WORLD7

BANPU2024

smed PIONEER 720x100

บล.โกลเบล็ก : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

Market View : ผันผวน
Technical : แนวรับ : 1,576 / 1,565 แนวต้าน 1,591 / 1,602
หุ้นแนะนำพิเศษ : DEMCO
หุ้นเด่นรายวัน : AKR

  ดัชนีหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยเนื่องจากขาดปัจจัยใหม่กระตุ้นตลาด อีกทั้งนลท.ชะลอการเข้าซื้อเพื่อรอฟังผลการประชุม ECB ในวันที่ 6 พ.ย. โดย SET ปิดที่ 1,585.15 จุด (+5.97จุด , +0.38%) มูลค่าการซื้อขาย 4.7 หมื่นล้านบาท นักลงทุนต่างชาติ Net buy 270 ล้านบาท

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย
  ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญหลายตัวของสหรัฐฯออกมาน่าผิดหวัง เช่น ยอดขาดดุลการค้าที่เพิ่มขึ้นเป็น 4.3 หมื่นล้านดอลฯ ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานปรับตัวลง 0.6% อีกทั้งแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบโลกที่ยังคงทรุดตัวลงต่อเนื่องจากข่าวซาอุดิอาะเบียปรับลดราคาน้ำมันดิบให้สหรัฐฯซึ่งกดดันต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน อย่างไรก็ตามความคาดหวังการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในการการประชุม ECB วันที่ 6 พ.ย.จะยังคงเป็นตัวจำกัด downside ในการย่อตัวลง ดังนั้นประเมินว่า SET จะแกว่งตัวในกรอบ 1,575 – 1,600 จุด โดยแนะนำให้ trading ในกรอบดังกล่าว ยกเว้น SET หลุดแนวรับ 1,560 จุด ให้พิจารณา cut loss

กลยุทธ์
  แนะนำให้สะสมหุ้นที่คาดว่ากำไร Q3/14 เติบโต เช่น CPF TUF KCE RML SYNTEC รวมถึงหุ้นที่คาดว่าจะได้เข้า SET 50 รอบใหม่ CK HEMRAJ SPALI (ประกาศกลางเดือนธ.ค.)
  คาดการณ์วันประกาศงบ

6 พ.ย. CPALL, MAJOR, SF
7 พ.ย. TMT , CPF , PTTGC , GLOBAL
10 พ.ย. THCOM ,QH, PS
11 พ.ย. INTUCH, KCE , DRT , BH , IVL ,ERW, LH
12 พ.ย. EGCO, M, PTT SCP ,GFPT, BEC, WORK ,ANAN, AP, LPN
13 พ.ย. SIRI RATCH
14 พ.ย. TRUE, LOXLEY MC TUF, CPN, BJC STPI BMCL


หุ้นแนะนำพิเศษ
DEMCO : ราคาปิด 16.80 บาท ราคาพื้นฐาน consensus 18 บาท

คาดรายได้และกำไรปี 57 เติบโตขึ้นจาก Backlog สูงถึง 6,000 ลบ.
     คาดกำไร Q3/57 ที่ 100 ลบ. (+80% QoQ) จากการรับรู้รายได้งานก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน และสถานีไฟฟ้าของ EGAT
ได้รับอานิสงส์จากมติ กพช.รับซื้อไฟฟ้าเพิ่มอีก 800 Mw เป็น 1,300 Mw เนื่องจากเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างโรงไฟฟ้า Solar cell รายใหญ่
ปี 2558 ตั้งเป้ารับงานก่อสร้างโรงไฟฟ้าโซลาร์ 150 Mw และมีแผนเข้าประมูลทำ Solar farm 30 Mw
หุ้นเด่นรายวัน
AKR : (ปิด 2.30 ซื้อเก็งกำไร)

     ประเด็นข่าว : เตรียมเซ็นสัญญางานจำหน่ายหม้อแปลงไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้านครหลวงมูลค่า 230 ล้านบาท และลุ้นได้งานโซลาร์ชุมชนประมาณ 20 MW (ที่มา : ทันหุ้น)
วันที่ 7 พ.ย. จัดงาน AKR Day เปิดเผยแนวโน้มทางธุรกิจในอนาคต
มุมมองด้านเทคนิค - แนวรับ 2.26 แนวต้าน 2.40 ,2.54 จุด cut loss 2.10 กราฟแท่งเทียนดีดตัวขึ้นแบบ Bullish engulfing และตัดเส้น EMA 10 วันขึ้นเป็นสัญญาณซื้อ พร้อมทั้ง RSI + MACD ชี้ขึ้นสนับสนุนทิศทาง
รายชื่อหลักทรัพย์ที่ติดเกณฑ์บัญชี Cash Balance
* EE มีผลบังคับ 15 ก.ย. – 7 พ.ย. 57
* MLINK มีผลบังคับใช้ 22 ก.ย. – 7 พ.ย. 57
* AQ / CYBER / IFEC / KTP / PRINC/ SLC / TGPRO / WIIK มีผลบังคับใช้ 29 ก.ย. - 7 พ.ย. 57
*AJD / BGT / CEI / CGD / DNA / MILL / PE / PRECHA / TH / THANA / TPOLY มีผลบังคับใช้ 6 ต.ค. - 14 พ.ย. 57
* COLOR / SMART / EVER / RICH / SUPER / SOLAR / CWT / TMI / FVC มีผลบังคับใช้ 13 ต.ค. - 21 พ.ย. 57
* ACD / CIG / EMC / FOCUS / GENCO / NIPPON / SST / TAKUNI / TIES มีผลบังคับใช้ 20 ต.ค. - 28 พ.ย. 57
* BSM / PCA / SANKO / SVOA / TFI / WIN มีผลบังคับใช้ 27 ต.ค. - 4 ธ.ค. 57
* ABC / CCN / CSS / EVER / GENCO-W1 / KC / LOXLEY-W / RCI / RPC / WAT มีผลบังคับใช้ 3 พ.ย. – 12 ธ.ค. 57
***เนื่องจากการลงทุนในหลักทรัพย์ ดังกล่าวมีการซื้อขายผิดไปจากสภาพปกติของตลาดดังนั้นผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
ตลาดหุ้นดาวโจนส์ : เพิ่มขึ้น 17.60 จุด
  ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (4 พ.ย.) อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน โดยแม้ว่าดัชนีดาวโจนส์ปิดในแดนบวก แต่ดัชนี NASDAQ และ S&P 5000 ต่างก็ปิดปรับตัวลง เนื่องจากนักลงทุนยังคงเทขายหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กร่วงลงเมื่อคืนนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,383.84 จุด เพิ่มขึ้น 17.60 จุด หรือ +0.10% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,623.64 จุด ลดลง 15.27 จุด หรือ -0.33% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,012.10 จุด ลดลง 5.71 จุด หรือ -0.28%

ตลาดน้ำมัน NYMEX : ลดลง 1.59 ดอลลาร์/บาร์เรล
  สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 1.59 ดอลลาร์ ปิดที่ 77.19 ดอลลาร์/บาร์เรล สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนธ.ค.ดิ่งลง 1.96 ดอลลาร์ ปิดที่ 82.82 ดอลลาร์/บาร์เรล ตลาดน้ำมันนิวยอร์กยังคงได้รับปัจจัยลบจากรายงานที่ว่า การปิโตรเลียมซาอุดิอาระเบียได้ปรับลดราคาน้ำมันดิบที่ส่งออกให้กับสหรัฐ โดยเทรดเดอร์ระบุว่าความเคลื่อนไหวของซาอุดิอาระเบียในครั้งนี้มีเป้าหมายที่จะชิงส่วนแบ่งในตลาดน้ำมันโลกซึ่งมีการแข่งขันสูงตลาดได้รับแรงกดดันมากขึ้นเมื่อผลการสำรวจบ่งชี้ว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ปรับตัวสูงขึ้น 53,000 บาร์เรล สู่ระดับ 30.974 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 14 เดือน

Analyst :
วิลาสินี บุญมาสูงทรง
ณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์
ชัยยศ จิวางกูร

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!