WORLD7

BANPU2024

smed PIONEER 720x100

บล.กรุงศรี : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

แนวโน้มและปัจจัยการลงทุนวันนี้
เหนือ 1580 จุดเลือกตัวเก็งสั้น - ต่ำกว่าขาย
     ตลาดหุ้นทั่วโลกดีดตัวขึ้นนำโดยนิเคอิ (+4.83%) จากการเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และดาวน์โจนส์ปิดและทำจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์เมื่อคืนวันศุกร์ที่ 17390 จุด ทองคำปรับตัวลดลง และตลาดหุ้นไทยดีดตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญตามกระแสทุนเคลื่อนย้ายโดยปิดตลาดที่จุดสูงสุดของวันที่ 1584.16 จุด (+18.81 จุด, +1.2%) และเป็นการปรับตัวขึ้นเกือบทุกกลุ่ม ยกเว้น ปิโตรเคมี เกษตร ยานยนต์ และเหมืองแร่ ขึ้นนำตลาดโดยกลุ่มหลักพลังงาน สื่อสาร และ ธนาคาร มูลค่าการซื้อขายเพิ่มขึ้นเป็น 47,565 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 86 ล้านบาท กองทุนในประเทศซื้อสุทธิ 1,101 ล้านบาท และ พอร์ตหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 1,509 ล้านบาท

 

ปัจจัยการลงทุนวันนี้
     ธ.กลางญี่ปุ่นมีมติผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่ม เติม โดยขยายเป้าหมายในการเพิ่มฐานเงินสู่ระดับ 80 ล้านล้านเยนต่อปี และซื้อพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 30 ล้านล้านเยนต่อปี มีวัตถุประสงค์เพื่อหนุนเศรษฐกิจของประเทศ โดยบีโอเจตั้งเป้าที่จะจัดการกับแรงกดดันช่วงขาลงที่มีผลกระทบต่อราคา บีโอเจจะขยายโครงการซื้อสินทรัพย์ขนานใหญ่ รวมทั้งจะซื้อพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นจากสถาบันการเงินต่างๆ เพื่อเพิ่มฐานเงินให้มาอยู่ที่อัตรา 80 ล้านล้านเยนต่อปี
      ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจเดือนก.ย. ปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อน แต่ในภาพรวมการฟื้นตัวยังช้า โดยการบริโภคภาคเอกชนขยายตัวและการใช้จ่ายภาครัฐ โดยเฉพาะการลงทุนปรับดีขึ้นจากการเร่งเบิกจ่ายในช่วงสิ่นปีงบประมาณ ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนยังคงทรงตัวในระดับต่ำและการส่งออกสินค้าปรับตัวเป็นบวก 2.2% ส่วนภาคการท่องเที่ยวปรับตัวดีขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป อัตราการว่างงานอยู่ในระดับต่ำ อัตราเงินเฟ้อลด ลง 1.7% ตามราคาพลังงาน ดุลบัญชีเดิน สะพัดขาดดุล แต่สัดส่วนเงินสำรองระหว่างประเทศต่อหนี้ระยะสั้นอยู่ในเกณฑ์มั่นคง
       SET ได้ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องตลอด 4 เดือน (มิ.ย.-ก.ย.) และสิ้นสุดเดือนต.ค.ทรงตัวลดลง -1.5 จุด จากเดือนก.ย. (ปิดที่ 1585.67 จุด) หรือเทียบกับสิ้นปี 56 SET ได้ปรับตัวขึ้นสูงถึง 22.0% ซึ่งเชิงมูลค่าพื้นฐาน SET ได้ซื้อขายที่พรีเมี่ยมสูงกว่า P/E 18 เท่าแล้ว และหากไม่รวมช่วงครึ่งปีแรกในปี 56 แล้วถือว่าเป็นการซื้อขายที่สูงในรอบกว่า 13 ปีที่ผ่านมาจึงความเสี่ยงปรับฐานลงในระยะสั้น วันนี้เริ่มต้นเดือนพ.ย. เราประเมิน SET ทั้งในเชิงวัดจากพื้นฐานราคาและวัดกำลังทางเทคนิคว่าหาก SET สามารถยืนเหนือ 1,580 จุดได้จะยังมีแรงผลักดันทางขึ้นเข้าสู่กรอบ 1,580-1,600 จุดแนะนำเลือกซื้อเก็งกำไรในหุ้นที่ยังปรับขึ้นไม่มาก แต่หาก SET ต่ำกว่า 1,580 จุดการปรับฐานทางลงจะอยู่ได้ที่ 1,550 จุด (แนะนำขาย BMCL, AOT, EFORL)

แนวโน้มการลงทุนสำหรับระยะกลาง
??ถือลดพอร์ตหุ้น 10%
??เราถือครองหุ้นเหลือ 10% และถือเงินสด 90% โดยจำนวนหุ้นที่ถือครองอยู่ 2 บริษัทคือ HMPRO, และ ADVANC

Accumulate : -- รอสะสมหุ้น
Trading : เลือกซื้อหุ้นเก็งกำไรเหนือ 1580 จุด ต่ำกว่า รอ

เปรียบเทียบดัชนี
สถานะพอร์ตจำลอง (เริ่มวันที่ 25 พ.ย. 56)
พอร์ตหุ้น 10% ถือเงินสด 90%

ผลตอบแทนพอร์ตจำลอง (30%) = +0.7%
ผลตอบแทนถือเงินสด (70%) = +1.8%
ผลตอบแทนรวม (100%) = +2.5%
ผลตอบแทนตลาด SET = +17.1%

พอร์ตลงทุน KSS ได้รับรู้กำไรจากการลดพอร์ต 5 ครั้งในวันที่ 2 ก.ย. ลดจาก 70% เหลือ 60% (ส่วนต่างขาดทุนเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก -0.7%)
วันที่ 5 ก.ย. จาก 60% เหลือ 50% (ส่วนต่างกำไรเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก +3.3%)
วันที่ 16 ก.ย. ขายหุ้นลดพอร์ตจาก 50% เหลือ 30% (ส่วนต่างกำไรเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก +5.9%)
วันที่ 24 ก.ย. ขายหุ้นลดพอร์ตจาก 30% เหลือ 20% (ส่วนต่างกำไรเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก +1.7%)
วันที่ 15 ต.ค. ขายหุ้นลดพอร์ตจาก 200% เหลือ 10% (ส่วนต่างกำไรเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก 0%)
รวมการรับรู้ส่วนต่างกำไรเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักจากการลดพอร์ต 4 ครั้งคิดเป็น +10.2%


Analysts :
Registration 17622
Kasamapon Hamnilrat Registration No. 17622
Apisak Limthumrongkul Registration No. 13130

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!