WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล.ทรีนีตี้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

Today's Selection : SCC, BTS, AEONTS, HMPRO
Follow Buy : -
Follow Sell : -

Sideway up ติดตาม roadmap กระตุ้นเศรษฐกิจ คสช.
      ตลาดหุ้นยุโรปและตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง หลังดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯเดือน พ.ค. ปรับตัวเพิ่มที่ระดับ 83 จุด สะท้อนมุมมองบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจและการจ้างงาน ขณะที่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.8% สวนทางกับที่ตลาดคาดการว่าจะหดตัว
      แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้ คาด sideway up โดยเรายังคงมุมมองว่าแรงขายต่างชาติเริ่มชะตัว แม้ว่าค่าเงินบาทเช้านี้อ่อนตัวเล็กน้อยจาก ช่วง overnight โดยเคลื่อนไหวในกรอบ 32.61-32.63 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่ Roadmap การเบิกจ่ายเงินและกระตุ้นเศรษฐกิจจาก คสช. เริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น หลังแต่งตั้ง ม.ร.ว. ปรีดิยาธร และ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจต่างประเทศ ซึ่งคาดว่าเป็น sentiment เชิงบวกต่อตลาด นอกจากนี้ คสช. ยังเตรียมผลักดันโครงการโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ เช่น รถไฟรางคู่ และการประมูลรถไฟฟ้าเส้นใหม่ในเขต กทม. ซึ่งเรามองว่า SINGER, AEONTS ได้รับปัจจัยบวกจากกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้น จากเงินชดเชยจำนำข้าว ขณะที่ BTS, CK, ITD, STEC, SCC ได้รับปัจจัยบวกจากการผลักดันโครงการโครงสร้างพื้นฐาน นอกจากนี้ เรามองว่าเป็นโอกาสดีให้เข้าซื้อสะสมหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดีและมีเงินปันผลสูง เช่น ADVANC, BTS, BCP, INTUCH, SCC
      คาดหุ้นกลุ่ม PTT มีแรงกดดันในระยะสั้น จากกระแสข่าวการปฎิรูปพลังงาน ซึ่งต้องติดตามว่าจะออกมาในรูปแบบใด เช่น การเปลี่ยนแปลงราคา LPG ก๊าซธรรมชาติ หรือราคาน้ำมันสำเร็จรูป ส่วนในกรณีกระแสข่าว ยกเลิกการปรับขึ้นราคา LPG ภาคครัวเรือนนั้น เรามองว่า PTT ไม่ดีรับผลกระทบ แต่เป็นกองทุนน้ำมันซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับส่วนต่างราคาที่ปรับขึ้นมา อย่างไรก็ตาม ในมุมมองเชิงอนุรักษ์นิยม เราแนะนำให้เลี่ยงการลงทุนในกลุ่ม PTT ออกไปก่อนจนกว่าจะมีความชัดเจน หรือ รอซื้อ ที่ 276 บาท อิงจาก ส่วนชดเชยความเสี่ยง ที่ 7.2% (implied equity risk premium) ทั้งนี้ เรามองว่า PTTGC ได้รับผลกระทบน้อยที่สุดในกลุ่ม เนื่องจากสัดส่วน EBITDA กว่า 75% มาจากกลุ่มปิโตรเคมี ซึ่งราคา-ซื้อขาย อิงจากราคาในตลาด
กลยุทธ์การลงทุน : แนะนำถือหุ้นที่เหลืออยู่ 50%-60% ต่อไป สำหรับผู้ที่ต้องการเข้าซื้อหุ้นเพิ่ม แนะนำรอจังหวะเข้าซื้อที่ระดับดัชนี 1360-1380 จุด โดยหุ้นแนะนำ ณ ขณะนี้ได้แก่
     1) หุ้นที่มักปรับตัวแข็งแกร่งหลังจากรัฐประหาร ได้แก่ พลังงาน(ยกเว้นกลุ่ม PTT) ปิโตรเคมี อิเล็กทรอนิกส์
     2) หุ้นที่นักลงทุนต่างชาติถือครองในระดับต่ำ ได้แก่ โรงพยาบาล และ ยานยนต์
     3) หุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเร่งรัดจ่ายเงินค่ารับจำนำข้าว ได้แก่ ค้าปลีก เช่าซื้อ วัสดุก่อสร้าง

Stock S R Comment
SCC 404.00 416.00 หุ้นปันผลสูง ปัจจัยพื้นฐานแกร่ง
BTS 8.10 8.50 หุ้นปันผลสูง ธุรกิจสื่อหนุนรายได้ระยะยาว
AEONTS 91.75 94.25 อานิสงส์กำลังซื้อเพิ่มจากเงินชดเชยจำนำข้าว
HMPRO 8.50 8.95 แนวโน้ม 2Q57 ดี ราคายังไม่สะท้อนการฟื้นตัวของกำลังซื้อ

 

แนวรับ 1,370 แนวต้าน 1,410

หุ้นมีข่าว :
     BTSชิงเค้กสายสีเขียว : BTS มั่นใจว่ามีความได้เปรียบคู่แข่งในด้านความพร้อมและเงินสดในมือกว่า 2.5 หมื่นล้านบาท ในการเข้าร่วมประกวด O&M สายสีเขียวทั้ง 2 เส้นทาง คือ สี หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และ แบริ่ง-สมุทรปราการ เนื่องจากเป็นสายทางเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า BTS ปัจจุบัน นอกจากนี้ ปัญหาการเมืองไม่ได้ส่งผลต่อจำนวนผู้โดยสาร โดยในเดือน เม.ย. มีจำนวนผู้โดยสาร 16.75 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า ทั้งนี้ เรามองว่าการผลักดันโครงการโครงสร้างพื้นฐานของ คสช. เป็นปัจจัยบวกโดยตรงต่อ BTS (ซื้อ ราคาเป้าหมาย 11.20 บาท)
    PTT เลื่อนGPSCเข้าตลท.ปี58 : ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อม แต่อาจจะเลื่อนเข้าตลาดเป็นช่วง1Q58 จากเดิมกำหนดไว้ในช่วงครึ่งหลังปี 57 เนื่องจากบรรยากาศตลาดหุ้นไทยยังไม่เอื้อต่อการระดมทุน อย่างไรก็ตาม หากภาวะตลาดทุนกลับมาดีขึ้น อาจจะกลับมาพิจารณาอีกครั้งว่า จะดำเนินการขายหุ้นไอพีโอในปีนี้หรือไม่ โดยขึ้นอยู่กับ PTT จะเป็นผู้พิจารณาตัดสินใจ ซึ่งมองว่าไม่ส่งผลลบต่อ PTT ในระยะสั้น
      BBL นำปล่อยสินเชื่อเดอะมอลล์กรุ๊ป 1 แสนล้าน : แหล่งข่าวเผยในช่วง 2Q57 BBL ร่วมกับธนาคารอื่นๆ เตรียมปล่อยสินเชื่อให้เดอะมอลล์กรุ๊ป 1 แสนล้านบาท เพื่อนำไปขยายสาขาในหัวเมืองสำคัญ รวมถึงในกรุงเทพฯ ด้านผู้บริหาร BBL กล่าวว่าใน 2Q57 สินเชื่อจะกลับมาขยายได้ปกติ หลังจากใน 1Q57 มีลูกค้ารายใหญ่คือสินเชื่อทำให้ไม่เติบโต ซึ่งยังตั้งเป้าเติบโตอิงกับ GDP และใช้ความระมัดระวังในการพิจารณาเพื่อป้องกันปัญหา NPL โดยเรามองว่าข่าวนี้ยังมีความไม่แน่นอน แต่หากเป็นจริงจะเป็นปัจจัยบวกต่อ BBL และธนาคารอื่นๆ ที่ร่วมในการปล่อยสินเชื่อ เนื่องจากจะช่วยให้สินเชื่อเติบโตได้ภายใต้สถานการณ์ที่ยากลำบาก โดยเรายังคงเลือก BBL เป็น Top pick ของกลุ่มฯ ให้ราคาเป้าหมายที่ 213 บาท
      ค้าปลีกเปิดศึกชิงกำลังซื้อ อัดแคมเปญบอลโลก : ยิ่งเข้าใกล้ช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลก จะเห็นว่าห้างร้านต่างๆได้นำเทศกาลนี้มาเป็นจุดส่งเสริมการขาย โดยหากอ้างอิงจากข้อมูลจากศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจฯ หอการค้าไทย ระบุว่า ช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลก'53 มีเงินสะพัดกว่า 6 หมื่นล้านบาท เป็นเม็ดเงินในการซื้อสินค้า 2.5 หมื่นล้านบาท โดยสินค้ายอดนิยม ได้แก่ ทีวี สินค้ากีฬา สินค้าที่ระลึกฟุตบอลโลก อาหาร เครื่องดื่ม และขนมขบเคี้ยว เราจึงมองว่ากลุ่มค้าปลีกกำลังจะฟื้นตัวกลับมาด้วยปัจจัยหนุนจาก (1) เทศกาลฟุตบอลโลก (2) การจ่ายเงินจำนำข้าวคืนชาวนา จึงแนะนำในหุ้นที่คาดว่าจะฟื้นตัวเร็วหลังจากที่ได้รับผลกระทบแรง เนื่องจากกระทบกลุ่มลูกค้าหลักโดยตรง เช่น GLOBAL, BIGC, ROBINS, BJC ส่วนหุ้นที่ได้รับผลกระทบจำกัดจากการเมืองและเศรษฐกิจ โดยมีผลการดำเนินงานดีกว่ากลุ่มตั้งแต่ในช่วงที่ผ่านมาคือ CPALL, MAKRO, HMPRO
นักวิเคราะห์ :
ดุลเดช บิค, CFA, FRM, CAIA (ID: 29932)
E-mail: duladeth@trinitythai.com
ณัฐชาต เมฆมาสิน, CFA, FRM (ID: 31379)
E-mail: nuttachart@trinitythai.com

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!