Details

Category: บทวิเคราะห์

Published: Tuesday, 04 November 2014 17:07

Hits: 2110

บล.ธนชาต : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

Market Outlook
  SET ย่ำฐาน...ยังมีมุมองเชิงบวก ระยะสัปดาห์ต่อไป: แม้ SET จะปรับสูงขึ้นในช่วงเปิดตลาด แต่แรงขายทำกำไรในช่วงท้ายตลาดส่งผลให้ SET ปรับลดลง 0.31% ปิดที่ 1,579.18 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.7 หมื่นล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นสุทธิ 108 ล้านบาท...แม้ SET จะเคลื่อนไหวในลักษระการ “ย่ำฐาน” วานนี้ ด้วยแรงขายหุ้นขนาดใหญ่อย่าง PTT, KBANK อย่างไรก็ตามเรายังมีมุมมองเชิงบวกต่อ SET ระยะสัปดาห์ต่อไป ด้วยเป้าหมายแรกที่ 1,600 จุด และเป้าหมายปลายปีที่ 1,650 จุด สนับสนุนจาก 1) การใช้มาตรการ QE ของ BOJ และ ECB 2) กระแสเงินทุนจาก RMF และ LTF มูลค่า 2 หมื่นล้านบาท และ 3) มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากภาครัฐฯ และกำไรบริษัทจดทะเบียนที่เร่งตัวขึ้นในปีหน้า
  “ซื้อ” SCC BGH และ INTUCH: กลยุทธ์หลักแนะนำ “ซื้อ” Domestic Play โดยเฉพาะกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่อย่าง KBANK BBL SCC (ได้รับผลดีจากโครงการลงทุนภาครัฐฯ) CK STEC SPALI LPN QH BGH CPALL INTUCH (ราคาต่ำกว่า NAV ถึง 22% เทียบเฉลี่ย 18% ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา) ขณะที่หุ้นขนาดกลางได้แก่ SAMART (ราคาหุ้นระยะสั้นถูกกดดันจากกำไร 3Q14 ที่คาดว่าจะหดตัว y-y, q-q) BEAUTY SIRI SAPPE

Tactical Portfolio (1-3 months)
  TNS แนะนำ AOT, BTS, CK, KBANK, SAMART, SAPPE, SPALI, STEC, และ TUF เป็นหุ้นใน Tactical Portfolio ต่อเนื่อง ขณะที่แนะนำ “ขาย” BEAUTY และ “ซื้อ” BGH ที่มองว่าเป็นกลุ่มหุ้นที่ได้รับผลดีจากกระแสเงินทุน RMF + LTF มากกว่า
  BGH…”ซื้อ” การเข้าซื้อกิจการ และขยายสาขาหนุนเติบโตต่อเนื่อง: แนะนำ “ซื้อ” BGH ด้วยเป้าหมายพื้นฐาน 22.30 บาท และระยะสั้นที่ 19.2 +/- บาท ด้วยปัจจัยสนับสนุนจาก 1) การขยายโรงพยาบาลอย่างต่อเนื่องทั้งการเข้าซื้อกิจการใหม่ และขยายโรงพยาบาลเดิม ล่าสุดมีแผนสร้าง อาคารใหม่ 6 อาคารบริเวณซอยศูนย์วิจัย ด้วยงบลงทุน 4 พันล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2016-17 2) กำไรเติบโตสม่ำเสมอประมาณ 15.5% ต่อปีช่วง 2015-17 ทำให้ราคาหุ้นมีแนวโน้มซื้อขายที่ PE ระดับสูงต่อไป 3) การปรับสูงขึ้นของ CHG ทำให้ PE ปี 2015 ของ CHG สูงที่ 40x ขณะที่ BGH ซื้อขายที่ PE ต่ำกว่าที่ 33x และ 4) กระแสเงินทุนจาก RMF LTF คาดว่าจะเป็นปัจจัยหนุนหุ้นพื้นฐานขนาดใหญ่อย่าง BGH ที่เป็น Leader ในธุรกิจโรงพยาบาล และ 4) ในเชิงเทคนิค ราคาหุ้นพักฐานบริเวณเส้นค่าเฉลี่ย 3 เดือน หลายสัปดาห์ติดต่อกัน และเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวแล้วตั้งแต่สัปดาห์ก่อน แนวต้าน 19.2 +/- บาท

Technical
  ใกล้จะทดสอบ 1600 จุด : ตลาดหยุดชะงักเล็กน้อย ดัชนี SET ยังคงมีแนวโน้มขึ้นเช่นเดิมด้วยเป้าหมายดัชนี SET ทดสอบแนวต้านย่อย 1600 จุดในสัปดาห์นี้เป็นจังหวะขาย สำหรับวันนี้คาดว่าดัชนี SET จะเคลื่อนไหวระหว่าง 1573-1588 จุด
  หุ้นที่แนะนำซื้อ : UV แกว่งตัวขึ้น ราคาขึ้นมาอยู่เหนือแนวเส้นค่าเฉลี่ย 7-14-21 วัน จังหวะปิดบวกพร้อมด้วยจำนวนซื้อขายสูงขึ้นเป็นสัญญาณซื้อ คาดว่าจะขึ้นทดสอบแนวต้าน 10.80 และ เป้าหมาย 11.20-11.40 บาท PT สัญญาณบวกคาดว่าจะขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไป 8.50 บาท ผ่านได้ซื้อเพิ่ม มีเป้าหมายยอดสูงสุดถัดไปที่ระดับ 8.80 บาท TTW สัญญาณชี้แนวโน้มเป็นบวก คาดว่าระยะสั้นราคาจะขึ้นต่อไปทดสอบยอดเดิม 12.80 บาท และมีโอกาสทำยอดสูงสุดใหม่ มีเป้าหมายยกระดับขึ้นไปที่ 13.40 บาท

TFEX Recommendation
  SET50 Futures: แนะนำ “ถือ” สถานะ Long สัญญา S50Z14 ต่อเนื่อง ด้วยเป้าหมายการปรับสูงขึ้นที่ 1,072 จุด อิง SET ที่ 1,600 จุด ขณะที่กำหนด Trailing Stop ที่ 1,044 จุด ต่อไป
Gold Futures: แนะนำ “เปิด” สถานะ Short สัญญา GFZ14 ในจังหวะ Rebound ที่บริเวณ 18,500 บาท โดยมีเป้าหมายการปรับลดลงที่ 17,700 บาท ล่าสุดราคาทองคำ COMEX ปรับลดลงต่อเนื่องอีก 0.15% ปิดตลาดที่ US$1,169.8/ออนซ์
  Oil Futures: แนะนำ “ถือ” สถานะ Long สัญญา BRX14 ด้วยเป้าหมายการปรับสูงขึ้นที่ 2900 โดยเมื่อพิจารณาในทางเทคนิคถือว่าอยู่ในภาวะ Oversold มาก อย่างไรก็ตามในกรณีที่ BRX14 ปรับลดลงต่ำกว่า Trailing Stop ที่ 2780 จะเป็นจังหวะปิดสถานะ Long เพื่อลดความเสี่ยงไปก่อน

Thai Strategy Team
นพดล พิริยวุฒิ
อดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล