WORLD7

BANPU2024

smed PIONEER 720x100

บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

 

SET ทรงตัวและดีดกลับได้บ้างแต่แรงขายยังกดดัน ดังนั้นเน้นถือเงินสด

  กลยุทธ์ : หลัง SET พยายามดีดบวกวานนี้ แล้วยังมีแรงขายออกมากดดันต่อเนื่อง ทำให้ยังแกว่งย้อนลบ แสดงถึงความไม่มั่นใจในตลาดยังมีมาก ดังนั้น FSS จึงยังแนะนำให้ถือเงินสดไว้ก่อนดีกว่า เพื่อรอจังหวะซื้อใหม่เมื่อดัชนีไหลลงต่ำ ซึ่งจุดที่จะน่าสนใจกลับเข้าเทรดดิ้งรอบใหม่ เรามองไว้ที่ระดับดัชนีประมาณ 1500 จุดหรือใกล้เคียงมากกว่า ส่วนช่วงนี้ถ้ามีรีบาวด์เราคาดว่ากรอบขึ้นยังแคบ จึงเน้นขายลดพอร์ตต่อเนื่อง
  หุ้นเด่นทางเทคนิค : VTE, CCN, TRUE(buy back)
  แนวโน้ม : เมื่อวานนี้ SET รีบาวด์กลับขึ้นได้ดีในช่วงต้นชั่วโมง ก่อนที่จะมีแรงขายออกมากดดันให้ดัชนีค่อยๆ ไหลย้อนลงมาเป็นลบอีกครั้ง เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่ๆ เข้ามาหนุน ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่เปิดทำการเป็นลบมากพอควร หลังเยอรมนีเผยตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิตลดลงมากกว่าคาด อย่างไรก็ตามแม้ว่าตลาดหุ้นยุโรปปิดเป็นลบอยู่ แต่ตลาดหุ้นสหรัฐยังมีแรงซื้อกลับเข้ามา หลังจากดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลงแรงในช่วงต้น โดยได้รับแรงหนุนจากมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการของบริษัทเอกชนในสหรัฐ ทำให้สุดท้าย DJIA ยังปิดบวกได้เล็กน้อย ส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดทำการไม่ได้เลวร้ายนัก โดยยังมีลักษณะแกว่งตัวบวก-ลบแคบๆ ทำให้ FSS คาดว่า SET ก็น่าที่จะยังแกว่งทรงตัวเป็นบวก/ลบไม่กว้างมากนักได้ แต่ถ้ายังไม่มีปัจจัยสนับสนุนใหม่ๆ เข้ามาเสริม เราคาดว่าจะเป็นการทรงตัวเพื่อรอปรับลงต่ออีก ซึ่งกรอบบวกช่วงนี้น่าจะยังจำกัด ดังนั้นจึงไม่น่าสนใจในการที่จะตามเข้าเทรดดิ้ง โดยให้รอจังหวะซื้ออีกครั้งเมื่อดัชนีไหลลงต่ำดีกว่า
  แนวรับ 1520-1514 , 1510-1500 จุด แนวต้าน 1530-1532 , 1535-1540 จุด
  Fund Flow วานนี้กลับมาไหลเข้าตลาดหุ้นภูมิภาคในปริมาณที่เบาบาง โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อในตลาดหุ้นไต้หวัน US$90.5 ล้าน อินโดนีซีย US$63 ล้าน ไทย US$14.9 ล้าน และเกาหลีใต้ US$4.5 ล้าน ขณะที่ขายฟิลิปปินส์ US$3.4 ล้าน และเวียดนาม US$1.8 ล้าน ค่าเงินภูมิภาคเช้านี้แข็งค่าเล็กน้อย Flow น่าจะเบาบางรอประชุมเฟดสัปดาห์หน้า

ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
  (-) ราคาสินค้าโภคภัณฑ์เกือบทุกชนิดปรับลงหนักและต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อน จากความกังวลในการชะลอของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะราคาน้ำมันดิบเบรนท์และดูไบปรับลง 3-5% W-W และลงลึกถึง 21-24% YTD ตามมาด้วยอะโรเมติกส์ที่ปรับลง 6% W-W และ 22% YTD (เป็นลบกับ TOP) ส่วนราคาถ่านหินปรับลงทำ new low ราคาหมูและกุ้งยังคงปรับลง แนวโน้มราคาน้ำมันดิบในระยะสั้นอาจปรับลงต่อ แต่ให้จับตาการประชุม OPEC 27 พ.ย. ที่น่าจะประกาศลดกำลังการผลิต ประกอบกับเริ่มเข้าฤดูหนาว ซึ่งจะช่วยหยุดการปรับลงและเปลี่ยนแนวโน้มของราคาน้ำมันดิบได้
  (+) SPALI เราคาดกำไรปกติ 3Q14 เพิ่มสูงถึง 155% Q-Q และ 285% Y-Y เป็น 1.36 ล้านบาท ตามทิศทางรายได้โอน เป็นอัตราเติบโตที่ดีที่สุดในกลุ่มในไตรมาสนี้ แนวโน้มกำไรจะดีต่อเนื่องใน 4Q14 สำหรับยอด Presales งวด 9M14 ทำได้ 67% ของเป้าทั้งปี ซึ่งน่าจะทำได้ตามเป้าเพราะใน 4Q14 จะเปิดอีก 7 โครงการ มูลค่า 1.1 หมื่นล้านบาท เรายังคาดกำไรปกติปี 2014-15 โต 35% Y-Y และ 11% Y-Y ปัจจุบันมี Backlog รองรับคาดการณ์รายได้โอนของเราในปี 2014-15 แล้วถึง 107% และ 81% คงราคาเป้าหมายปี 2015 ที่ 28 บาท (PE 11 เท่า) แนะนำซื้อ
  (+) SCC เราคาดกำไรสุทธิ 3Q14 ลดลง 15% Q-Q และ 26% Y-Y เป็น 7.2 พันล้านบาทจากธุรกิจซีเมนต์และกระดาษ และเงินปันผลรับจากบริษัทร่วมลดลง แม้ธุรกิจปิโตรเคมีจะดีขึ้นแต่ชดเชยไม่ได้ เรามีแนวโน้มปรับกำไรปีนี้ลงหลังประกาศงบฯ 29 ต.ค. แต่คงกำไรปี 2015 ที่คาด 39,584 หมื่นล้านบาท +8% Y-Y จากธุรกิจซีเมนต์และกระดาษที่จะฟื้นตัวตามภาวะเศรษฐกิจ เราจึงคงราคาเป้าหมายปี 2015 ที่ 495 บาท ราคาหุ้นปรับลงมา 7% ใน 1 เดือนที่ผ่านมาจนมี PE ปี 2015 ที่ 13 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 14-15 เท่า จึงปรับเพิ่มคำแนะนำเป็นซื้อ จากเดิมถือ
  (0) MC เราคาดกำไรสุทธิใน 3Q14 จะลดลงต่อเนื่องและเป็นกำไรต่ำสุดในรอบ 8 ไตรมาสที่ 152 ล้านบาท -12% Q-Q, -15% Y-Y จากการจับจ่ายใช้สอยที่ยังไม่ฟื้น โดยเฉพาะในต่างจังหวัดซึ่งเป็นตลาดหลักของ MC โดยเราคาดยอดขายของสาขาเดิมน่าจะหดตัวถึง 8% Y-Y แย่กว่าไตรมาสก่อนๆที่หดตัว 2-5% Y-Y ขณะที่ค่าใช้จ่ายสูงขึ้นจากการทำโปรโมชั่น เราปรับกำไรสุทธิปี 2014-15 ลง 8-9% ทำให้กำไรปีนี้โตเพียง 5% Y-Y แต่เร่งตัวขึ้น +25% Y-Y ปีหน้า และปรับราคาเป้าหมายปี 2015 ลงเป็น 21.80 บาทจาก 23.60 บาท (PE 18 เท่า) ราคาหุ้นปรับลง 17% ใน 2 เดือนที่ผ่านมาจนมี PE ปีหน้า 14.3 เท่า สะท้อนผลประกอบการ 3Q14 ที่น่าจะเป็น bottom ไปแล้ว จึงยังแนะนำซื้อ

  ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาขยับขึ้นเล็กน้อย โดยผลประกอบการของ Apple ที่ตลาดคาดว่าจะออกมาดีช่วยลดแรงกดดันจากแนวโน้มผลประกอบการของ IBM ที่น่าผิดหวัง
  ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดในแดนลบโดยตลาดจับตาดูตัวเลขผลประกอบการของบริษัทจดเทะเบียนซึ่งหลายๆบริษัทใหญ๋เปิดเผยออกมาค่อนข้างน่าผิดหวัง ซึ่งทำให้ตลาดวิตกกังวลต่อแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจในภูมิภาค
  ทำให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวค่อนมาในแดนลบจากบรรยากาศการลงทุนที่ไร้ปัจจัยบวก นอกจากนี้ตลาดยังจับตาดูตัวเลข GDP 3Q14 จีนในเช้าวันนี้
  ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นค่อนข้างแรง ล่าสุดปรับตัวในกรอบ 32.13-32.34 บาท/ดอลลาร์
  ราคาน้ำมันดิบในตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน พ.ย. ลดลง 0.04 ดอลลาร์/บาร์เรล มาปิดที่ 82.71 ดอลลาร์/บาร์เรล จากอุปทานที่ยังคงล้นขณะที่ความต้องการใช้น้ำมันดิบทั่วโลกปรับตัวลดลงจากคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจที่ชะลอ
  ราคาทองคำในตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้น 5.70 ดอลลาร์/ออนซ์ มาปิดที่ 1,244.70 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยประเด็นเรื่องการชะลอตัวของเศรษฐกิจและการปรับลงของตลาดหุ้นยุโรปยังเป็นปัจจัยหนุนราคาสินทรัพย์ปลอดภัย


ปัจจัยที่ต้องติดตาม
13-21 ต.ค. - ไทย: กลุ่มธนาคารประกาศงบการเงิน 3Q14
21 ต.ค. - จีน: 3Q14 GDP, ยอดค้าปลีก (ก.ย.)
- สหรัฐ: ยอดขายบ้านเก่า (ก.ย.)
22 ต.ค. - ตลาดการเงินของมาเลเซียและสิงคโปร์ปิด เนื่องในวันDeepavalai
23-24 ต.ค. - อินเดีย: ตลาดการเงินปิด เนื่องในวัน Diwali
23 ต.ค. - ไทย: ตลาดการเงินปิดทำการ วัน
- จีน: HSBC China Manufacturing PMI (ต.ค.)
- สหรัฐ: ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
- ยูโรโซน: Markit Eurozone Composite PMI (ต.ค.)
24 ต.ค. - ไทย: ดุลการค้า (ก.ย.)
- เกาหลีใต้: 3Q14 GDP
- สหรัฐ: ยอดขายบ้านใหม่ (ก.ย.)
27 ต.ค. - สหรัฐ: Pending home sales (ก.ย.)
28-29 ต.ค. - สหรัฐ: FOMC ประชุม
Contact person : Somchai Anektaweepon
Research Dept.   Tel: 02-646-9967, 02-646-9852

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!