WORLD7

BANPU2024

smed PIONEER 720x100

บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
   (+/-) ตลาดหุ้นต่างประเทศ : DJIA +33.27, NASDAQ +26.16, S&P +4.03, FTSE -17.70, CAC -31.98 และ DAX +11.17 โดย DJIA และ S&P 500 ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ภายใต้ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่มีทั้ง + / - เช่น (1) ยอดขายบ้านมือสอง – ตค. ของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 1.5% อยู่ที่ 5.26 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับแต่กย. ’56 (2) จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน ล่าสุดลดลง 2,000 ราย อยู่ที่ 291,000 ราย (3) ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) - ตค. ทรงตัว สวนทางกับที่คาดว่าจะลดลง 0.1% แต่เพิ่มขึ้น 1.7%yoy และ (4) ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้น - พย. อยู่ที่ 54.7 ลดลงจาก 55.9 เมื่อตค. และเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 10 เดือน
  .....ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปได้รับปัจจัยลบเพิ่มจากดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ของทั้งจีนและยูโรโซน – พย. ชะลอตัวลง อยู่ที่ระดับ 51.4 และ 50.0 ตามลำดับ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือน
  …..ราคาปิดน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน ธค. +US$1.00 อยู่ที่ US$75.58 ต่อบาร์เรล ภายใต้คาดการณ์ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) จะปรับลดเพดานการผลิตในการประชุมเดือนนี้ (27/11/57) หลังราคาน้ำมันลดลงต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา โดยคาดโอเปคอาจจะพิจารณาลดเพดานการผลิตลงราว 1-1.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน
  ....ทางด้านราคาทองคำ ส่งมอบเดือน ธ.ค. -US$3.0 อยู่ที่ US$1,190.9 ต่อออนซ์ ภายใต้ปัจจัยกดดันจากการคาดการณ์ว่าเฟด อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ ส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
   (-) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ -346 ล้านบาท สะสมตั้งแต่ต้นปี -13,072 ล้านบาท (สิ้นปี’56 มียอดขายสุทธิสะสม 193,911 ลบ)

ทิศทางตลาด
  ทิศทางตลาด : แกว่งตัว? แต่คาดยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ภายใต้การเคลื่อนไหวของตลาดต่างประเทศที่ไร้ทิศทางตามตัวเลขเศรษฐกิจที่มีทั้ง + / -
  …..ขณะที่ประเด็นในประเทศ ยังไม่มีปัจจัยชี้นำใหม่ๆ ปัจจัยทางด้าน Fund Flow ยังมีความผันผวนหลังแรงซื้อ / ขายสุทธิจากต่างชาติสลับกันไปขณะที่เริ่มเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาว (เดือนธันวาคม) คาด Fund Flow อาจชะลอตัวบ้าง แต่คาดได้รับชดเชยจากสถาบันในประเทศ (LTF / RMF) และยังแนะติดตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม หลัง GDP – 3Q/57 เติบโตต่ำกว่าคาด
  .....รวมถึงความชัดเจนเกี่ยวกับวงเงินลงทุนกรอบยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระยะเวลา 8 ปี (ปี’ 58 – 65) ซึ่งกระทรวงคมนาคมจะสรุปในเดือน พ.ย. หลัง (21/10/57) ครม. อนุมัติแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานคมนาคม ในปี ’58 – ’65 เช่น รถไฟรางคู่ รถไฟฟ้า การขยายถนน และการขยายสนามบินฯ เป็นต้น เพื่อช่วยลดต้นทุนโลจิสติกส์ และเพิ่มศักยภาพของประเทศ ให้รองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ซึ่งคาดกลุ่มรับเหมาก่อสร้างน่าจะได้รับผลดีต่อเนื่องในระยะยาว โดยล่าสุด (18/11/57) ครม. อนุมัติโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่เส้นทางหนองคาย – มาบตาพุด ระยะทาง 867 กม. ระหว่างไทย – จีน ด้วยวิธี G to G เงินลงทุน 400,000 ล้านบาท คาดเริ่มก่อสร้างปี’59
  ....นอกจากนี้ยังมีประเด็นการเร่งรัดเปิดประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายต่างๆ ที่คาดยังเป็นปัจจัยบวกต่อภาพรวมกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง หลังมีการยื่นซองประมูลโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว เส้นทางหมอชิต – คูคต เมื่อ 30/9/57 ซึ่งมีผู้ยื่นซองทั้งหมด 4 ราย (ITD, CK, STEC และ UNIQ) คาดใช้ระยะเวลา 1 – 3 เดือน ทราบผลการประมูล คาดอย่างเร็วคาดสามารถลงนามสัญญาและเริ่มก่อสร้างในช่วง 1H/58
  ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี -0.02 อยู่ที่ 2.34% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54) และดัชนีความเสี่ยง (VIX) -0.38 อยู่ที่ 13.58


  หุ้นแนะนำ : PS
ประเด็นที่ต้องติดตาม (21 พย.’57)
   21/11/57 : ไม่มีรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ
นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ 02-684-8788 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!