจจุบันคิดเป็น PE ปีหน้าเพียง 9.9 เท่า ต่ำกว่ากลุ่มที่ 11 เท่า และต่ำกว่าการเติบโตของกำไรในปีหน้าที่ 11% ยังคงแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายปี 2015 ที่ 28 บาท (PE 11 เท่า)
  (0) LH แนวโน้มกำไรใน 3Q14 น่าจะลดลงทั้ง Q-Q และ Y-Y ตามรายได้โอนที่น้อยลง กำไรน่าจะกลับมาดีขึ้นอีกครั้งใน 4Q14 เพราะมีคอนโดที่ครบกำหนดโอนมากขึ้น สำหรับยอด Presales 3Q14 ทำได้ 1.09 หมื่นล้านบาท +23% Q-Q, +9% Y-Y ทำให้งวด 9M14 คิดเป็น 82% ของเป้าทั้งปี ซึ่งคาดว่าจะทำได้ตามเป้า ส่วนกอง REIT โครงการเทอร์มินัล 21 มูลค่าประมาณ 6 พันล้านบาท อยู่ระหว่างยื่น filing บริษัทจะดูภาวะตลาดอีกครั้งก่อนจะเปิดขาย ซึ่งอาจเป็น 4Q14 หรือปี 2015 เรายังคงราคาเป้าหมาย 12 บาท (SOTP) และคงคำแนะนำซื้อ อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นอาจขาดแรงกระตุ้นในระยะสั้นเพราะการขยายตัวของกำไร 3Q14 ที่ดูด้อยกว่าผู้ประกอบการรายอื่น

  ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมารีบาวด์กลับขึ้นมาได้ค่อนข้างแรงเกือบ 2% โดยนักลงทุนตอบรับเชิงบวกต่อรายงานการประชุมของ FED ที่ส่งสัญญาณว่า FED จะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะเวลาอันใกล้นี้
  ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนที่ผ่านมาส่วนใหญ่ยังปิดในแดนลบต่อเนื่องจากความกังวลเรื่องของการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกรวมถึงยูโรโซนที่ตัวเลขเศรษฐกิจในช่วงหลังออกมาค่อนข้างน่าเป็นห่วง นอกจากนี้ยังถูกกดดันจากเรื่องการแพร่ระบาดของไวรัสอีโบล่า
  ส่วนตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวในแดนบวกได้ตามตลาดหุ้นสหรัฐฯจากรายงานการประชุม FED ที่ช่วยคลายความกังวลเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยในอนาคตได้
  ค่าเงินบาทกลับมาแข็งค่าขึ้นเล็กพอควร ล่าสุดปรับตัวในกรอบ 32.47-32.56 บาท/ดอลลาร์
  ราคาน้ำมันดิบในตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน พ.ย. ร่วงลง 1.54 ดอลลาร์/บาร์เรล มาปิดที่ 87.31 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยยังคงถูกกดดันจากการที่ IMF ปรับลดประมาณการการเติบโตของเศรษฐกิจโลก นอกจากนี้ EIA ยังรายงานตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯปรับตัวเพิ่มขึ้น
  ราคาทองคำในตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ลดลง 6.40 ดอลลาร์/ออนซ์ มาปิดที่ 1,206.00 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยมีแรงขายทำกำไรออกมาหลังจากราคาพุ่งขึ้นในวันก่อนหน้า แต่ราคาปรับลงจำกัดเนื่องจากรายงานการประชุม FED ระบุว่าจะยังไม่ขึ้นดอกเบี้ยในเร็วๆนี้
ปัจจัยที่ต้องติดตาม

9 ต.ค. - ไทย: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ก.ย.)
10 ต.ค. - จีน: ยอดสินเชื่อ (ก.ย.)

- สิงคโปร์: 3Q14 GDP
10-12 ต.ค. - IMF annual meeting
13 ต.ค. - จีน: ดุลการค้า (ก.ย.)
13-21 ต.ค. - ไทย: กลุ่มธนาคารประกาศงบการเงิน 3Q14
14 ต.ค. - ไทย: FSMART เทรดวันแรก (ราคา IPO  2.50 บาท)
- ยูโรโซน: ZEW Survey Expectations (ต.ค.)
15 ต.ค. - จีน: เงินเฟ้อ (ก.ย.)
- เกาหลีใต้: ธนาคารกลางประชุม
- สหรัฐ: ยอดค้าปลีกและเงินเฟ้อ (ก.ย.)  
16 ต.ค. - สหรัฐ: รายงาน Fed Beige Book
17 ต.ค. - ไทย: ยอดขายรถ (ก.ย.)
- สหรัฐ: Housing starts, Building permits (ก.ย.)
21 ต.ค. - จีน: 3Q14 GDP
Contact person : Somchai Anektaweepon
Research Dept.   Tel: 02-646-9967, 02-646-9852 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!