WORLD7

BANPU2024

smed PIONEER 720x100

บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

 

โอกาส SET ปรับพักตัวลงอีกครั้งยังเป็นไปได้ ดังนั้นรอซื้อช่วงอ่อนตัว...

 กลยุทธ์ : หลังจาก SET รีบาวด์ขึ้นมาพอควรแล้วในช่วง 2 สัปดาห์นี้ ขณะที่สถิติในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ชี้ว่า SET เดือน พ.ย. มักจะเป็นลบจากเดือน ต.ค. อีกเล็กน้อย ก่อนจะขยับขึ้นได้ในเดือนสุดท้ายของปี (ดูรายละเอียดใน Momentum Nov2014) ทำให้ FSS มองว่ายังไม่ต้องรีบร้อนซื้อไล่ราคามากนัก โดยแนะนำให้รอเลือกหุ้นทยอยเข้าซื้อ เมิ่อ SET ปรับตัวลงก่อนดีกว่า ซึ่งกลุ่มที่น่าสนใจทยอยซื้อเพื่อถือลงทุน เนื่องจาก FSS คาดว่าในปีหน้ากำไรปกติจะเติบโตสูงสุด ได้แก่ ขนส่งและโลจิสติกส์ โรงแรม ค้าปลีก โรงพยาบาล ยานยนต์ เป็นต้น
  หุ้นเด่นทางเทคนิค : TTW, UV , BJCHI(short)
  แนวโน้ม : เมื่อวานนี้ SET เริ่มมีแรงขายออกมากดดันให้ดัชนีแกว่งย้อนลงจากการขยับบวกขึ้นในช่วงต้นชั่วโมงอีกครั้ง ตามบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นยุโรปที่เริ่มมีจังหวะแกว่งลงให้เห็น ทำให้นักลงทุนยังกังวลเกี่ยวกับผลประชุม ECB ในวันพฤหัสฯ ที่ 6 พ.ย. ขณะที่เช้านี้ยังได้รับแรงกดดันต่อเนื่องจากการปรับลงของตลาดหุ้นสหรัฐ หลังราคาหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงตามราคาน้ำมันดิบในตลาดนิวยอร์คที่ปรับตัวลง เนื่องจากรายงานที่ว่าซาอุดิอาระเบียได้ปรับลดราคาน้ำมันดิบให้กับสหรัฐ ซึ่งกดดันตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ให้มีจังหวะปรับย้อนลงเล็กน้อยด้วยเช่นกัน รวมทั้งทิศทางของค่าเงินบาทยังแสดงอาการอ่อนค่าต่อเนื่อง ทำให้ FSS ยังคาดว่า SET มีโอกาสที่จะปรับพักตัวลงก่อนได้ เราจึงยังไม่แนะนำให้ซื้อในลักษณะไล่ราคา โดยสามารถรอเลือกหุ้นเข้าซื้อในช่วงตลาดปรับพักตัวลงก่อนน่าจะปลอดภัยกว่า และรอติดตามผลประชุม ECB รวมถึงตัวเลขด้านแรงงานของสหรัฐในช่วงท้ายสัปดาห์นี้ด้วย
  แนวรับ 1576-1570 , 1567-1560 จุด แนวต้าน 1584-1587 , 1590-1592 จุด
  Fund Flow วานนี้ยังไหลเข้าตลาดหุ้นภูมิภาคแต่ปริมาณเบาบาง โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไต้หวัน US$264.2 ล้าน อินโดนีเซีย US$18.6 ล้าน เวียดนาม US$4.3 ล้าน และ เกาหลีใต้ US$3.3 ล้าน แต่ขายฟิลิปปินส์ US$6 ล้าน และไทย US$3.3 ล้าน ค่าเงินภูมิภาคเช้านี้อ่อนค่าเล็กน้อย Flow น่าจะเบาบางต่อเนื่องรอผลประชุม ECB วันที่ 6 พ.ย นี้

ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
  (0) คาดกนง.คงดอกเบี้ยที่ 2% ในการประชุม 5 พ.ย.นี้ เพราะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวอย่างไม่ทั่วถึง ยังมีภาพของความอ่อนแอของการบริโภคในระดับรากหญ้า การลงทุนใหม่ที่ยังไม่เกิดเพราะกำลังการผลิตที่มีเหลืออยู่ ส่วนการส่งออกเพิ่งฟื้นขึ้นมาเพียงเดือนเดียวในเดือน ก.ย. ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อเดือน ก.ย. อยู่ที่ 1.48% ลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 ทิศทางเดียวกับราคาน้ำมันและราคาสินค้าเกษตรในตลาดโลก และเราเชื่อว่ากนง.จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ 2% ไปจนถึงสิ้นปีนี้
  (-) PTT เราคาดกำไรสุทธิ 3Q14 ลดลง 24% Q-Q และ 25% Y-Y ตามกำไรของ PTTEP ที่ชะลอ (-16% Q-Q, -14% Y-Y) และผลประกอบการของบริษัทลูกในธุรกิจปิโตรเคมีและโรงกลั่นที่จะแย่ลงมากเพราะขาดทุนจากสต็อก แนวโน้ม 4Q14 ยังอ่อนแอต่อ เราคงประมาณการกำไรปี 2014-15 ที่คาดโตเฉลี่ยเพียง 4% แต่ปรับราคาเป้าหมายปี 2015 ลงเป็น 370 บาท จากเดิม 385 บาท จากการปรับราคาเป้าหมายของบริษัทลูกลง และรวมประโยชน์จากการปรับขึ้นราคา NGV แล้ว ปัจจุบัน PTT มี PE ปี 2015 ที่ 10 เท่า ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยภูมิภาคที่ 10-11 เท่า แต่มี upside จำกัด จึงยังคงคำแนะนำถือ
  (+) BH เราคาดกำไรสุทธิ 3Q14 ทำ New high +21% Q-Q, +10% Y-Y จากจำนวนผู้ป่วยทั้งไทยและต่างชาติที่กลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง แนวโน้มยังดีต่อเนื่องถึงปีหน้า แต่ราคาหุ้นปรับขึ้นมาจนเหลือ upside แคบ แนะนำเก็งกำไรผลประกอบการ
  (-) MCOT เราคาดกำไรสุทธิ 3Q14 ลดลงต่อเป็นไตรมาสที่ 5 เหลือ 91 ล้านบาท -44% Q-Q, -76% Y-Y จากรายได้ค่าโฆษณาทีวีลดลงเพราะ Content ของช่อง 9 ไม่แข็งแกร่ง ขณะที่ต้นทุนเพิ่มเต็มไตรมาสจากการประมูลทีวีดิจิตอล 2 ช่อง เรามีแนวโน้มปรับประมาณการกำไรปีนี้ลงอีกครั้ง (ปัจจุบันคาดกำไรปีนี้ -47% Y-Y) แนวโน้มผลประกอบการใน 2-3 ปีข้างหน้ายังไม่ดี ยังคงแนะนำขาย ราคาเป้าหมายปี 2015 ที่ 18 บาท (PE 14 เท่า)
  (+) ADVANC กำไรเป็นไปตามคาด โดยกำไรสุทธิ +6% Q-Q, +7% Y-Y จากรายได้ของ Non Voice เติบโตโดดเด่นชดเชยการหดตัวของ Voice ได้ แนวโน้ม 4Q จะดีต่อเนื่อง เราคงราคาเป้าหมายปี 15 ที่ 260 บาท แต่ราคาหุ้นปรับขึ้นมากว่า 10% ตั้งแต่ที่เราออกบทวิเคราะห์แนะนำซื้อ จน upside เริ่มแคบ แนะนำซื้อเมื่ออ่อนตัว
  (+) SCB แจ้งแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูง 2 ท่านได้แก่ นายอาทิตย์ นันทวิทยา เป็น CEO และนายณนน์ โภคทรัพย์ เป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ แทนนางกรรณิกา ชลิตอาภรณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ที่จะสิ้นสุดการดำรงตำแหน่งในวันที่ 2 เม.ย. 2015 เรามองไม่กระทบปัจจัยพื้นฐาน เพราะแนวทางเดิมของ SCB คือเน้นกลุ่มลูกค้าธุรกิจเพื่อสร้างรายได้ค่าธรรมเนียม ขณะที่ผู้บริหารใหม่มาจากส่วนงานลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่และลูกค้าบุคคล เรายังคงเป้าหมายปี 2015 ที่ 228 บาท และยังแนะนำซื้อ

  ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปรับตัวลดลงเล็กน้อย โดยหุ้นในกลุ่มน้ำมันได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปี แม้ตัวเลข ISM ภาคการผลิตเดือน ต.ค. จะออกมาดีกว่าที่คาดมาก
  ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนปิดในแดนลบเช่นกันหลังตัวเลข PMI ภาคการผลิตเดือน ต.ค. ของหลายประเทศในยูโรโซนต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้เล็กน้อย ซึ่งสร้างความกังวลต่อทิศทางการเติบโตของเศรษฐกิจ
  ส่วนตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ปรับตัวในกรอบแคบ ยกเว้นตลาดหุ้นญี่ปุ่นที่พุ่งขึ้นแรงหลังจากเมื่อวานนี้ปิดทำการ
  ค่าเงินบาทยังแกว่งตัวอยู่ในทิศทางอ่อนค่า ล่าสุดแกว่งตัวในกรอบ 32.58-32.71 บาท/ดอลลาร์
  ราคาน้ำมันดิบในตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ร่วงลง 1.76 ดอลลาร์/บาร์เรล มาปิดที่ 78.78 ดอลลาร์/บาร์เรล จากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่า รวมถึงมีรายงานว่าซาอุดิอาระเบียได้ปรับลดราคาขายน้ำมันให้แก่สหรัฐฯ
  ราคาทองคำในตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ลดลง 1.80 ดอลลาร์/ออนซ์ มาปิดที่ 1,169.80 ดอลลาร์/ออนซ์ เข้าใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปี หลังค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯยังแข็งค่าต่อเนื่องรวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจที่บ่งชี้ถึงการฟื้นตัว


ปัจจัยที่ต้องติดตาม

4 พ.ย. - อินเดีย: ตลาดหุ้นปิดทำการ วัน Muharram
- ออสเตรเลีย: ธนาคารกลางประชุม
- ยูโรโซน: European Commission Economic Forecasts
5 พ.ย. - ไทย: กนง.ประชุม (คาดคงดอกเบี้ย)
- จีน: HSBC China Composite PMI (ต.ค.)
- อินโดนีเซีย: 1Q14 GDP
- สหรัฐ: การจ้างงานภาคเอกชน (ต.ค.)
- ยูโรโซน: Markit Eurozone Composite PMI (ต.ค.)
6 พ.ย. - ไทย: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ต.ค.), BRR เข้าตลาด (ราคา 6.80บาท)
- อินเดีย: ตลาดหุ้นปิดทำการ วัน Gurunanak Jayanti
- ยูโรโซน: ECB ประชุม
- MSCI ประกาศรายชื่อหุ้นเข้า-ออกชุดใหม่
7 พ.ย. - สหรัฐ: การจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราว่างงาน (ต.ค.)
8 พ.ย. - จีน: ดุลการค้า (ต.ค.)
Contact person : Somchai Anektaweepon
Research Dept.   Tel: 02-646-9967, 02-646-9852

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!