WORLD7

BANPU2024

smed PIONEER 720x100

บล.บัวหลวง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน

รอบด้านตลาดหุ้น
มุมมองตลาด
     แม้ภาวะตลาดหุ้นไทยจะเริ่มทรงตัวและปรับฐาน อย่างไรก็ตามเรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มตลาดในสัปดาห์นี้ หนุนโดยการประกาศมาตรการของ ECB และ BOJ ในด้านสภาพคล่อง ขณะที่สภาพคล่องที่กำลังจะเข้าสู่ตลาดหุ้นไทยจากกองทุน LTF และ RMF น่าจะเพียงพอที่จะทำให้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวสูงขึ้นไปจนกระทั่งสิ้นปี เรายังมองว่าหุ้นมีอัตราผลตอบแทนที่สูง และ จูงใจกว่าการฝากเงินในธนาคารหรือการถือครองพันธบัตร และตราสารหนี้บริษัท ดังนั้นสัปดาห์นี้เราคาดว่าดัชนีฯจะยังคงรักษาระดับการแกว่งตัวบนทิศทางขาขึ้นได้ด้วยเหตุผล

    1.ธนาคารกลางยูโรโซนและญี่ปุ่นยืนยันการออกมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
    2.กระแสเงินลงทุนไหลกลับสู่สินทรัพย์เสี่ยง ขณะที่ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวขึ้นไปในทิศทางเดียวกันและยังมีแนวโน้มของการปรับตัวขึ้นต่อ
    3.ตลาดหุ้นไทยปรับตัว หนุนจากกลุ่มการเงิน กลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กลุ่มก่อสร้างและรับเหมา กลุ่มขนส่ง กลุ่มอาหาร และกลุ่มพลังงาน ซึ่งบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของตลาดหุ้นที่กระจายตัวได้ดี
    4.ตลาดหุ้นไทยส่งสัญญาณบวกจากการเรียงตัวเส้นค่าเฉลี่ย 10 25 50 และ 75 วัน Golden Cross
    5.สภาพคล่องจากกองทุน LTF และ RMF ไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นมากขึ้นในช่วงปลายปี

    แนวทางการลงทุน: แนวโน้มตลาดมองการพักตัวบนแนวโน้มขาขึ้น แนวรับ 1576 / แนวต้าน 1600 จุด

ธนรัตน์ อิศรกุล Tel. (662) 618-1334
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์

รายงานวันนี้

หุ้น: IRPC คำแนะนำ: ขาย ราคาเป้าหมาย (บาท): 3.26

IRPC รายงานผลกำไรสูงกว่าจุดคุ้มทุนเล็กน้อยที่ 22 ล้านบาทสำหรับไตรมาส 3/57 สูงกว่าคาดการณ์ของเราและตลาดซึ่งคาดว่าจะขาดทุนราว 300-600 ล้านบาท
ประเด็นหลักในไตรมาส 3/57 ได้แก่การรับรู้กำไรจำนวนมากที่ 2 พันล้านบาท ซึ่งโดยหลักมาจากการค่าสินไหมทดแทนจากประกันและการกลับรายการหนี้สงสัยจะสูญ
เรายังคงมีมุมมองเชิงลบต่อกำไรสุทธิของบริษัทในไตรมาส 4/57 เนื่องจากเราไม่คิดว่าบริษัทจะมีการรับรู้รายได้พิเศษทั้งหมดที่ 3.1 ล้านบาทดังเช่นในไตรมาส 3/57 อีก
เราคิดว่าตลาดอาจมีการปรับลดประมาณการกำไรสุทธิลงอีกจากแนวโน้มราคาน้ำมันที่ยังคงลดลงและการที่บริษัทไม่น่าจะมีการรับรู้รายได้พิเศษจำนวนมากในไตรมาส 4/57
แนวโน้มกำไรสุทธิยังต่ำกว่าปกติอยู่มากและยังมีความเสี่ยงขาลง

นักวิเคราะห์: ธนัทเทพ จันทรกานต์, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์

หุ้น: MAJOR คำแนะนำ: ซื้อ ราคาเป้าหมาย (บาท): 31.50

เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2558 ขึ้น 11% เป็น 1.3 พันล้านบาท และปรับเพิ่มราคาเป้าหมายจาก 26 บาทขึ้นเป็น 31.5 บาท
เราเชื่อว่าหน้าหนังทึ่โดดเด่นในปีหน้าจะช่วยหนุนยอดขายตั๋วภาพยนตร์และรายได้อาหารและเครื่องดื่มของ MAJOR ในปี 2558 ซึ่งเราคาดการณ์ไว้ที่ 6.05 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% YoY
การปรับลดต้นทุนจะเริ่มเห็นผลในช่วงครึ่งหลังของปี 2557 และคาดจะลดลง 20% ในปี 2558 ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นน่าจะขยายตัวเป็น 35.8% ในปี 2558 และ 36.1% ในปี 2559
บริษัทมีแผนขยายสาขาโรงภาพยนตร์อย่างต่อเนื่อง โดยในระยะยาวบริษัทตั้งเป้าว่าจะต้องมีโรงภาพยนตร์ 1,000 โรงในประเทศภายในสิ้นปี 2563
ถึงแม้เม็ดเงินโฆษณาทั่วทั้งอุตสาหกรรมจะหดตัว แต่เรามองว่ารายได้โฆษณาในโรงภาพยนตร์ของ MAJOR จะเติบโต 12% ในปี 2558
MPIC ซึ่งเป็นบริษัทสร้างภาพยนตร์ของ MAJOR กำลังมีการพัฒนาคุณภาพภาพยนตร์ไทยเพื่อออกฉายในต่างประเทศ เช่น ทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จีน และเกาหลีใต้

นักวิเคราะห์: ประสิทธิ์ สุจิรวรกุล, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์: บุญธิดา จนางคะกาญจน์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!