Details

Category: บทวิเคราะห์

Published: Tuesday, 14 October 2014 17:48

Hits: 1956

บล.บัวหลวง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน

รอบด้านตลาดหุ้น

ประเด็นข่าว
      1.ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเป็นส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ หลังจากทางการจีนเปิดเผยว่า ยอดส่งออกเดือนก.ย.พุ่งขึ้นแข็งแกร่งสุดในรอบ 19 เดือน
      2.สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อ เพราะได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ หลังจากเจ้าหน้าที่ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ออกมาส่งสัญญาณว่าอาจจะชะลอเวลาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
      3.สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดขยับลง หลังจากซาอุดิอาระเบีย ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่สุดในกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ส่งสัญญาณว่า ซาอุดิอาระเบียสามารถยอมรับราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงได้

มุมมองตลาด
     ตลาดหุ้นในภูมิภาคปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงมาแล้วทั้งสิ้น 4% จากจุดยอดที่ 1600 จุด ปัจจุบันดัชนีทดสอบเส้นค่าเฉลี่ย 75 วันที่ 1540 จุด แต่ถ้าหากมองดูทางด้านเทคนิคแล้ว ตลาดหุ้นยังยืนเหนือแนวรับสำคัญ 1540 จุด (ดังภาพ) ทำให้สัญญาณทางเทคนิคของตลาดพักตัวปรับฐานบนทิศทางขาขึ้น โดยมีเหตุผลดังนี้:
     1.ตลาดปรับตัวลงแรง 4% แต่จากชาร์ตเราพบว่าแนวรับสำคัญของตลาดจะอยู่บริเวณ 1540 จุด
     2.แรงขายของนักลงทุนต่างชาติ แต่จะถูกแรงซื้อกลับจากกองทุนในประเทศ คาดเม็ดเงินจากกองทุนในประเทศ LTF และ RMF ในช่วงปลายปีจะเป็นตัวหนุนตลาด
      3.ค่าเงินบาทเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ ปัจจุบันอ่อนค่ามาถึงจุดต้านสำคัญ 32.6 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ อาจส่งผลให้ค่าเงินกลับมาแข็งค่าขึ้น Reverse trend
4.ตลาดหุ้นไทยยังคงยืดหยุ่น และปรับตัวโดดเด่นกว่าตลาดอื่นๆในแถบเอเชียเนื่องจาก นักลงทุนมองข้อมูลเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังปรับตัวดีขึ้น
       แนวทางการลงทุน: ปัจจุบันดัชนีปรับตัวลงมาแล้วทั้งสิ้น 3.7% จากจุดยอด และกำลังสู้บริเวณเส้นค่าเฉลี่ย 75 วัน 1540 จุด ( 75-days EMA) หากหลุดมองแนวรับถัดไปที่ 1500-1520 จุด ซึ่งน่าจะทำให้เครื่องมือทางเทคนิคอยู่ในระดับ Oversold และมองเป็นจุดที่น่าสนใจในการเข้าซื้อ

ธนรัตน์ อิศรกุล Tel. (662) 618-1334
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์

ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อตลาด

ฟันธงดัชนีปีหน้าทะลุ 1,706 จุด สมาคมนักวิเคราะห์แนะเพิ่มน้ำหนักหุ้น 46%
ผลสำรวจนักวิเคราะห์ฟันธง หุ้นไทย ปี 2558 ทะลุ 1,706 จุด รับอานิสงส์มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและโครงการลงทุนขนาดใหญ่ บล.เอเชียเวลท์ ประเมินสูงสุดที่ 1,850 จุดแนะเพิ่มน้ำหนักในหุ้นไทย 46% ด้าน บล.เอเซีย พลัส มองจุดหุ้นไทยปรับฐานไม่เสร็จ รองบไตรมาส 3 ชี้ขาด แนะถือเงินสด 70% รับแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ-ลงทุนขนาดใหญ่ภาครัฐ ผลกำไรบจ.ขยายตัว (หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ)

จ่ายเงินชาวนางวดแรก 20 ต.ค.
นายพงษ์เทพ รัตนธาดากุล รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ธ.ก.ส.เตรียมจ่ายเงินชาวนาปลูกข้าวฤดูกาลผลิต 57/58 งวดแรกวันที่ 20 ต.ค.นี้ คาดวงเงินก้อนแรกอยู่ที่ 5,000 ล้านบาท ให้กับเกษตรกรทั่วประเทศ จากมาตรการลดต้นทุนการผลิตวงเงินรวม 40,000 ล้านบาท อัตราไร่ละ 1,000 บาท ตามการปลูกข้าวจริงไม่เกินครัวเรือนละ 15 ไร่ หรือไม่เกิน 15,000 บาท (หนังสือพิมพ์เดลินิวส์)

ชงครม.เพิ่มงบ8พันล้านปรับแบบรถไฟฟ้าสีแดง
พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม เปิดเผยหลังลงตรวจความคืบหน้ารถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต ระยะทาง 26.3 กม.ว่า กระทรวงฯ จะเสนอขอเพิ่มวงเงินการปรับแบบการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดงช่วงบางซื่อ-รังสิต 8,140 ล้านบาท ให้ครม.พิจารณาสัปดาห์หน้าเพื่อรองรับการเดินรถระบบรางให้ครบถ้วน ซึ่งแยกเป็นค่าก่อสร้างในสัญญา 1 งานก่อสร้างสถานีกลางบางซื่อและศูนย์ซ่อมบำรุง 4,315 ล้านบาท สัญญา 2 งานโยธาทางยกระดับตลอดเส้นทาง 3,352 ล้านบาท และสัญญา 3 งานระบบราง 473 ล้านบาท โดยหากผ่านการเห็นชอบจาก ครม. ก็จะหารือกับกระทรวงการคลังเพื่อหาแหล่งเงินทุนเข้ามาดำเนินการต่อไป (หนังสือพิมพ์เดลินิวส์)

ไม่ต่อแอลทีเอฟหุ้น ส้มหล่นเพิ่มลดหย่อนประกันชีวิต
นายเชาว์พันธุ์ พันธุ์ทอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอ๊ดวานซ์ ไลฟ์ ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ เอไลฟ์ เปิดเผยว่า การไม่ต่ออายุโครงการให้สิทธิลดหย่อนภาษีกองทุนหุ้นระยะยาวหรือแอลทีเอฟ ซึ่งจะสิ้นสุดในปี 59 คาดว่าจะทำให้ธุรกิจประกันชีวิตขยายตัวเพิ่มขึ้น แต่รัฐควรขยายเพดานลดหย่อนภาษีผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่ให้ความคุ้มครอง 10 ปีขึ้นไป จากที่ลดหย่อนภาษีได้ 100,000 บาทต่อปี เพิ่มเป็น 200,000 บาทต่อปี ส่วนผลิตภัณฑ์ประเภทบำนาญจาก 200,000 บาทต่อปี เป็น 300,000 บาทต่อปี เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนวางแผนการเงินระยะยาวและเตรียมความพร้อมเข้าสู่วัยเกษียณ (หนังสือพิมพ์เดลินิวส์)

ชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ Tel. (662) 618-1330-1
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน

รายงานวันนี้

หุ้น: TISCO คำแนะนำ: ถือ ราคาเป้าหมาย (บาท): 46.00

TISCO รายงานผลกำไรไตรมาส 3/57 ที่ 1,089 ล้านบาท ลดลง 4% YoY แต่เพิ่มขึ้น 10% ซึ่งสูงกว่าประมาณการของเรา 8.9%
สินเชื่อหดตัว 2% QoQ สอดคล้องกับคาดการณ์ของเรา โดยสินเชื่อรายย่อยหดตัว 1.4% QoQ สินเชื่อ SME หดตัว 11.6% แต่สินเชื่อบรรษัทเติบโต 0.6% QoQ
ธนาคารตั้งสำรองหนี้สูญฯไว้ค่อนค้างสูงที่ 1.15 พันล้านบาทในไตรมาส 3/57 เพิ่มขึ้น 48% YoY แต่ลดลง 6% QoQ ซึ่งสะท้อนความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจและปัญหาทางหารเมืองในช่วง 6 เดือนแรก
ผู้บริหารตั้งเป้าสินเชื่อเติบโต 5% สำหรับปีนี้ หนุนโดยสินเชื่อบรรษัทและสินเชื่อ SME
เราคาดว่าผลกำไรไตรมาส 4/57 น่าจะดีกว่าไตรมาส 3/57 หนุนจากตั้งสำรองหนี้สูญฯที่คาดจะลดลง
เรายังคงคำแนะนำ ถือ เนื่องจากเรามองว่าสินเชื่อในปีหน้าจะเริ่มฟื้นตัว กรปรกับตั้งสำรองหนี้สูญฯที่จะค่อยๆลดลงหลังไตรมาส 4/57 เป็นต้นไป

นักวิเคราะห์: สุวัฒน์ บำรุงชาติอุดม, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์

หุ้น: TUF คำแนะนำ: ซื้อ ราคาเป้าหมาย (บาท): 88.50

หลังเข้าประชุมนักวิเคราะห์กับ TUF เราเชื่อว่ากำไรจะยังคงฟื้นตัวต่อเนื่องในช่วงครึ่งหลังของปี 2557 โดยจะเพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ HoH
เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ หนุนจากแนวโน้มกำไรหลักปี 2558 ที่แข็งแกร่ง
กำไรหลักที่ปรับปรุงแล้วไตรมาส 3/57 คาดจะอยู่ที่ 1.54 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นก้ 70% YoY
อัตรากำไรขั้นต้นของทูน่าแบรนด์ที่เพิ่มขึ้น และปริมาณยอดขายรับจ้างผลิตทูน่า และมาร์จิ้นธุรกิจกุ้งที่เพิ่มมากขึ้นต่างเป็นปัจจัยหนุนกำไรหลัก
ราคาทูน่าในช่วงไตรมาส 3/57 ซึ่งผันผวนค่อนข้างมากไม่ได้เป็นปัจจัยที่น่ากังวลมากนักสำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 4/57

นักวิเคราะห์: ประสิทธิ์ สุจิรวรกุล, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์

กลุ่ม: ค้าปลีก คำแนะนำ: NEUTRAL ราคาเป้าหมาย (บาท): -

ภาคการบริโภคดูเหมือนจะฟื้นตัวช้ากว่าที่เราคาดไว้ในเดือนส.ค. และบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยคาดจะยังคงซบเซาตลอดปี
เราชื่นชอบ BEAUTY CPN และ MAKRO มากที่สุด เนื่องจากเรามองว่าจะได้รับผลกระทบจากปัจจัยดังกล่าวน้อยที่สุด
ตัวเลขยอดขายของหุ้นกลุ่มค้าปลีกที่เราวิเคราะห์ส่วนมากอ่อนตัวลงอีกครั้งในเดือนก.ย.

นักวิเคราะห์: ไชยธร ศรีเจริญ, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์

หมายเหตุ: รายงานดังกล่าวเป็นเพียงเนื้อหาโดยสรุป สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในรายงานฉบับเต็ม