Details

Category: บทวิเคราะห์

Published: Wednesday, 28 May 2014 15:52

Hits: 2971

บล.โกลเบล็ก : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

Market View : แนวรับ 1,385-1,380
Technical : แนวรับ : 1,380 / 1,371 แนวต้าน 1,400 / 1,410
หุ้นแนะนำพิเศษ : KBANK แนวรับ 183.50/180 แนวต้าน 190/195
หุ้นเด่นรายวัน : BTS BMCL CPALL TUF

  วันอังคารตลาดหุ้นไทยปิดบวก ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,392.73 จุด เพิ่มขึ้น 4.44 จุด(+0.32%) มูลค่าการซื้อขาย 42,634.56 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิอีก 2,730.65 ล้านบาท
  แนวโน้มตลาดหุ้นไทย ทางฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็กฯ คาดมีแนวโน้มผันผวนในกรอบ 1,378(1,370)- 1,410 การปรับตัวลงของราคาหลักทรัพย์จูงใจให้มีแรงซื้อระยะสั้น หรือซื้อถือระยะกลางเพิ่ม เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานรายหลักทรัพย์ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปในทางลบ และเมื่อเทียบอัตราผลตอบแทนจะให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น ในขณะที่ SET50 แท่งเทียนเรียงตัวสร้างจุดต่ำหรือฐานแนวรับระยะสั้นบริเวณ 930-933 ได้อย่างมีนัยสำคัญ แนวโน้มมีโอกาสกลับตัวขึ้นทางเทคนิค GFM14 เก็งกำไรในกรอบ 19,510-19,820 GFQ14 เก็งกำไรในกรอบ 19,580-19,890
  กลยุทธ์ แรงซื้อกลับคืนเข้ากลุ่มธนาคาร และมีโอกาสที่จะกลับตัวขึ้นต่อเนื่อง แนะนำถือหรือซื้อระยะสั้น KBANK SCB BBL KTBได้รับประโยชน์จากโครงการใช้จ่ายภาครัฐ กลุ่มพลังงานเริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามาแต่ยังไม่โดดเด่น การปรับตัวเป็นจังหวะในการเข้าซื้อ PTT PTTEP BANPU กลุ่มโรงกลั่น มีมุมมองด้านเทคนิคหรือแนวโน้มระยะกลางของการกลับตัวรอบใหญ่ TOP กลุ่มวัสดุก่อสร้าง TASCO SCCC SCC SCP CCP กลุ่มรับเหมาฯ ได้รับประโยชน์หากมีการจัดตั้งรัฐบาลที่มีอำนาจเต็ม STEC CK CNT SYNTEC UNIQ TASCO หุ้นรายหลักทรัพย์ AOT TRUE TGPRO ระยะกลาง ถือ และซื้อเพิ่มเมื่อปรับตัวลงแรง

หุ้นแนะนำพิเศษ
  KBANK (ราคาปิด 187.50 ซื้อ เป้าหมาย 216) ปัจจัยพื้นฐานยังแข็งแกร่งและความมีประสิทธิภาพในการควบคุมหนี้เสียและความเข้มงวดมากขึ้นในการอนุมัติสินเชื่อ ส่งผลให้ผลประกอบการยังมีศักยภาพเติบโตต่อเนื่อง ในช่วง 1Q57 มีกำไรสุทธิ 11,939 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 18%YoY โดยคิดเป็น 27% ของประมาณการทั้งปีที่ 4.4 หมื่นล้านบาทยังเติบโต 6% จากปี 56 ทั้งนี้ในอนาคตฝ่ายวิจัยมีแนวโน้มปรับเพิ่มประมาณการและราคาเป้าหมายหากงบครึ่งปียังคงดีกว่าคาดอีก

หุ้นเด่นรายวัน
  BTS (ปิด 8.25 ซื้อเก็งกำไร), BMCL( ปิด 1 บาทซื้อเก็งกำไร),CPALL (ปิด 44.75 ซื้อเก็งกำไร) เก็งกำไรหุ้นที่ได้ปัจจัยบวกจากข่าว คสช.ประกาศเลื่อนเวลาเคอร์ฟิวจาก 22.00-05.00 น. เป็นเวลา 00.01-04.00 น.คาดส่งผลบวกต่อปริมาณการเข้าใช้รถไฟฟ้า BTS และ BMCL เพิ่มขึ้น และปริมาณการเข้าใช้บริการในร้านสะดวกซื้อ CPALL
  TUF (ราคาปิด 67 ซื้อ เป้า consensus 76) ผู้บริหารคาดกำไร-ยอดขาย Q2/2557 ดีกว่า Q1/2557 จากการฟื้นตัวทั้งธุรกิจทูน่า กุ้ง และปลาซาร์ดีน และค่าเงินบาทอ่อน (ที่มา : ทันหุ้น)

รายชื่อหลักทรัพย์ที่ติดเกณฑ์บัญชี Cash Balance
* RASA มีผลบังคับใช้ 21 เม.ย. - 30 พ.ค. 57
* EFORL มีผลบังคับใช้ 28 เม.ย. - 6 มิ.ย. 57
* EVER/ IFEC / OCEAN / SUPER มีผลบังคับใช้ 6 พ.ค.-13 มิ.ย. 57
* PAF/ PDI มีผลบังคับใช้ 19 พ.ค. - 27 มิ.ย. 57
* AJP / APCO / EE มีผลบังคับใช้ 26 พ.ค. - 4 ก.ค. 57
***เนื่องจากการลงทุนในหลักทรัพย์ ดังกล่าวมีการซื้อขายผิดไปจากสภาพปกติของตลาดดังนั้นผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
ตลาดหุ้นดาวโจนส์ : เพิ่มขึ้น 69.23 จุด
  ดัชนีตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิดตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้น 69.23 จุด เนื่องจากนักลงทุนขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ โดยเมื่อวานนี้คอนเฟอเรนซ์ บอร์ดรายงานตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐในเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้นขึ้นสู่ระดับ 83 จากระดับ 81.7 ในเดือนเม.ย. ขณะเดียวกันกระทรวงพาณิชย์สหรัฐก็รายงานยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนหรือสินค้าที่มีอายุการใช้งานมากกว่า 3 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.8% ในเดือนเม.ย. ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าปรับตัวลง 0.7% และสุดท้ายสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์ รายงานดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองปรับตัวขึ้น 0.9% ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นครั้งแรกในรอบห้าเดือน ทำให้ปิดตลาดดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 69.23 จุด หรือ +0.42% ปิดที่ 16,675.50 จุด ดัชนี NASDAQ เพิ่มขึ้น 51.26 จุด หรือ +1.22% ปิดที่ 4,237.07 จุด ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 11.38 จุด หรือ +0.60% ปิดที่ 1,911.91 จุด

ตลาดน้ำมัน NYMEX : ลดลง 24 เซนต์
  ราคาน้ำมันดิบที่ตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 24 เซนต์ หลังมีการคาดการณ์ว่าสต๊อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐจะปรับตัวสูงขึ้นในสัปดาห์นี้ นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังปรับตัวลดลงเนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครน หลังประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินแห่งรัสเซีย ส่งสัญญาณว่า รัสเซียพร้อมที่จะเจรจากับประธานาธิบดียูเครนที่มาจากการเลือกตั้ง อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันดิบไม่ได้ลดลงมากนักเนื่องจากตลาดยังได้แรงหนุนจากรายงานเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ อาทิ ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ยอดซื้อสินค้าคงทน และดัชนีราคาบ้าน ในสหรัฐที่ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ปิดตลาดราคาน้ำมันดิบที่ตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือน ก.ค.ลดลงเพียง 24 เซนต์ ปิดที่ 104.11 ดอลลาร์/บาร์เรลส่วนน้ำมันดิบ Brent ส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 30 เซนต์ ปิดที่ 110.02 ดอลลาร์/บาร์เรล

Analyst :
ธวัชชัย 02-6725993 tawatchai@globlex.co.th
วิลาสินี 02-6725937 wilasinee@globlex.co.th
อาทิตย์ 02-6725946artit@globlex.co.th