WORLD7

BANPU2024

smed PIONEER 720x100

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

กลยุทธ์วันนี้ Selective Buy
     ประเด็นสำคัญวันนี้ ตลาดหุ้นไทยวันศุกร์ปิดลบ 2.40 จุด มาอยู่ที่ 1,578.37 จุด มูลค่าการซื้อขายหนาแน่น 62,257 ล้านบาท
      กระแสเงินทุนต่างชาติซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 4 อีก 1,355 ล้านบาท ซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้อีกครั้ง 1,269 ล้านบาท แต่กลับมา Short สุทธิใน SET50 Index Futures จำนวน 4,335 สัญญา คาดว่าเป็นการปิดสถานะ Long ที่เปิดไว้ก่อนหน้านี้
       บรรยากาศการลงทุนในวันนี้เป็น “กลางถึงบวก” เอื้อด้วยปัจจัยต่างประเทศ เมื่ออัตราการว่างงานสหรัฐฯ ลดลงเหลือ 5.8% ในเดือนต.ค. และการส่งออกของจีนเติบโตต่อเนื่อง เป็นสัญญาณบวกต่อภาพรวมเศรษฐกิจโลก ขณะที่ ECB / BoJ กำลังแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจภายในประเทศ ด้วยการอัดฉีดสภาพคล่องทางการเงิน ช่วยปิดความเสี่ยงของ SET INDEX ในรอบสั้นนี้
      ขณะที่ปัจจัยภายในประเทศวันนี้ ติดตามการแถลงแผนการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน 3.0 ล้านล้านบาท เวลา 10 ปี ซึ่งจะเป็นปัจจัยพื้นฐานเชิงบวกต่อการลงทุนในตลาดหุ้นไทยในระยะกลางถึงยาว แต่จิตวิทยาการลงทุนกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง และกลุ่มธนาคารจะได้ประเด็นเก็งกำไรเชิงบวก
ประเมินกรอบแกว่งของ SET INDEX ในมุมมองของเราระหว่าง 1,570-1,590 จุด มูลค่าการซื้อขายหนาแน่นต่อเนื่อง
        กลยุทธ์การลงทุน เราแนะนำ “เก็งกำไรกลุ่มธนาคาร / กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง หรือ หุ้นที่แนวโน้มผลการดำเนินงาน 3Q57 เติบโตโดดเด่น” เป็นทางเลือกในรอบสั้น
กลยุทธ์การลงทุนช่วงสั้น MBKET แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” AP / KTB
Portfolio Top Pick in 4Q14: BEAUTY / IFEC/ LPN/ PTT/ VGI
HOLD: SAMART/ SPCG/ IFEC/ BTS/ SIM/ CK/ LPN/ VGI/ PTT/ KTB
Speculative Buy: AP/ KTB

Action and Stock of the Day
SET INDEX ปิดลบเล็กน้อย

คาด SET INDEX ช่วงสั้นแกว่ง sideways ระหว่าง 1,570-1,590 จุด
หุ้นที่คาดผลการดำเนินงาน 3Q57 เติบโตเด่น ได้แก่ AP / PS / QH / BEAUTY / IFEC
กลยุทธ์การลงทุน เก็งกำไรรายตัว ระยะสัปดาห์ เน้นกลุ่มธนาคาร / รับเหมาก่อสร้าง ตลาดหุ้นเอเชียทั่วเอเชียวันศุกร์ ปิดบวก – ลบ เล็กน้อย สลับกันไป เนื่องจากเป็นการซื้อขายวันสุดท้ายของสัปดาห์ และการประชุม ECB เป็นไปตามที่ตลาดคาด
ด้านตลาดหุ้นไทย SET INDEX แกว่งแคบ 1,580 จุด +/- ทั้งนี้หุ้นที่เกี่ยวข้องกับ MSCI กลับขยับขึ้นเด่น ไม่ว่าจะเป็น PTT / DELTA / EA / TUF ช่วยประคองภาพ SET INDEX ตลอดชั่วโมงการซื้อขาย แม้ว่าจะมีแรงขายทำกำไรในช่วงท้ายตลาดเข้ามามากขึ้น เนื่องจากเป็นการซื้อขายวันสุดท้ายของสัปดาห์ ปิดที่ 1,578.37จุด ลบเล็กน้อย 2.40 จุด มูลค่าการซื้อขาย 62,257 ล้านบาท
กลุ่มที่ยังปิดบวกสูงสุด ได้แก่ กลุ่มกระดาษ +7.14%, กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ +6.66% และกลุ่ม Home +3.97% ส่วนกลุ่มหลักกลุ่มธนาคาร +0.12%, กลุ่มพลังงาน +1.17% และกลุ่ม ICT -1.39%
ภาพตลาดหุ้นไทยวันนี้
ตลาดหุ้นเอเชีย (7.32 น.) เช้านี้ Nikkei เปิดลบ เกิดแรงขายทำกำไรบางส่วน ขณะที่ Kospi เปิดบวกเด่นในเช้าวันนี้
เราคงมุมมองต่อภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นไทยเป็น “กลางถึงบวก” เป็นวันที่ 10 แม้ว่าในช่วงสั้น แนวต้าน 1,590 จุด จะยังผ่านได้อย่างจำกัด แต่การแกว่งแคบ 1,570-1,590 จุดในช่วงสั้นนี้ เพื่อเป็นการสร้างฐานเพื่อไต่ระดับขึ้นทดสอบแนว 1,590-1,600 จุดในท้ายที่สุด เราให้น้ำหนักกับเม็ดเงินทุนต่างชาติที่มีแนวโน้มกลับมากระจายการลงทุนในเอเชียเกิดใหม่ รวมถึงตลาดหุ้นไทย ตัวแปรสำคัญอยู่ที่ GDP ใน 3Q57 ของไทยในวันที่ 17 พ.ย. ว่าจะส่งสัญญาณฟื้นตัวต่อเนื่องจาก 2Q57 ได้มากน้อยเพียงใด นอกเหนือไปจากโอกาสเกิด Yen Carry Trade / Euro Carry Trade ผลักดันด้วยสภาพคล่องทางการเงิน
ทั้งนี้เราให้น้ำหนักกับการเก็งกำไรรอบสั้นเป็นรายกลุ่ม ที่มีประเด็นเชิงบวกสนับสนุนการลงทุน ในรอบสัปดาห์หน้า เราให้น้ำหนักกับกลุ่มธนาคาร และกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ต่อประเด็นดังนี้
•การแถลงแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 3.0 ล้านล้านบาท ระยะเวลา 10 ปี โดย รมว.คมนาคม พล.อ.เอก ประจิณ จั่นตอง วันที่ 10 พ.ย.
•การลงนามการลงทุน โครงการทวาย ในการประชุมผู้นำ ASEAN ในวันที่ 12-13 พ.ย.
นอกเหนือไปจาก การเก็งกำไรรายตัวต่อผลการดำเนินงานใน 3Q57 ซึ่งจะประกาศผลการดำเนินงานมากขึ้นตั้งแต่สัปดาห์หน้าจนถึงเช้าวันที่ 17 พ.ย.
ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุน เราแนะนำ “เน้นเก็งกำไรเป็นรายตัวที่มีประเด็นเชิงบวกเฉพาะตัว หลัง Upside gain ของ SET INDEX ณ ปัจจุบัน เริ่มจำกัด เพียง 20 จุด +/- เท่านั้น”
ทั้งนี้หากเห็นสัญญาณเชิงบวกต่อกระแสเงินทุนต่างชาติ เราแนะนำ “เข้าเก็งกำไรหุ้น Big Cap ในกลุ่ม ธนาคาร (KBANK / KTB), กลุ่ม ICT (ADVANC / TRUE), กลุ่มอสังหาฯ (AP / LPN) เป็นต้น

ปัจจัยสำคัญวันนี้
1.MSCI ปรับสมาชิกในรอบนี้ : โดยมีผลบังคับใช้ ณ ราคาปิดวันที่ 25 พ.ย.นี้
•ดัชนี MSCI Thailand:
i.เพิ่ม: DELTA / EA / TUF
ii.ออก: ไม่มี
•ดัชนี MSCI Global Small Cap
i.เพิ่ม: AIRA / EFORL / ICHI / KTIS / PCS / SAWAD / SUPER
ii.ออก: CENTEL / DELTA / DRT / EA / MCOT / M / PS/ TFD

2.ตัวเลขเศรษฐิจสหรัฐฯ – จีนออกมาดีกว่าคาด
•อัตราการว่างงานเดือนต.ค.ของสหรัฐฯ ลดลงเป็น 5.8% ดีกว่า Bloomberg consensus คาดที่ 5.9% และเดือนก่อนหน้า
•การส่งออกเดือนต.ค.ของจีนเติบโต 11.6% yoy ดีกว่า Bloomberg consensus คาดที่ 10.6% yoy
MBKET มีความเห็นเป็นบวกต่อตัวเลขดังกล่าว เพราะเป็นสัญญาณบวกต่อปัจจัยพื้นฐานการลงทุน หากบวกกับแนวโน้มสภาพคล่องทางการเงินที่ล้นในระบบการเงินโลก จะช่วยให้เงินทุนไหลเข้าตลาดหุ้นในเอเชียเกิดใหม่รวมถึงตลาดหุ้นไทย

3.ติดตามรายละเอียดของแผนการลงทุนขนาดใหญ่ของไทย: วันนี้ รมว.คมนาคม พล.อ.อ.ประจิณ จั่นตอง จะแถลงรายละเอียดของแผนการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน 3.0 ล้านล้านบาท ระยะเวลา 10 ปี เพิ่มขึ้นจากเดิม 2.0 ล้านล้านบาท ระยะเวลา 7 ปี เพื่อเป็นการปรับปรุงและพัฒนาระบบโลจิสติกส์ของประเทศ และเป็นการเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคม AEC ในปลายปีหน้า
MBKET มีความเห็นเป็นบวกในระยะกลางถึงยาวต่อเศรษฐกิจไทย และภาพการลงทุน ประเด็นนี้ เป็นบวกในระยะแรกต่อ
•กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง
•กลุ่มธนาคาร
•กลุ่มวัสดุก่อสร้าง

วานนี้ วันก่อนหน้า
PER14 PER15 PER14 PER15
SET INDEX 16.43 14.03 16.37 13.99
PSE 20.30 17.57 20.38 17.63
JSE 16.24 13.86 16.45 14.03
KOSPI 12.84 10.58 12.66 10.39
TAIEX 14.02 12.88 13.99 12.85
Straits Time 14.28 13.23 14.30 13.24
SHCOMP 9.80 8.73 9.82 8.75
ที่มา: Bloomberg

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” ได้แก่
1.AP : ราคาปิด 6.75 บาท ราคาเหมาะสม 8.20 บาท
a)AP จะรายงานผลประกอบการ 3Q57 ในวันพุธนี้ (12 พ.ย.) โดยคาดว่ากำไรสุทธิ 3Q57 จะเติบโตสูง +134.5% yoy และ +33.6% qoq เป็น 951 ล้านบาท จากการรับรู้รายได้โครงการ Asipire สุขุมวิท 48 และ Aspire พระราม 9 และคาดว่ามีความเป็นไปได้ที่งบ 3Q57 จะออกมาดีกว่าคาดการณ์และเป็น Catalyst ให้กับราคาหุ้น
b)Presales สิ้นสุด 3Q57 ที่ 17,490 ล้านบาท คิดเป็น 83% ของเป้าทั้งปีที่ 21,000 ล้านบาท ดังนั้น จึงคาดว่าบริษัทจะทำยอด Presales ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ เนื่องจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ส่งสัญญาณฟื้นตัวต่อเนื่องทั้งแนวราบและแนวสูง
c)Valuation ยังถูก โดยซื้อขายระดับ PER 2558 เพียง 7.6 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่ 10.4 เท่า และให้ Dividend Yield ในเกณฑ์ดีที่ 5.2% ในปี 2558 และเพิ่มขึ้นเป็น 6.1% ในปี 2559
2.KTB : ราคาปิด 23.20 บาท ราคาเหมาะสม 27.00 บาท
a)MBKET คาดว่าหุ้นกลุ่มธนาคารจะได้อานิสงค์บวกจากเงินทุนต่างชาติที่มีแนวโน้มไหลกลับเข้าตลาดหุ้นในเอเชียเกิดใหม่ รวมถึงตลาดหุ้นไทย
b)และได้ Sentiment บวกจากการแถลงแผนลงทุนระยะ 10 ปี มูลค่า 3 ล้านล้านบาทของกระทรวงคมนาคมในวันนี้ เนื่องจาก KTB เป็นธนาคารที่มีสัดส่วนการปล่อยกู้ให้กับภาครัฐสูงที่สุดในกลุ่มธนาคาร
c)ทิศทางสินเชื่อ 4Q57 เติบโตสูง และคาดว่าจะทำใกล้เคียงกับเป้าหมายทั้งปีของผู้บริหารที่ 6-8% (9M57 เติบโต +6.3% YTD) จากแรงหนุนของการปล่อยสินเชื่อให้กับโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐฯ เนื่องจากการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณเป็นเป้าหมายสำคัญของรัฐบาลเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
d)คาดกำไรสุทธิปี 2558 เติบโต +12.9% yoy เป็น 38,054 ล้านบาท และมี Valuation ที่ยังไม่สูงมากนัก โดยซื้อขายระดับ PBV 2558 ที่ 1.3 เท่า ต่ำกว่าธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ เช่น KBANK 1.87x, SCB 1.93x และ BAY 1.99x
e)ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลในเกณฑ์โดยคาดว่าจะจ่ายเงินปันผลปี 2557 หุ้นละ 1.00 บาท คิดเป็นผลตอบแทนจากเงินปันผล 4.31% และโดดเด่นกว่าธนาคารใหญ่ในกลุ่มเนื่องจาก KTB จ่ายเงินปันผลปีละ 1 ครั้ง ขณะที่ธนาคารใหญ่ที่เหลือได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 1H57 แล้วส่วนนึง

What will DJIA move tonight? คืนนี้ไม่มีประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจสหรัฐฯ

Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
เงินทุนต่างชาติวานนี้ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 9 อีก US$92 ล้าน จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ US$162 ล้าน
ตลาดหุ้น วานนี้(US$ ล้าน) วันก่อนหน้า(US$ ล้าน) YTD(US$ ล้าน) 2556(US$ ล้าน)
TAIEX 69.7 123.1 11,994.0 9,188.0
KOSPI n.a n.a 5,844.7 4,875.1
JSE -15.1 28.8 3,951.4 -1,806.4
PSE -9.2 1.1 765.0 678.4
ตลาดหุ้นเวียดนาม 5.1 0.5 181.2 263.2
SET INDEX 41.3 8.7 -455.2 -6,210.5

Foreign Investors Action วานนี้
กระแสเงินทุนต่างชาติน่าสนใจ
วานนี้ วันก่อนหน้า
ตลาดหุ้น (ล้านบาท) +1,355 +286
SET50 Index Futures (สัญญา) -4,335 +2,836
SSF (สัญญา) +491 +847
Metal Futures (สัญญา) -392 +6
ตลาดตราสารหนี้ (ล้านบาท) +1,269 -320

นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 4 เร่งขึ้นเป็น 1,355 ล้านบาท รวม 4 วันทำการซื้อสุทธิ 4,372 ล้านบาท และทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ขายสุทธิลดลงเหลือ 16,481 ล้านบาท
ด้าน SET50 Index Futures นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมา Short สุทธิ 4,335 สัญญา คาดว่าจะเป็นการทยอยปิดสถานะ Long ที่เปิดไว้ก่อนหน้านี้ เมื่อ S50Z14 ปิดสูงกว่า SET50 Index เป็นวันที่ 6 เท่ากับ 0.69 จุด แคบลงจากวันก่อนหน้า Premium เท่ากับ 2.15 จุด
และตลาดตราสารหนี้ไทย นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมาซื้อสุทธิอีกครั้ง 1,269 ล้านบาท ส่งผลให้ราคาพันธบัตรรัฐบาลไทย ปรับตัวลงต่อเนื่องอีกเล็กน้อย ผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 2 อีก 1.47bps ปิดที่ 3.110%

Short-Selling วานนี้
มูลค่า Short-selling ลดลงเหลือ 683 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 736 ล้านบาท
Stock Total Value(mn Bt) % of trading Volume Avg.Price(Bt)
PTT 361.00 9.66% 387.13
ADVANC 101.04 6.87% 234.20
ITD 50.84 2.40% 5.78
KTB 30.03 7.17% 23.15
TRUE 17.09 1.12% 10.78

NVDR Movement
NVDR ซื้อสุทธิ เป็นวันที่ 8 เน้น PTT อย่างโดดเด่น
การซื้อขายผ่าน NVDR วานนี้ซื้อสุทธิอีก 1,774 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ703 ล้านบาท รวม 8 วันทำการ ซื้อสุทธิ 10,338 ล้านบาท เน้นการสะสมกลุ่มพลังงานและธนาคารอย่างโดดเด่น ภาพการลงทุน NVDR สรุปได้ดังต่อไปนี้
1.กลุ่มพลังงาน ซื้อสุทธิสูงสุด 688 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 256 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มธนาคาร ซื้อสุทธิ 497 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 678 ล้านบาท กลุ่มอาหารซื้อสุทธิ 397 ล้านบาท กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ซื้อสุทธิ 274 ล้านบาท และกลุ่ม MAI ซื้อสุทธิ 142 ล้านบาท
2.ส่วนกลุ่มปิโตรเคมี ขายสุทธิสูงสุดเป็นวันที่ 2 อีก 474 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 278 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ขายสุทธิ 34 ล้านบาท

ซื้อสุทธิสูงสุด มูลค่าสุทธิ(ล้านบาท) % มูลค่าการซื้อขาย ขายสุทธิสูงสุด มูลค่าสุทธิ(ล้านบาท) % มูลค่าการขาย
PTT 772.39 16.11 PTTGC -454.32 15.89
TUF 269.21 20.03 ADVANC -238.55 19.16
DELTA 238.41 28.04 PTTEP -135.70 15.13
KBANK 193.52 35.06 BIGC -43.01 52.45
JAS 161.96 6.18 SCC -25.55 21.91

Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA
Strategist / Analyst
662-6586300 x 1440
Padon Vannarat
Equity Analyst
662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham
Assistant Analyst
662-6586300 x 1530
Twitter Channel
http://twitter.com/YipNgenYipTong

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!