WORLD7

BANPU2024

smed PIONEER 720x100

บล.เคเคเทรด : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน

SET จะพักตัวรอปัจจัยใหม่
SET View
      แนวโน้มSETจะพักตัวเพื่อสร้างฐานในกรอบ1570-1585จุด(1) การทยอยประกาศงบ 3Q57 ของบริษัทจดทะเบียนไปจนถึงกลางเดือนนี้ จะทำให้หุ้นรายตัวแกว่งตัวตามการคาดหวังเชิงบวกและลบ ส่งผลให้ทิศทางของ SET ไม่ชัดเจนจนกว่าผลประกอบการจริงจะออกมา(2) นักลงทุนบางส่วนจะชะลอการลงทุนเพื่อรอดูผลการประชุม ECB ต่อมาตรการซื้อสินทรัพย์เพิ่มเติม (3) การประชุมกนง.เมื่อวานนี้แม้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2% ตามที่ตลาดคาด แต่ถ้อยแถลงแสดงถึงความกังวลต่อการฟื้นตัวเศรษฐกิจที่ช้ากว่าคาด บ่งบอกความเป็นไปได้ที่ธปท.จะปรับลดคาดการณ์ GDP ลงจากปัจจุบัน (+1.5% ปี 57 และ +4.8% ปี 58) ในการประชุมครั้งต่อไปวันที่ 17 ธ.ค.นี้ เป็นปัจจัยลบด้านจิตวิทยาระยะสั้นอย่างไรก็ตามโอกาสปรับขึ้นดอกเบี้ยจะเลื่อนออกไปจากกลางปีเป็นปลายปีหน้าและจะสนับสนุนการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงในระยะถัดไป(3)ราคาน้ำมันดิบที่ทรงตัวในระดับต่ำ โดย Brent กำลังทดสอบระดับต่ำสุดที่ US$82/บาร์เรล จะกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน และ (4)ทางเทคนิค SETกำลังทดสอบแนวต้านบริเวณ 1585 จุด (76.4%Fibonacci) ผ่านขึ้นไปได้จะไปทดสอบจุดสูงสุดเดิมบริเวณ 1600 จุด แต่หาก SET กลับมาปิดต่ำกว่า 1560 จุดจะเป็นสัญญาณเตือนถึงการพักฐาน

กลยุทธ์การลงทุน ระยะ 1-2 วัน ถือเพื่อไปรอขายแถว 1600 จุด+/-หรือหาจังหวะซื้อเมื่ออ่อนตัว
     (1)Top Daily Pick :SEAFCO (มีโอกาสปรับเพิ่มประมาณการ และรับงานเสาเข็มเพิ่มจากโครงการรถไฟฟ้าที่จะมีความชัดเจนในช่วงต้นปีหน้า)SST (คาด 3Q57 จะพลิกกลับเป็นกำไรครั้งแรกในรอบ 7 ไตรมาส ที่ 251 ล้านบาทจากการขายสินทรัพย์ขณะที่ 4Q57 จะโตต่อเนื่องจากฤดูกาลและรับรู้รายได้เต็มไตรมาสจาก Greyhoundปัจจุบัน SST ติด cash balance ถึงวันที่ 28 พ.ย.)
(2)Technical Pick: APURE NMG TYCN THANA ASP
(3)Theme Play : กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์และส่งออกอาหารที่คาดงบ 3Q57 ออกมาดีและได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า (HANA KCE SVI CPF TUF) กลุ่มอสังหาฯสร้างบ้าน/รับเหมา/นิคมฯที่คาดงบ 3Q57 ออกมาดี/มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว(AP LH QH SPALI CK AMATA) กลุ่มสื่อสารขนาดใหญ่ที่งบ 3Q57-4Q7 จะดีต่อเนื่อง(ADVANCINTUCH)
(4)หุ้นจัดงาน Opportunity day วันนี้ (ADVANC THANI)


รายงานวันนี้
Comment : VGI (ขาย / มูลค่าเหมาะสม 8.60 บาท) เร่งต่อสัญญาสื่อโฆษณาใหม่ชดเชยสัญญาเดิม
Update :PS (ซื้อ / มูลค่าเหมาะสม 39 บาท)ยอดขาย ต.ค. อ่อนตัวจากโครงการเปิดใหม่น้อย

Fundamental Talk
สถานการณ์ธนาคารกลางโลกตอนที่1 : สภาพคล่องยังไม่หายไป
       •ภายหลังสหรัฐได้ยุติโครงการ QE3 ลง ก็ต่อด้วย QE ลูกใหม่จากญี่ปุ่น โดยมาตรการชุดนี้ถือว่าเป็นหมัดหนักของญี่ปุ่นหลังจากยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาภาวะเงินฝืดที่เรื้อรังมานานได้ โดยมีวงเงินซื้อสินทรัพย์เฉลี่ยสูงถึงราวเดือนละ 6 หมื่นล้านดอลลาร์ รวมมูลค่าทั้งโครงการราว 1.4 แสนล้านดอลลาร์ มากกว่า QE3 ของสหรัฐเสียอีกที่มีวงเงิน เฉลี่ยเดือนละ 5 หมื่นล้านดอลลาร์ รวมมูลค่า 0.4 แสนล้านดอลลาร์ โดยทาง BOJ คาดหวังจะผลักดันให้อัตราเงินเฟ้อปรับขึ้นมาที่ 2% ใช้เวลาราว 2 ปี โดยมูลค่าสินทรัพย์ในงบดุลของธนาคารกลางญี่ปุ่นจะขยายตัวเป็นสองเท่า เพื่อมาเพิ่มสภาพคล่องในประเทศกว่าเท่าตัว

        •ทางด้านยุโรปก็ประสบกับภาวะเงินฝืดและตัวเลขเศรษฐกิจอ่อนแอ นโยบายที่ ECB ปล่อยกู้เพื่อช่วยเหลือธนาคารกลางต่างๆก็ยังไม่สามารถแก้ในจุดนี้ได้หลังธนาคารรักษาสภาพคล่องและสำรองเงินไว้ไม่ได้เร่งการปล่อยสินเชื่อให้เพิ่มขึ้น ECB อาจจะต้องหันมาใช้นโยบายเข้าซื้อสินทรัพย์โดยตรงคล้ายกับ QE ซึ่งจะต้องติดตามการประชุม ECB เย็นวันนี้ โดยตลาดคาดหมายจะเห็นการกำหนดกรอบและระยะเวลาของมาตรการการเข้าซื้อสินทรัพย์ที่ชัดเจน สิ่งที่คาดก็คือยุโรปจะขยายขนาดของงบดุลให้กลับมาเท่ากับปีก่อน ที่ 4 แสนล้านดอลลาร์ เท่ากับว่าจะต้องเพิ่มจากปัจจุบันราวแสนกว่าล้านดอลลาร์ จากการเข้าซื้อ ABS (asset-backed securities) หรือสินทรัพย์อื่น


ประมาณการขนาดงบดุลของธนาคารกลางที่สำคัญของโลก (ล้านล้าน US$)
Central Bank 2009 2014 2016F %Change
2014-16
FED (US) 1.0 4.1 4.1 0%
PBOC (China) 3.0 5.2 6.0 15%
ECB (Europe) 3.0 2.8 4.0 43%
BOJ (Japan) 1.0 2.5 5.0 100%
BOE (UK) 0.4 0.8 0.8 0%
Total 8.4 15.4 19.9 29%
ที่มา: ประมาณการโดย kktrade

•จากตารางเราประเมินโดยตั้งสมมุติฐานในระยะสองปีข้างหน้าว่า (1)สหรัฐยุติ QE และไม่มีการเปลี่ยนแปลงมาตรการ(2)ญี่ปุ่นและยุโรปดำเนินมาตรการ QE ตามที่ได้แถลงไว้ (3)ธนาคารกลางของจีนและอังกฤษไม่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงิน

•แม้สหรัฐจะยุติ QE ไปแล้ว แต่สภาพคล่องส่วนเกิดของโลกจะยังเพิ่มขึ้นแรงกว่าตอนมี QE สหรัฐเสียอีก หลักๆมาจากมาตรการของทางญี่ปุ่นและมียุโรปเป็นตัวเสริม ดั้งนั้นหลังจากนี้จึงไม่ใช่ภาพของความกังวลเรื่องสภาพคล่องหดตัวอีกต่อไปแล้วแต่จะเป็นภาพที่สภาพคล่องส่วนเกินของโลกจะยังเพิ่มขึ้นหนุนภาพเงินไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยงและตลาดหุ้นไทยในลักษณะ EURO & YEN carry trade และจะเป็นอีกปัจจัยในการจำกัด downside ของตลาดหุ้นไทยได้
สิ่งที่ต้องติดตามในระยะต่อไปคือความเสี่ยงในระยะกลาง-ยาวจากการเพิ่มปริมาณเงินในระบบสูงๆแต่เศรษฐกิจโลกกลับไม่ฟื้นตัวหรือฟื้นตัวได้ช้า (ภาวะ Diminishing return) และความเสี่ยงที่สหรัฐกลับมาทำ QE4หากเศรษฐกิจ/ราคาสินทรัพย์ในประเทศกลับมาชะลอตัวลง

Smart Port Note
Beta ของพอร์ตลงทุนแสดงถึงความเสี่ยงของหุ้นในพอร์ตเทียบกับ ตลาด SET หากค่า Beta สูงกว่าหนึ่งเท่า แสดงถึงความเสี่ยงของ พอร์ตลงทุนที่สูงกว่า SET
Growth Port มีค่า Beta เท่ากับ 1.24
Trading Port มีค่า Beta เท่ากับ 0.90
Dividend Port มีค่า Beta เท่ากับ 0.78
Quant Port มีค่า Beta เท่ากับ 0.38

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!