Details

Category: บทวิเคราะห์

Published: Thursday, 20 November 2014 16:42

Hits: 1580

บล.ธนชาต : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

Market Outlook
  SET แนวโน้ม Sideways Up…มาตรการสกัดเก็งกำไรกระทบ SETจำกัด: SET เคลื่อนไหวในกรอบแคบปิดตลาด -0.24% ที่ 1,577.55 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4 หมื่นล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นสุทธิ 493 ล้านบาท...SET มีแนวโน้มเคลื่อนไหว Sideways Up แนวต้านย่อย 1,585 จุด และถัดไปที่ 1,600 จุด และเป้าหมายปลายปีที่ 1,650 จุด จากแนวโน้มเศรษฐกิจฟื้นตัว และลุ้นการ “ฟื้นตัว” ของหุ้นกลุ่มพลังงานก่อนการประชุม OPEC วันที่ 27 พ.ย.นี้ สำหรับมาตรการสกัดการเก็งกำไรหุ้นขนาดเล็กของ ตลท. 3 มาตรการ 1) หุ้น Trading Alert ให้เข้าเกณฑ์ Cash Balance 3 สัปดาห์ 2) หุ้นติด Trading Alert ครั้งที่ 2 จะไม่นำไปคิดเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน และ 3) หุ้นติด Trading Alert ครั้งที่ 3 จะไม่สามารถใช้ Net Settlement ได้ ส่งผลกระทบ SET จำกัด
  “ซื้อ” ICHI: แนะนำ “ซื้อ” ICHI ด้วยเป้าหมายพื้นฐาน 27 บาท จาก 1) ธุรกิจ ICHI เติบโตต่อเนื่อง จากการขยายกลุ่มสินค้า 2) ราคาปัจจุบันสะท้องความเสี่ยงจากการขึ้นภาษีสรรพสามิตร และการขาดทุนช่วงเริ่มต้นของธุรกิจอินโดฯ ไปแล้ว 3) กำไรจะกลับมาเติบโตแกร่งในปี 2016 ถึง 51% และ 4) มีสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคสัปดาห์แรก เป้าหมาย 22.9/23.8 บาท

Tactical Portfolio (1-3 months)
  TNS แนะนำ AOT, BGH, BTS, CK, EA, KBANK, SAMART, SAPPE, SPALI, และ TUF เป็นหุ้นใน Tactical Portfolio ต่อเนื่อง
  กลุ่มหุ้นพลังงานทางเลือก: การประกาศบริษัทที่ได้รับสิทธิในการลงทุนโรงไฟฟ้า Solar Farm กำลังการผลิตทั้งหมด 800MW (แบบ FIT 5.66 บาท/หน่วย) หลังวันที่ 28 พ.ย.นี้ ถือว่าเป็นปัจจัยบวกต่อกลุ่มผู้รับเหมาฯ โครงการ Solar Farm อย่าง DEMCO และ GUNKUL โดยตรง และแนะนำ “เก็งกำไร” ด้วยเป้าหมายระยะสั้นที่ 17.6 บาท และ 25.5 บาท ตามลำดับ ขณะที่กลุ่มผู้ผลิตไฟฟ้าแนะนำ “ซื้อ” EA และ SPCG โดย EA มีจุดเด่นที่อัตราการเติบโตกำไรสูงต่อเนื่องไปจนถึงปี 2018 จากกำลังการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานลมที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ SPCG แม้กำไรเติบโตไม่มากนักตั้งแต่ปี 2017 เป็นต้นไป อย่างไรก็ตามถ้าพิจารณาในเชิง PE จะเห็นว่า SPCG ซื้อขายที่ระดับ PE ต่ำเพียงแค่ 8.7-8x ในปี 2016-17 เท่านั้น ซึ่งต่ำที่สุดในบรรดากลุ่มหุ้นโรงไฟฟ้าพลังงานทางเลือก ทั้งนี้ถ้าพิจารณาในเชิงเทคนิค ประเมินเป้าหมายระยะสั้น EA ที่ 28 บาท (ได้รับผลดีจากการนำเข้าไปรวมใน MSCI วันที่ 25 พ.ย.นี้ด้วย) และ SPCG ที่ 30.75/32.5 บาท

Technical
  ลุ้นกลับมายืน 1580 จุด : ระยะสั้นยังเป็นลักษณะแกว่งตัวขึ้น เมื่อวานแรงขายกดดัชนีปิดต่ำกว่า 1580 จุด ต้องรอจังหวะฟื้นตัวกลับขึ้นทะลุผ่าน 1580-85 จุด จะขึ้นต่อไปทดสอบแนวต้านถัดไปบริเวณ 1602-10 จุด ขณะที่เป้าหมายรอบถัดไปขึ้นไปสู่เป้าหมาย 1650 จุด สำหรับวันนี้คาดว่าดัชนี SET จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1574-1584 จุด
   หุ้นที่แนะนำซื้อ : ROBINS ลงไปต่ำสุดรอบนี้ที่ระดับ 45.00 บาท และเริ่มฟื้นตัว ราคาดีดตัวขึ้นมายืนเหนือระดับ 47.00 บาท คาดว่ามีโอกาสขึ้นต่อไปทดสอบ 49.50 บาท SPCG ปิดสูงกว่า 28.00 บาท ยืนยันแนวโน้มรองเป็นทิศทางขึ้นต่อเนื่อง คาดว่าจะมีการเปลี่ยนกรอบซื้อขายขึ้นไปอยู่ระหว่าง 28.00-30.50 บาท เป้าหมายที่ 30.50 บาท KBANK ขึ้นทำยอดสูงสุดใหม่ทะลุผ่าน 240 บาท เป็นจังหวะซื้อตามต่อเนื่อง คาดว่าจะขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 255 บาท

TFEX Recommendation
  SET50 Futures: แนะนำ “เปิด”/“ถือ” สถานะ Long สัญญา S50Z14 ด้วย เป้าหมายการปรับสูงขึ้นที่ 1,072 จุด ขณะที่กำหนด Trailing Stop ที่ 1,046 จุด (อิง MAV20 วัน)
  Gold Futures: แนะนำ “ถือ” สถานะ Long สัญญา GFZ14 โดยมีเป้าหมายการปรับสูงขึ้นที่ 18,900 บาท ที่เป็นแนวต้าน Downtrend Line ขณะที่กำหนด Trailing Stop ที่ 18,450 บาท โดยในทางเทคนิคเกิดสัญญาณ “ฟื้นตัว” ในกราฟระยะสัปดาห์เป็นสัปดาห์แรก
  Oil Futures: แนะนำ “รอเปิด” สถานะ Long สัญญา BRX14 ในกรณีที่สามารถยืนได้เหนือระดับ 2600 จะเป็นสัญญาณฟื้นตัว ด้วยเป้าหมายการปรับสูงขึ้นที่ 2680-2700 โดยเราคาดการณ์ราคาน้ำมันฟื้นตัวก่อนการประชุม OPEC สัปดาห์หน้า และในทางเทคนิคอยู่ในภาวะ Oversold มาก

Thai Strategy Team
นพดล พิริยวุฒิ
อดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล