WORLD7

BANPU2024

smed PIONEER 720x100

บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน

“ทดสอบ 1600 จุดอีกรอบ...ยืนเหนือได้ถือต่อ”
Foreign Stock Market
DJIA : 17,828.24 0.49
NASDAQ : 4,791.63 4.31
S&P500 : 2,067.56 -5.27
FTSE : 6,722.62 -0.80
NIKEI : 17,459.85 211.35
HSKI : 23,987.45 -16.83
FTSTI : 3350.5 9.54
FBKLCI : 1820.89 -9.02
Exchange Rate
(PER US$) 27-Nov 28-Nov
Yen 117.92 118.63
Baht (On-Shore) 32.78 32.83
Euro 1.25 1.25
US Bond Yield 2.95 2.89
MR 3.35 3.40
SD 1.30 1.30
Oil Market
BRENT 72.58 70.15
NYMEX-Crude Light Closed 66.15
Gold & Silver Market
Gold-Comex Closed 1175.50
Silver-Comex Closed 15.56
Baltic Dy Index
Baltic Dry Index 1187.00 1153.00

SET50 Futures Trading Vol (Contacts)
28-Nov Long Short Net
Institution 13,193 18,347 -5,154
Foreign 10,770 10,013 757
Customer 28,714 24,317 4,397

Trading Activities (Btm)
28-Nov Buy Sell Net
Institution 3,944 6,574 -2,630
Prop Trade 4,256 3,533 723
Foreign 8,679 7,552 1,127
Customer 36,704 35,924 779

Nov-14 (MTD)
Institution 80,895 77,825 3,070
Prop Trade 82,904 72,346 10,557
Foreign 198,530 186,759 11,771
Customer 869,458 894,856 -25,398

Jan-Current (YTD)
Institution 891,522 845,639 45,884
Prop Trade 876,721 860,047 16,674
Foreign 2,060,924 2,069,031 -8,107
Customer 6,191,756 6,246,206 -54,450

Top Net Buy (Btm)
1 PHATRA 794
2 UBS 719
3 CIMBS 426

Top Net Sell (Btm)
1 MBKET -750
2 CS -505
3 KGI -458

Top Active
Closed %Chg
1 PTTEP 135.50 -5.24
2 MTLS 11.70 -2.50
3 PTT 383.00 -1.79

Top Picks–Fund
Dec 2014 :
Fundamental : KCE, KTB, MINT,
PS, WHA Dark Horse: CHG,SPALI
Top Picks -
Fund Today:MINT

Top Picks-High
Div Yield :ADVANC, BCP, BTS, BTSGIF,CSL, CPNRF, DCC, DELTA,DTAC, INTUCH, MK, MODERN,SPALI, TISCO, TMT, TFUND
Shot Sell-Prev : BIGC 14%, PSL 11%Technical View ตลาดเป็นบวกเล็กๆ และจะทดสอบแนว 1600 จุดอีกครั้ง
Support Resistance Stop lossSET 1585,1570 1600,1610 หลุด 1585SET50 1060,1050 1080,1090 หลุด 1060Top Picks-Tech
Today :SCB, UNIQ, EVER, MFEC,BWG, BIGC, TUF, BSM
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี

ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : เมื่อวันศุกร์ SET Index ปรับขึ้นไปแตะ 1600.65 จุด แล้วอ่อนตัวลง ปิดตลาด -5.91 จุด ปิดที่ 1593.91 จุด นักลงทุนสถาบันในประเทศขายสุทธิ 2.6 พันล้านบาท ส่วนต่างชาติซื้อสุทธิ 1.1 พันล้านบาท ที่เหลือเป็นการซื้อสุทธิของพอร์ตบล.และรายย่อยกลุ่มละประมาณ 700 กว่าล้านบาท ทั้งนี้ในเดือนพ.ย.57 นักลงทุนต่างชาติเข้ามาซื้อสะสมหุ้นไทยสุทธิ 1.1 หมื่นล้านบาท พอร์ตบล.ซื้อสุทธิ 1.1 หมื่นล้านบาทสถาบันในประเทศซื้อสุทธิ 3.6 พันล้านบาท รายย่อยเป็นกลุ่มที่ขายสุทธิในเดือนพ.ย.ที่ 2.5 หมื่นล้านบาท

สัปดาห์นี้ ปัจจัยที่ติดตาม คือ ตัวเลข PMI ภาคการผลิตและภาคบริการของสหรัฐ & ประเทศชั้นนำต่างๆ, สรุปาภาวะเศรษฐกิจของเฟด (Beige Book),ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐ, การประชุม ECB ในวันที่ 4 ธ.ค. แต่คาดว่าจะยังไม่ออกมาตรการใหม่รอบนี้ โดยจะออก QE (การเข้าซื้อตราสารหนี้รัฐบาลในช่วง 1Q58) รวมถึง มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของทางการไทย (ก.คลังจะนำเสนอเข้าพิจารณาในครม. 9 ธ.ค.นี้) และการออกเคมเปญกระตุ้นยอดขาย & รายได้โค้งสุดท้ายของกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ โดยเฉพาะท่องเที่ยว ค้าปลีก และสื่อ อย่างไรก็ตาม เราปรับลดคาดการณ์EPS Growth ของตลาดปี 57-58 ลงเป็น 6.9% และ 12.1% (เดิม 9% และ 14%) สะท้อนกำไร 9M57 ที่แย่กว่าคาดและการอ่อนตัวลงต่อของน้ำมันดิบที่จะกดดันกำไรกลุ่มพลังงานต่อใน 4Q57 และปรับ SET Index Target เป็น 1707 จุด (เดิม 1779 จุด) กลยุทธ์หลักเป็น Selective Buy โดยหุ้นพื้นฐานของเดือนธ.ค.57 เราเลือกเป็น KCE, KTB, MINT, PS, WHA ส่วน Dark Horse ได้แก่ CHG, SPALI ส่วนหุ้นพื้นฐานแนะนำวันนี้เป็น MINT

การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ภาพตลาดในระยะสั้นมากเป็นบวกเล็กๆ โดยสัปดาห์นี้จะทดสอบแนว 1600 จุดอีกรอบ ซึ่งหากยืนเหนือได้ก็มีโอกาสไปยัง1610, 1620 จุด การอ่อนตัวต่ำกว่า 1585 จุดดูไม่ค่อยดี เพราะมีสิทธิลงไปที่ 1570, 1560-1550 จุดอีกรอบ หุ้นที่มีสัญญาณบวกทางเทคนิคและมีโอกาสทำ New high ที่ยังอยู่ใน List คือ RATCH, BECL, GENCO, TICON หุ้นที่เข้ามาใหม่ เป็น BWG, MFEC, BIGC หุ้นที่หลุด List –ไม่มี- ส่วนหุ้นที่อยู่ในพื้นที่หาจังหวะ Take profit คือ UWC, NBC, SPALI

Market Drivers
ปัจจัยต่างประเทศ
• สหรัฐ : ตัวเลขเศรษฐกิจที่จับตาในสัปดาห์นี้ ประกอบด้วย ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนพ.ย., ตัวเลขจ้างงานเดือนพ.ย.จาก ADP, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนพ.ย.,รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ และตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนพ.ย.

- กรีซ : สหภาพแรงงานประท้วงหยุดงานครั้งใหญ่ นาน 24 ชั่วโมงทั้งประเทศ มีการยกเลิกเที่ยวบินทั้งหมด ภาครัฐปิดทำการทั้งหมด โดยเป็นการต่อต้านมาตรการตัดลดค่าใช้จ่ายของรัฐบาล (การปลดพนักงาน,การปฎิรูประบบบำนาญ ตามเงื่อนไขของ EU & IMF)

• ยูโรโซน : คาดว่า ECB จะซื้อตราสารหนี้ภาครัฐ (QE) ในไม่ช้านี้หลังอัตราเงินเฟ้อพ.ย.57 อ่อนลงเป็น 0.3% จึงมีโอกาสที่ ECB จะผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติม ด้วยการเข้าซื้อตราสารหนี้รัฐบาล หรือ QE(ปัจจุบันเป็นการปล่อยสินเชื่อให้ธนาคารเข้าซื้อตราสารหนี้เอกชน) โดยอาจจะเป็นช่วงต้นปี 58 ส่วนการประชุม 4 ธ.ค.นี้คาดว่าจะปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจ แต่คงนโยบายตามเดิมไว้ก่อน

• ตลาดหุ้นสหรัฐ : ทรงตัว โดย DJIA ปิดที่ 17,828.24 จุด +0.49 จุดดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,791.63 จุด +4.31 จุด หรือ +0.09% ดัชนีS&P500 ปิดที่ 2,067.56 จุด -5.27 จุด หุ้นค้าปลีก & สายการบินปรับขึ้นแต่ถูกถ่วงลงด้วยหุ้นกลุ่มพลังงาน

- สัญญาน้ำมันดิบร่วงต่อหลังกลุ่มโอเปกคงกำลังการผลิตไว้ที่ 30ล้านบาร์เรล/วัน โดยซาอุฯ ผลักดันให้กลุ่มปรับเพิ่มการผลิตเพื่อขยายส่วนแบ่งการตลาดและไม่เปิดโอกาสให้สหรัฐผลิตน้ำมันจากหินดินดานเพิ่มขึ้น ปิดตลาดวันศุกร์ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค.ปีหน้า -7.54 ดอลลาร์ ปิดที่ 66.15 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วน BRENT ส่งมอบม.ค. -2.43 ดอลลาร์ ปิดที่ 70.15 ดอลลาร์/บาร์เรล

- สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบก.พ.ร่วงลง 22 ดอลลาร์ หรือ-1.84% ปิดที่ 1,175.5 ดอลลาร์/ออนซ์ นักลงทุนจับตาดูการลงประชามติของชาวสวิตเซอร์แลนด์ในวันที่ 30 พ.ย.57 เพื่อลงความเห็นว่าควรจะให้ธนาคารกลางสวิสปรับเพิ่มปริมาณทองคำในทุนสำรองหรือไม่

ปัจจัยในประเทศ & ข่าวหลักทรัพย์เด่น
+ DBS ปรับลดคาดการณ์ EPS Growth & เป้าหมาย SET Index ปีหน้า ปรับลดประมาณการ EPS Growth ของตลาดหุ้นไทยปี 57-58 เป็น6.9% และ 12.1% เท่ากับ 94.2 และ 107.5 ตามลำดับ ยังผลให้ TargetSET Index ปี 58 จะลดลงเป็น 1707 จุด (เดิม 1779 จุด) โดยอิงกับP/E ปี 58 ที่ 15.9 เท่า (Band-High) ซึ่งดัชนีเป้าหมายใหม่มี Upside จากปัจจุบัน 7% นับว่าไม่มาก ดังนั้นในการลงทุนจึงต้องเน้นการเลือกซื้อเป็นรายบริษัท

• เศรษฐกิจไทยเดือนต.ค.57 กระเตื้องขึ้น โดยมูลค่าส่งออกขยายตัวได้4.1%YoY เนื่องจากคำสั่งซื้อจากสหรัฐ & ประเทศในกลุ่มอาเซียนดีขึ้น ซึ่งส่วนนี้ดีกว่าที่เราประเมินไว้ว่าจะลดลงเพราะฐานที่สูงของปีก่อน ส่วนภาคท่องเที่ยวดีขึ้น เห็นได้จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่ม 6.1%YoY โดยนักท่องเที่ยวจีน & มาเลเซียกลับเข้ามาไทยเพิ่มขึ้น การบริโภคภาคเอกชนกระเตื้องขึ้นจากผู้บริโภคระดับกลาง-บน แต่ระดับรากหญ้ายังซบเซา การลงทุนภาคเอกชนเติบโตจากเดือนก่อนหน้า แต่ยังไม่แข็งแกร่งนัก กลุ่มที่มีการลงทุนต่อเนื่อง คือ สื่อสารโทรคมนาคม, การขยายสาขาของธุรกิจค้าปลีก, การก่อสร้างคอนโดตามแนว BTS & MRT เป็นต้น ส่วนการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐดีขึ้นตามการเร่งรัดของรัฐบาล เสถียรภาพของประเทศอยู่ในเกณฑ์ดี อัตราการว่างงานต่ำที่ 0.8% อัตราเงินเฟ้อไม่สูง และสำรองเงินตราต่างประเทศอยู่ในระดับมั่นคงที่ 2.7 เท่าของหนี้ระยะสั้น ปัจจัยเสี่ยงคือ เศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าที่ฟื้นตัวช้า ซึ่งจะกระทบภาคส่งออก & การลงทุนภาคเอกชนของไทย

• BCP : ผู้บริหาร & พนักงานรวมตัวกันในนาม BCP Corporate ยื่นข้อเสนอ PTT ขอซื้อหุ้น BCP ที่ PTT ถืออยู่ 374.75 ล้านหุ้น หรือ27.22% ในเบื้องต้นคาดว่าจะใช้เงิน 1.2 หมื่นล้านบาท (คิดเป็นราคาซื้อหุ้นละประมาณ 32 บาท)

+ CPALL : ธุรกิจผ่านจุดที่แย่ไปแล้ว และกำลังฟื้นตัวใน 4Q57 ซึ่งเป็นช่วง High season ของการท่องเที่ยวและจับจ่ายใช้สอย ผู้บริหารประเมินว่าผลประกอบการ 4Q57 จะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปีนี้ โดยการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) จะพลิกกลับเป็นบวกได้ และในปี 58 มีอัตราการเติบโตที่ดีทั้งจาก SSSG ที่สูงขึ้นและการขยายสาขาใหม่ของ CPALLและ MAKRO เพิ่มขึ้น บริษัทมีจุดเด่นเรื่องกระแสเงินสดจากการดำเนินงานแกร่งมาก (รับเป็นเงินสด) และมีการปรับ Product Mixed เพื่อรักษาระดับกำไรที่สูงได้เป็นอย่างดี แนะนำซื้อลงทุน ราคาพื้นฐาน 48 บาท

+ SENA ตั้งเป้าปี 58 เติบโต 20%...หุ้นยังมี P/BV ต่ำกว่า 1 เท่า &จ่ายปันผลสูง บริษัทกำลังทำแผนธุรกิจปี 58 โดยเบื้องต้นตั้งเป้าหมายยอดขายเติบโต 20% จากปีนี้ที่ทำได้ตามเป้าหมายที่ 2.5 พันล้านบาทผู้บริหารเชื่อมั่นว่าธุรกิจอสังหาฯยังไปได้ดีในปี 58 ด้วยอัตราดอกเบี้ยในระบบที่ต่ำ และเศรษฐกิจมีเสถียรภาพมากขึ้น สำหรับผลดำเนินงาน 9M57บริษัทมีกำไรสุทธิ 253 ล้านบาท (EPS : 0.35 บาท) เติบโตก้าวกระโดดจาก60 ล้านบาท (EPS : 0.08 บาท) ณ ราคาปัจจุบันซื้อขายที่ Current P/BV ต่ำเพียง 0.9 เท่า ขณะที่แนวโน้มกำไรสุทธิใน 4Q57 และในปี 58 ยังแข็งแกร่งและเติบโตได้ดีในระยะยาว ด้าน Dividend Yield อยู่ที่ 6-8% ต่อปี เชิงกลยุทธ์ มองว่า SENA เป็นหุ้นที่พักอาศัยเล็กตัวหนึ่งที่น่าสนใจลงทุน

• การเมือง : ประเด็นกฎหมายนิรโทษกรรมทางการเมืองกำลังเป็นที่จับตา ว่าจะครอบคลุมแค่ไหน และนำไปสู่การปรองดองได้หรือไม่ โดยนักวิชาการและสปช.บางคนเห็นว่าควรนิรโทษฯเฉพาะคดีเล็กน้อย แต่ไม่ควรครอบคลุมคดีอาญาร้ายแรง, ทุจริตคอร์รัปชั่น, คดีหมิ่นสถาบันฯ, คดีเผาและทำลายทรัพย์สิน ฯลฯ

นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค : Tel 7829 arparporns@th.dbsvickers.com 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!