WORLD7

BANPU2024

smed PIONEER 720x100

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

กลยุทธ์วันนี้ Slowdown
   ประเด็นสำคัญวันนี้ ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปิดบวกเป็นวันที่ 3 อีก 6.66 จุด มาอยู่ที่ 1,596.80 จุด มูลค่าการซื้อขาย 64,282 ล้านบาท ทั้งนี้เป็นผลจากการปรับดัชนี MSCI เป็นสำคัญ
     เงินทุนต่างชาติเป็นบวกต่อเนื่อง ซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 3 มากถึง 1,260 ล้านบาท อาจเป็นผลจากการปรับดัชนี MSCI แต่การ Long สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 2 มากถึง 10,752 สัญญา กลับเป็นสัญญาณบวกต่อหุ้นหลักในตลาดหุ้นไทย มิใช่ผลของ MSCI ขณะที่ตลาดตราสารหนี้ซื้อสุทธิเบาบาง 578 ล้านบาทเท่านั้น
     ภาพการลงทุนในวันนี้ เราคงมุมมองเป็น “บวก” เป็นวันที่ 3 โอกาสที่ SET INDEX จะไต่ระดับขึ้นทดสอบแนว 1,600 จุด +/- ระหว่างชั่วโมงการซื้อขายยังคงมีความเป็นไปได้ แต่อาจยังไม่แรงมากพอที่จะปิดยืนเหนือแนวดังกล่าวได้ในวันนี้ เพราะขาดปัจจัยใหม่เข้าหนุนการลงทุน อีกทั้งนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศ ต่างรอดูตัวเลขเศรษฐกิจเดือนต.ค. ซึ่ง ธปท.จะรายงานในวันศุกร์นี้ เพื่อประเมินภาพรวมเศรษฐกิจใน 4Q57
และแม้ว่าปัจจัยการลงทุนทั้งในและต่างประเทศขาดประเด็นใหม่ แต่ด้วยสภาพคล่องทางการเงินที่ล้นทั้งในประเทศ จากดอกเบี้ยเงินฝากที่อยู่ในระดับต่ำ ทำให้นักลงทุนมีการปรับพอร์ตมายังสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น สัดส่วนของนักลงทุนทั่วไป 62% ของการซื้อขายรวมเฉลี่ย YTD เพิ่มขึ้นจากปี 2556 ที่ 57% และนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายทั้งจาก ECB / BoJ และ ธนาคารกลางจีน ทำให้ตลาดหุ้นไทยที่มี Valuation ตึงตัวอยู่ ณ ปัจจุบัน แต่ก็ไม่เกิดการปรับฐานลงแรง
       อีกทั้งบรรยากาศการลงทุนในเดือนธ.ค.กลับเต็มไปด้วยประเด็นบวก ทั้งการประชุม ECB วันที่ 4 ธ.ค. การเลือกตั้งในญี่ปุ่นวันที่ 14 ธ.ค. และการประชุม กนง. วันที่ 17 ธ.ค. รวมถึงการพิจารณาร่างกฎหมายเศรษฐกิจดิจิตอล ทำให้เชื่อว่า SET INDEX ระลอกนี้มีลุ้นขึ้นไปทดสอบ 1,620 จุด ตามที่ประเมินไว้วานนี้
ดังนั้นในเชิงกลยุทธ์การลงทุน เราแนะนำ “นักลงทุนเข้าเก็งกำไรในหุ้นหลักที่มีลักษณะ High Beta ขณะที่ผลการดำเนินงานผ่านจุดต่ำสุด หรือเติบโตเด่นใน 4Q57” เป็นทางเลือก
กลยุทธ์การลงทุนช่วงสั้น MBKET แนะนำ “เก็งกำไร” AAV / BBL
Portfolio Top Pick in 4Q14: BEAUTY / IFEC/ LPN/ PTT/ VGI
HOLD: SAMART/ IFEC/ BTS/ SIM/ CK/ LPN/ VGI/ PTT/ KTB
Speculative Buy: AAV/ BBL

Action and Stock of the Day
SET INDEX ยังไม่ผ่าน 1,600 จุด
คาด SET INDEX ยังไม่น่าผ่าน 1,600 จุด แม้สัญญาณกระแสเงินทุนต่างชาติ เป็นบวกมากขึ้นก็ตาม
กลยุทธ์การลงทุน เก็งกำไรหุ้น High Beta ตลาดหุ้นเอเชียทั่วเอเชียวานนี้ปิด บวก – ลบ สลับกันไป นำโดยตลาดหุ้นจีน ปิดบวกเด่นเป็นวันที่ 2 อีก 1.37% dod ขณะที่ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ และ อินโดนีเซีย ปิดลบเล็กน้อย
ด้านตลาดหุ้นไทย SET INDEX ยังคงมีแรงเก็งกำไร ผลักดันให้ SET INDEX พยายามไต่ระดับขึ้นทดสอบแนว 1,590-1,595 จุด แต่ก็เกิดแรงขายทำกำไรในหุ้นหลัก กระจายตัว ทั้งในกลุ่มธนาคาร กลุ่ม ICT และกลุ่มที่อยู่อาศัย แต่ก็เป็นการปรับฐานลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น อย่างไรก็ตาม หุ้นที่เกี่ยวข้องกับ MSCI ขยับเด่นกว่าค่าเฉลี่ย ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX อยู่ที่ 1,596.80 จุด บวกเป็นวันที่ 3 อีก 6.66 จุด มูลค่าการซื้อขาย 64,282 ล้านบาท
กลุ่มที่ยังปิดบวกสูงสุด ได้แก่ กลุ่ม Person +2.66%, กลุ่มพลังงาน +1.34% และกลุ่มโรงพยาบาล +1.29% ส่วนกลุ่มหลักกลุ่มธนาคาร -0.21%, กลุ่มอสังหาฯ -0.39% และกลุ่ม ICT +1.28%

ภาพตลาดหุ้นไทยวันนี้
ตลาดหุ้นเอเชีย (7.30 น.) เช้านี้ Nikkei – Kospi เปิดลบเล็กน้อย เนื่องจากขาดปัจจัยใหม่เข้าหนุนการลงทุน และเป็นการขายทำกำไรระยะสั้น
บรรยากาศการลงทุนตลาดหุ้นไทยวันนี้ เราคงมุมมองเป็น “บวก” ต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 โดยกระแสเงินทุนทั้งจากสถาบันทั้งในและต่างประเทศ ยังคงเป็นตัวแปรสำคัญที่ส่งสัญญาณในเชิงบวกรอบนี้ เราให้น้ำหนักถึงโอกาสที่ SET INDEX จะขยับขึ้นทะลุ 1,600 จุด ขึ้นทดสอบ 1,620 จุด +/- ในที่สุด ด้วยปัจจัยเชิงบวกที่จะผลักดันจากนี้ได้แก่
•ตัวเลขเศรษฐกิจเดือนต.ค. โดย ธปท. จะรายงานในวันศุกร์ในวันที่ 28 พ.ย. หากสัญญาณการบริโภค และการท่องเที่ยว ฟื้นตัว ย่อมสร้างความเชื่อมั่นจากนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศ
•การประชุม ECB ในวันที่ 4 ธ.ค. ตลาดคาดหวังที่ ECB จะเพิ่มพันธบัตรรัฐบาลประเทศสมาชิก เข้าไปในกลุ่มสินทรัพย์เป้าหมายของการเข้าซื้อ
•การเลือกตั้งทั่วไปในญี่ปุ่น วันที่ 14 ธ.ค. อาจเกิด Nikkei Rally และเป็นบวกต่อบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นเอเชีย
•การประชุม กนง. วันที่ 17 ธ.ค. อาจส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงิน หากเศรษฐกิจฟื้นตัวช้ากว่าที่ กนง. ประเมิน
•การพิจารณาร่างกฎหมายเศรษฐกิจดิจิตอล และ มาตรการลดหย่อนภาษี
อีกทั้งสภาพคล่องทางการเงินทั้งในและต่างประเทศที่ล้น ทำให้ตลาดหุ้นไทย ณ ปัจจุบัน ซื้อขาย Valuation ที่แพง เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยในอดีตที่ผ่านมา สอดคล้องกับตลาดหุ้นอื่นๆ ในกลุ่ม TIPs อย่างฟิลิปปินส์ และ อินโดนีเซีย เนื่องจาก
•อัตราดอกเบี้ยเงินฝากในประเทศ ที่ทรงตัวในระดับต่ำเป็นเวลายาวนาน ทำให้นักลงทุนปรับแผนการออกมสู่สินทรัพย์เสี่ยง อย่างตลาดหุ้นมากขึ้น เพื่อคาดหวังผลตอบแทนที่สูงกว่า
•การทำ Carry Trade ผ่านเงินสกุล Euro และ เงินเยนญี่ปุ่น จากนโยบายการเงินของธนาคารกลางทั้ง 2 ประเทศ เป็นทิศทางผ่อนคลาย
กลยุทธ์การลงทุน เราแนะนำ “นักลงทุนซื้อเก็งกำไรในหุ้น High Beta หรือ หุ้นที่แนวโน้มผลการดำเนินงานใน 4Q57 เติบโตเด่น” เป็นสำคัญ พร้อมคาดหวังผลตอบแทนราว 20-30 จุด ในรอบสั้นนี้

ปัจจัยสำคัญวันนี้:
1.ติดตามตัวเลขการส่งออก – นำเข้าเดือนต.ค.ของไทย
•การส่งออก Bloomberg consensus คาด +0.35% yoy จากเดือนก่อนหน้า +3.19% yoy
•การนำเข้า Bloomberg consensus คาด -3.30% yoy จากเดือนก่อนหน้า +14.42% yoy

วานนี้ วันก่อนหน้า
PER14 PER15 PER14 PER15
SET INDEX 16.88 14.31 16.75 14.22
PSE 20.66 17.87 20.75 17.96
JSE 17.03 14.61 17.07 14.64
KOSPI 13.51 10.94 13.45 10.97
TAIEX 14.22 13.13 14.23 13.14
Straits Time 14.55 13.97 14.53 13.45
SHCOMP 10.50 9.35 10.34 9.20
ที่มา: Bloomberg

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ “เก็งกำไร”
1.BBL : ราคาปิด 202.00 บาท ราคาเหมาะสม 240.00 บาท
a)MBKET คาดหุ้นกลุ่มธนาคารจะ Outperform ตลาดได้ในช่วงที่เหลือของปี จากกระแสเงินทุนต่างชาติที่ไหลเข้าระลอกสุดท้ายก่อนการเข้าสู่ช่วงวันหยุดในครึ่งหลังของเดือน ธ.ค.
b)และมีมุมมองเชิงบวกต่อการเติบโตของสินเชื่อในปี 2558 ในทิศทางเดียวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่คาดว่า GDP จะกลับมาขยายตัวได้ 3.5-4.0%
c)ราคาหุ้น Laggard กลุ่มธนาคารมาก โดย YTD ปรับตัวขึ้น +13.5% น้อยกว่า SET BANK +37.9% และหุ้นในกลุ่ม เช่น KBANK +59.6%, KTB +45.5%, SCB +33.1% และ BAY +53.3%
d)Valuation ที่ยังถูก จำกัด Downside Risk ของราคาหุ้น เนื่องจากซื้อขายระดับ PBV 2558 ต่ำที่สุดในกลุ่มธนาคารเพียง 1.1 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มธนาคารที่ 1.4 เท่า และหุ้นในกลุ่ม เช่น KBANK 2.0 เท่า, SCB 2.0 เท่า, KTB 1.3 เท่า และ BAY 1.9 เท่า
2.AAV : ราคาปิด 4.18 บาท ราคาเหมาะสม 4.90 บาท
a)MBKET เชื่อว่าหุ้นกลุ่มสายการบินมี Downside Risk ที่จำกัด และได้สะท้อนผลประกอบการที่อ่อนแอในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปีในราคาหุ้นแล้ว
b)คาดว่าราคาหุ้นมีโอกาสฟื้นตัวจากผลประกอบการ 4Q57 ที่คาดว่าจะพลิกกลับเป็นบวก และกลับมามีกำไรสุทธิในปี 2558
c)เนื่องจาก 4Q57 เป็น High Season ของธุรกิจท่องเที่ยว จึงส่งผลบวกโดยตรงต่อ Loading Factor ของ AAV ทั้งเส้นทางในประเทศ และเส้นทางต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักท่องเที่ยวจากจีนซึ่งเป็นฐานลูกค้าสำคัญของบริษัท
d)และราคาน้ำมันดิบ NYMEX ที่ปรับตัวลงมากถึง -18.7% QTD ใน 4Q57 เหลือ US$74.09/barrel ย่อมส่งผลบวกโดยตรงต่อต้นทุนเชื้อเพลิงซึ่งเป็นต้นทุนหลักให้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญใน 4Q57 และมีโอกาสที่จะเป็น Positive Surprise ให้กับตลาด

What will DJIA move tonight? คืนนี้มีรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญได้แก่ รายได้ – ค่าใช้จ่ายส่วนบุคคล, ยอดขอสวัสดิการว่างงาน

Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
เงินทุนต่างชาติวานนี้ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 6 อีก US$650 ล้าน จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ US$258 ล้าน

ตลาดหุ้น วานนี้(US$ ล้าน) วันก่อนหน้า(US$ ล้าน) YTD(US$ ล้าน) 2556(US$ ล้าน)
TAIEX 119.1 174.1 13,958.5 9,188.0
KOSPI 480.2 n.a 7,560.4 4,875.1
JSE 32.1 11.8 4,331.2 -1,806.4
PSE -21.4 25.7 949.3 678.4
ตลาดหุ้นเวียดนาม 1.8 1.4 151.3 263.2
SET INDEX 38.4 44.8 -292.7 -6,210.5

Foreign Investors Action วานนี้
สัญญาณบวกผ่าน SET50 Index Futures
วานนี้ วันก่อนหน้า
ตลาดหุ้น (ล้านบาท) +1,260 +1,470
SET50 Index Futures (สัญญา) +10,752 +8,203
SSF (สัญญา) +1,634 -1,735
Metal Futures (สัญญา) +284 +763
ตลาดตราสารหนี้ (ล้านบาท) +578 -2,695

นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 3 อีก 1,260 ล้านบาท คาดว่าเป็นผลจากการปรับดัชนี MSCI เป็นสำคัญ รวม 3 วันทำการ ซื้อสุทธิ 2,775 ล้านบาท และทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ ขายสุทธิเหลือ 11,149 ล้านบาท
และ SET50 Index Futures นักลงทุนกลุ่มนี้คงการ Long สุทธิเป็นวันที่ 2 มากถึง 10,752 สัญญา รวม 2 วันทำการ Long สุทธิ 18,955 สัญญา เทียบกับ 4 วันก่อนหน้าที่ Short สุทธิรวม 10,780 สัญญา คาดว่าเป็นการปิดสถานะ Short และกลับมามีสถานะ Long สุทธิในส่วนที่เหลือ ส่งผลให้ S50Z14 ปิดสูงกว่า SET50 Index เป็นวันที่ 3 มากถึง 5.11 จุด จากวันก่อนหน้า Premium เท่ากับ 3.19 จุด
ด้านตลาด Metal Futures นักลงทุนกลุ่มนี้ยังคง Long สุทธิเป็นวันที่ 12 อีก 284 สัญญา รวม 12 วันทำการ Long สุทธิไปทั้งสิ้น 8,151 สัญญา แม้ว่าราคาทองคำในตลาดโลกจะยังไม่สามารถยืนเหนือ US$1,200 ระหว่างชั่วโมงการซื้อขายก็ตาม
และตลาดตราสารหนี้ไทย นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมาซื้อสุทธิ เพียง 578 ล้านบาท เมื่อราคาพันธบัตรรัฐบาลไทยปรับตัวลงเล็กน้อย อายุ 10 ปี ผลตอบแทนเพิ่มขึ้นอีกครั้ง 0.92bps ปิดที่ 3.008%

Short-Selling วานนี้
มูลค่า Short-selling ขยับขึ้นเป็น 437 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 263 ล้านบาท
Stock Total Value(mn Bt) % of trading Volume Avg.Price(Bt)
ITD 127.64 7.29% 7.78
PTT 76.70 1.27% 390.33
DELTA 56.92 2.04% 76.70
KBANK 33.77 3.92% 247.18
BBL 22.38 1.68% 203.23

NVDR Movement
NVDR ซื้อสุทธิ เป็นวันที่ 20 เป็นการปรับ MSCI

การซื้อขายผ่าน NVDR วานนี้ซื้อสุทธิมากถึง 3,126 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 538 ล้านบาท คาดว่าเป็นการปรับพอร์ตให้สอดคล้องกับ MSCI ซึ่งมีผล ณ ราคาปิดวานนี้ ส่งผลให้ 20 วันทำการ NVDR ซื้อสุทธิ 24,504 ล้านบาท ภาพการลงทุน NVDR สรุปได้ดังต่อไปนี้
1.กลุ่มอาหาร ซื้อสุทธิสูงสุด 1,314 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มพลังงาน ซื้อสุทธิ 1,100 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 436 ล้านบาท กลุ่ม MAI ซื้อสุทธิ 465 ล้านบาท กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ซื้อสุทธิ 255 ล้านบาท และกลุ่มค้าปลีก ซื้อสุทธิ 174 ล้านบาท
2.ส่วนกลุ่มอสังหาฯ ถูกขายสุทธิสูงสุด 415 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มท่องเที่ยว ขายสุทธิ 158 ล้านบาท

ซื้อสุทธิสูงสุด มูลค่าสุทธิ(ล้านบาท) % มูลค่าการซื้อขาย ขายสุทธิสูงสุด มูลค่าสุทธิ(ล้านบาท) % มูลค่าการขาย
TUF 1,379.71 39.44 PS -255.77 38.62
PTT 1,097.71 30.99 CENTEL -160.43 42.22
EA 386.90 40.49 CPF -128.00 22.00
DELTA 250.34 42.04 CK -108.26 10.20
CPALL 139.76 37.12 HEMRAJ -107.06 19.21

Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA
Strategist / Analyst
662-6586300 x 1440
Padon Vannarat
Equity Analyst
662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham
Assistant Analyst
662-6586300 x 1530
Twitter Channel
http://twitter.com/YipNgenYipTong 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!