Details

Category: บทวิเคราะห์

Published: Wednesday, 29 October 2014 15:40

Hits: 1528

บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
   (+) ตลาดหุ้นต่างประเทศ : DJIA +187.81, NASDAQ +78.36, S&P +23.42, FTSE +38.71, CAC +15.93 และ DAX +165.58 ภายใต้ปัจจัยหนุนจาก (1) ผลประกอบการที่สดใสและดีกว่าคาด เช่น ไฟเซอร์ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์รายใหญ่ของสหรัฐ (2) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐฯ - ตค. อยู่ที่ 94.5 เพิ่มขึ้นจาก 89.0 เมื่อกย. และเป็นระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี สะท้อนว่าผู้บริโภคมีความมั่นใจในแนวโน้มเศรษฐกิจและตลาดแรงงานภายในประเทศมากยิ่งขึ้น ซึ่งตัวเลขดังกล่าวสามารถช่วยชดเชย ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน - กย. ที่ลดลง 1.3% ซึ่งสวนทางกับที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.5% สะท้อนว่าภาคเอกชนของสหรัฐฯ วางแผนที่จะลดการลงทุนทางธุรกิจ อย่างไรก็ตามยังอยู่ระหว่างรอผลการประชุมเฟด (เช้า พฤ. ตามเวลาไทย) โดยคาดว่าเฟดอาจจะประกาศยุติโครงการซื้อสินทรัพย์ หรือ QE (15,000USD/เดือน) พร้อมกับจับตาดูว่าเฟดจะส่งสัญญาณเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่?
…..ราคาปิดน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน ธค. +US$0.42 อยู่ที่ US$81.42 ต่อบาร์เรล ส่วนหนึ่งจากเงินสหรัฐฯ ที่อ่อนค่าลง ทำให้สัญญาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ซื้อขายสกุลเงินสหรัฐฯ มีความน่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่นๆ
....ทางด้านราคาทองคำ ส่งมอบเดือน ธ.ค. +US$0.10 อยู่ที่ US$1,229.40 ต่อออนซ์ ภายใต้การซื้อขายที่เป็นไปอย่างระมัดระวัง โดยอยู่ระหว่างรอผลการประชุมเฟด และรอตัวเลข GDP ของสหรัฐฯ (เช้า ศ ตามเวลาไทย)
   (-) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ -2,321 ล้านบาท สะสมตั้งแต่ต้นปี -20,918 ล้านบาท (สิ้นปี’56 มียอดขายสุทธิสะสม 193,911 ลบ)

ทิศทางตลาด
     ทิศทางตลาด : ตามตลาดต่างประเทศ? คาดมีโอกาสเพิ่มขึ้นตามตลาดต่างประเทศ ที่ได้รับปัจจัยบวกจากตัวเลขเศรษฐกิจล่าสุดของสหรัฐฯ อย่างไรก็ตามอยู่ระหว่างรอผลการประชุมเฟด (เช้า พฤ. ตามเวลาไทย) ว่าจะมีการส่งสัญญาณใดๆ เกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ หลังวงเงิน QE (15,000ล้านUSD) จะหมดลงในเดือนนี้ แต่จากภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐฯ ที่ดีขึ้น ทำให้มีความกังวลว่าเฟดอาจพิจารณาขึ้นดอกเบี้ยก่อนกลางปี’ 58
....ทางด้านประเด็นในประเทศ ยังไม่มีปัจจัยชี้นำใหม่ๆ แต่คาดยังได้รับปัจจัยกดดันจาก Fund Flow ที่ล่าสุดต่างชาติขายสุทธิต่อเนื่องอีกกว่า 2,300 ล้านบาท อย่างไรก็ตามคาด ภาพรวม Fund Flow ยังมีความผันผวน แรงซื้อ / ขายสุทธิ สลับกัน ขณะที่อยู่ระหว่างประกาศผลการดำเนินงาน – 3Q/57 ที่คาดยังมีแรงเก็งกำไร (ทั้ง + / -) ต่อเนื่องถึงกลางเดือนพย.
.....และยังแนะติดตามความชัดเจนเกี่ยวกับวงเงินลงทุนกรอบยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระยะเวลา 8 ปี (ปี’ 58 – 65) ซึ่งกระทรวงคมนาคมจะสรุปในเดือนพย. หลัง (21/10/57) ครม. อนุมัติแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานคมนาคม ในปี’58 - 65 เช่น รถไฟรางคู่ รถไฟฟ้า การขยายถนน และการขยายสนามบินฯ เป็นต้น เพื่อช่วยลดต้นทุนโลจิสติกส์ และเพิ่มศักยภาพของประเทศ ให้รองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ซึ่งคาดกลุ่มรับเหมาก่อสร้างน่าจะได้รับผลดีต่อเนื่องในระยะยาว
....รวมถึงประเด็นการเร่งรัดเปิดประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายต่างๆ ที่คาดยังเป็นปัจจัยบวกต่อภาพรวมกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง หลังมีการยื่นซองประมูลโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว เส้นทางหมอชิต – คูคต เมื่อ 30/9/57 ซึ่งมีผู้ยื่นซองทั้งหมด 4 ราย (ITD, CK, STEC และ UNIQ) คาดใช้ระยะเวลา 1 – 3 เดือน ทราบผลการประมูล คาดอย่างเร็วคาดสามารถลงนามสัญญาและเริ่มก่อสร้างในช่วง 1H/58
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี +0.03 อยู่ที่ 2.28% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54) และดัชนีความเสี่ยง (VIX) -1.65 อยู่ที่ 14.39
หุ้นแนะนำ : PS

ประเด็นที่ต้องติดตาม (29 - 31 ต.ค.’57)
  29/10/57 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) สต็อกน้ำมัน (2) เฟด ประกาศมติการประชุมกำหนดนโยบายการเงิน
  30/10/57 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน (2) ตัวเลขประมาณการครั้งแรก GDP – 3Q/57
  31/10/57 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) รายได้ส่วนบุคคล - กย. (2) ดัชนีต้นทุนการจ้างงาน – 3Q/57
  (3) ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เขตชิคาโก - ตค. (4) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้าย - ตค.

นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ 02-684-8788