WORLD7

BANPU2024

smed PIONEER 720x100

บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

 

SET ยังผันผวนและมีสิทธิปรับลงก่อนได้ ดังนั้นรอซื้อช่วงอ่อนตัวดีกว่า!

 กลยุทธ์ : เนื่องจาก FSS คาดว่า SET เดือน พ.ย. มีโอกาสลดลงจากเดือน ต.ค. ก่อนจะขยับขึ้นได้ในเดือนสุดท้ายของปี (ดูรายละเอียดใน Momentum Nov2014) ทำให้ FSS มองว่ายังไม่ต้องรีบร้อนซื้อไล่ราคามากนัก โดยแนะนำให้รอเลือกหุ้นทยอยเข้าซื้อเมิ่อ SET ปรับตัวลงก่อนดีกว่า ซึ่งกลุ่มที่น่าสนใจทยอยซื้อเพื่อถือลงทุนนอกเหนือจาก กลุ่มขนส่งและโลจิสติกส์ โรงแรม ค้าปลีก โรงพยาบาล ยานยนต์ แล้วยังมีหุ้นกลุ่มแบงก์ รับเหมาก่อสร้าง กลุ่มประกันชีวิต รวมทั้งกลุ่มอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว เช่นสายการบินเป็นต้น
  หุ้นเด่นทางเทคนิค : BWG, HMPRO , KCE(short)
  แนวโน้ม : แม้ว่า SET ยังแกว่งตัวด้านบวกต่อเนื่องได้อีก แต่ก็มีจังหวะแกว่งตัวผันผวนและย้อนลบให้เห็นบ้างแล้ว ขณะที่เมื่อคืนนี้ตลาดหุ้นยุโรปยังปิดเป็นลบ หลังจากคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจยูโรโซนปีนี้และปีหน้าลง ส่วนตลาดหุ้นสหรัฐแม้ว่าจะปิดเป็นบวกได้ แต่กรอบก็ค่อนข้างแคบและมีจังหวะผันผวนตลอดทั้งวันเช่นกัน เนื่องจากนักลงทุนยังคงเทขายหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบในตลาดนิวยอร์กร่วงลงอีกเมื่อคืนนี้ ส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ยังเปิดเป็นลบต่อเนื่องอยู่ รวมทั้งทิศทางค่าเงินบาทที่แม้ว่าจะเริ่มแกว่งทรงตัวได้บ้าง แต่ก็ยังอยู่ในแนวโน้มอ่อนค่าต่อเนื่อง ทำให้ FSS คาดว่า SET ยังมีโอกาสที่จะปรับพักตัวลงอีกได้ เราจึงยังไม่แนะนำให้ซื้อในลักษณะไล่ราคา แต่น่ารอเลือกหุ้นเข้าซื้อในช่วงตลาดปรับตัวลงก่อนน่าจะปลอดภัยกว่า เพื่อรอติดตามผลประชุม ECB รวมถึงตัวเลขด้านแรงงานของสหรัฐในช่วงท้ายสัปดาห์นี้ด้วย
  แนวรับ 1580-1576 , 1572-1567 จุด แนวต้าน 1587-1592 , 1595-1602 จุด
  Fund Flow วานนี้ยังไหลเข้าตลาดหุ้นภูมิภาคแต่ปริมาณเบาบาง โดยส่วนใหญ่นักลงทุนต่างชาติซื้อในตลาดหุ้นไต้หวัน US$247.9 ล้าน และไทย US$8.3 ล้าน แต่ขายเกาหลีใต้ US$48.7 ล้าน อินโดนีเชีย US$16.3 ล้าน ฟิลิปปินส์ US$4.9 ล้าน และเวียดนาม US$1.2 ล้าน ค่าเงินภูมิภาคเช้านี้ค่อนข้างนิ่ง Flow น่าจะเบาบางต่อ

ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
  (0) EC ลดคาดการณ์เศรษฐกิจยุโรป โดยคาด GDP ของ 18 ประเทศในยุโรปที่ใช้เงินสกุลยูโรขยายตัวเพียง 0.8% ในปีนี้ (เดิมคาด 1.2%) และโตเพียง 1.1% ในปีหน้า (เดิมคาด 1.7%) จากการปรับประเทศหลักลงคือเยอรมัน ฝรั่งเศส และอิตาลี เชื่อว่าการประชุม ECB 6 พ.ย. นี้จะไม่มีมาตรการเพิ่มเติม แต่เป็นการซื้อ Covered bond ต่อเนื่องในประเทศหลัก รวม 2 สัปดาห์ซื้อไปแล้ว 4,779 ล้านยูโร และน่าจะมีความชัดเจนขึ้นว่าจะซื้อ ABS ของโปรตุเกสและกรีซหรือไม่
  (0) คาดกนง.คงดอกเบี้ยที่ 2% ในการประชุมวันนี้ เพราะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวอย่างไม่ทั่วถึง ขณะที่อัตราเงินเฟ้อเดือน ก.ย. อยู่ที่ 1.48% ลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 ทิศทางเดียวกับราคาน้ำมันและราคาสินค้าเกษตรในตลาดโลก และเราเชื่อว่ากนง.จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ 2% ไปจนถึงสิ้นปีนี้ และไม่มีผลกระทบต่อตลาดหุ้น
  (0) IRPC หากไม่รวมรายการพิเศษ ผลการดำเนินงานขาดทุนถึง 2,388 ล้านบาท ตามคาด จากขาดทุนจากสต๊อกน้ำมัน 2.2 พันล้านบาทและใช้กำลังการกลั่นลดลงเพราะหน่วยกลั่น VGOHT ไฟไหม้ทำให้หน่วยกลั่นหลักเดินเครื่องไม่เต็มที่ แนวโน้ม 4Q14 ยังแย่ ค่าการกลั่นปี 2015 จะชะลอเพราะภาวะ Oversupply เราปรับประมาณการปีนี้จากกำไรเป็นขาดทุน 1.1 พันล้านบาทและปรับกำไรปี 2015 ลง 27% แต่แนะนำซื้อเพราะราคาหุ้นต่ำกว่ามูลค่าตามบัญชี เป้าหมายปี 2015 ปรับลงเล็กน้อยเป็น 4.10 บาทจาก 4.50 บาท
  (0) SAMART เราคาดกำไรสุทธิ 3Q14 ลดลง 15% Q-Q และ 11% Y-Y ตาม SIM และ SAMTEL แต่แนวโน้มกำไรใน 4Q14 ดีขึ้น เราปรับประมาณการกำไรปี 2014-15 ลง 6-7% ปรับเป้าหมายปี 2015 ลงจาก 32 บาทเป็น 29 บาท แต่มีลุ้นการลงทุนในโรงไฟฟ้า 2 โครงการทั้งในไทยและกันพูชา 2,000MW น่าจะมีความคืบหน้าปลายปีนี้ ซื้อเก็งกำไร
  (0) AAV ผลการดำเนินงานฟื้นช้ากว่าที่คิด เราคาด 3Q14 จะขาดทุนเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนเล็กน้อยเป็น 190 ล้านบาท เพราะค่าตั๋วโดยสารปรับลงต่อจากภาวะการแข่งขันที่รุนแรงของตลาดในประเทศ และหนี้สินรอตัดบัญชีเพิ่มขึ้นตามการรับมอบเครื่องบินอีก 3 ลำ แต่แนวโน้มน่าจะพลิกกลับมาเป็นกำไรได้ใน 4Q14 ซึ่งเป็น High season และยิ่งดีขึ้นใน 1Q15 เราปรับประมาณการกำไรปีนี้ลง แต่คงกำไรปี 2015 ที่คาดสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ โตก้าวกระโดด 1,916% Y-Y แนะนำซื้อ คงเป้าหมายปี 2015 ที่ 5.40 บาท
  (0) คาดการณ์ผลประกอบการกลุ่มรับเหมา ใน 3Q14 น่าจะลดลง 12% Q-Q และ 21% Y-Y ตามรายได้ก่อสร้างที่ลดลงเพราะรายได้ก่อสร้างมาจาก Backlog มีอยู่เป็นหลัก ซึ่งมีบางโครงการก่อสร้างใกล้แล้วเสร็จ ขณะที่งานใหม่ที่เซ็นสัญญาในปีนี้ยังค่อนข้างน้อยและยังไม่ได้ก่อสร้างมากนัก ส่งผลให้รายได้ก่อสร้างโดยรวมชะลอลงทั้ง Q-Q และ Y-Y แต่ยังคงน้ำหนัก Overweight เพราะแนวโน้มงานประมูลใหญ่ๆจะเกิดขึ้นในปี 2015 เป็นต้นไป หุ้นเด่นยังเป็น CK (ราคาเป้าหมายปี 2015 ที่ 30 บาท)

  ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดในกรอบแคบๆหลังจากการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน โดยนักลงทุนยังคงเทขายหุ้นในกลุ่มพลังงานหลังราคาน้ำมันดิบยังร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี รวมถึงการเลือกตั้งกลางสมัยของสหรัฐฯ
  ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนปิดยังปิดในแดนลบต่อเนื่องหลังคณะกรรมาธิการยุโรปได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจใจยูโรโซนปีนี้และปีหน้าลง
  ส่วนตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวในกรอบแคบค่อนไปในแดนลบจากความกังวลเรื่องการชะลอตัวของเศรษฐกิจรวมถึงราคาน้ำมันที่ดิ่งลงต่อ
  ค่าเงินบาทมีจังหวะแกว่งทรงตัวได้บ้างแต่ยังอยู่ในทิศทางอ่อนค่า ล่าสุดแกว่งตัวในกรอบ 32.58-32.70 บาท/ดอลลาร์
  ราคาน้ำมันดิบในตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ร่วงลง 1.59 ดอลลาร์/บาร์เรล มาปิดที่ 77.19 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยระหว่างวันลงไปแตะจุดต่ำสุดในรอบ 3 ปี จากข่าวการลดราคาน้ำมันดิบของซาอุดิอาระเบียแก่สหรัฐฯยังกดดัน
  ราคาทองคำในตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ลดลง 2.10 ดอลลาร์/ออนซ์ มาปิดที่ 1,167.70 ดอลลาร์/ออนซ์ ลบติดต่อกันเป็นวันที่ 5 หลังค่าเงินดอลลาร์ที่ยังอยู่ในทิศทางแข็งค่า รวมถึงแรงขายจากกองทุน
ปัจจัยที่ต้องติดตาม

5 พ.ย. - ไทย: กนง.ประชุม (คาดคงดอกเบี้ย)
- จีน: HSBC China Composite PMI (ต.ค.)
- อินโดนีเซีย: 3Q14 GDP
- สหรัฐ: การจ้างงานภาคเอกชน (ต.ค.)
- ยูโรโซน: Markit Eurozone Composite PMI (ต.ค.)
6 พ.ย. - ไทย: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ต.ค.), BRR เข้าตลาด (ราคา 6.80บาท)
- อินเดีย: ตลาดหุ้นปิดทำการ วัน Gurunanak Jayanti
- ยูโรโซน: ECB ประชุม
- MSCI ประกาศรายชื่อหุ้นเข้า-ออกชุดใหม่
7 พ.ย. - สหรัฐ: การจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราว่างงาน (ต.ค.)
8 พ.ย. - จีน: ดุลการค้า (ต.ค.)
10 พ.ย. - จีน: สินเชื่อใหม่ (ต.ค.)
11 พ.ย. - ไทย: NCL เข้าตลาด (ราคา 1.80 บาท)
Contact person : Somchai Anektaweepon
Research Dept.   Tel: 02-646-9967, 02-646-9852

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!