WORLD7

BANPU2024

smed PIONEER 720x100

บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

SET ทรงตัวได้แต่ก็ยังผันผวน ดังนั้นยังรอซื้อช่วงลบต่อได้!!

  กลยุทธ์ : แม้ว่า SET จะยังทรงตัวได้ดี แต่คาดว่ายังมีโอกาสแกว่งตัวผันผวนและปรับตัวลงอีกได้ ดังนั้นถ้าเทรดดิ้งตามรอบยังแนะแบ่งส่วนขายบวก-รอซื้อลบ เพื่อลดความเสี่ยงจากการผันผวนของตลาด ส่วนระยะกลาง-ยาว FSS ยังมองเชิงบวก จึงยังแนะนำให้เลือกหุ้นเข้าซื้อเพิ่มเติมช่วงลงได้ แต่อาจเผื่อเงินสดไว้รอรับช่วงตลาดลงต่ำไว้ด้วย
  หุ้นเด่นทางเทคนิค : SAWAD, ICHI , LOXLEY(short)
  แนวโน้ม : แม้ว่า SET จะยังแกว่งตัวผันผวนและมีจังหวะปรับตัวลงบ้าง จากแรงขายในหุ้นกลุ่มพลังงานตามราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงแรง แต่ก็ถือว่าตลาดยังสามารถทรงตัวได้ดี เพราะมีแรงรับกลับเข้ามาหนุนในหุ้นกลุ่มอื่นๆ แทน ซึ่งเช้านี้แม้ว่าตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปส่วนใหญ่จะปรับตัวลงพอควร เนื่องจากยอดการใช้จ่ายในช่วงเทศกาลขอบคุณพระเจ้าซบเซาลงและสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) รายงานว่าดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐเดือน พ.ย. ชะลอตัว นอกจากนี้ยังได้รับแรงกดดันจากดัชนี PMI ภาคการผลิตของยูโรโซนที่ชะลอตัวลงในเดือน พ.ย.อีก อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นในเอเชียเปิดทำการเช้านี้ยังมีทั้งที่เป็นบวกและลบสลับ ทำให้บรรยากาศการลงทุนจากต่างประเทศน่าจะไม่ได้กดดันตลาดหุ้นไทยมากนัก ขณะที่ถ้าดัชนีปรับลง FSS ก็คาดว่าจะมีเม็ดเงินใหม่จาก LTF,RMF ช่วงท้ายปีที่จะเข้ามาช่วยหนุนตลาดไว้ได้ ดังนั้นเราจึงยังแนะนำให้เลือกหุ้นทยอยเข้าซื้อได้ในช่วงตลาดเป็นลบ แต่เนื่องจาก SET ยังมีโอกาสผันผวนและปรับตัวลงอีกได้ การเลือกหุ้นเข้าซื้อช่วงนี้จึงยังเน้นเป็นลักษณะรอซื้อช่วงลบและทยอยค่อยๆ เข้าดีกว่า
  แนวรับ 1590-1588 , 1586-1580 จุด แนวต้าน 1598-1602 , 1605-1610 จุด
  Fund Flow วานนี้กลับมาไหลออกจากตลาดหุ้นภูมิภาคในปริมาณที่เบาบางมาก โดยนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไต้หวัน US$181.3 ล้าน เวียดนาม US$5 ล้าน และไทย US$1 ล้าน แต่ซื้อเกาหลีใต้ US$74.2 ล้าน อินโดนีเชีย US$5.6 ล้าน และฟิลิปปินส์ US$3.0 ล้าน ค่าเงินภูมิภาคเช้านี้แข็งค่าเล็กน้อย Flow น่าจะเบาบางต่อเพื่อรอ ECB ประชุมวันที่ 4 พ.ย นี้

ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
  (+) กลุ่มรับเหมา เป็นอีกกลุ่มที่ได้อานิสงส์จากราคาน้ำมันที่ถูกลง เพราะหมายถึงต้นทุนวัสดุก่อสร้าง (50% ของต้นทุนรวม) และค่าขนส่ง (5%) ที่ลดลง นอกจากนี้ Platts ซึ่งเป็นผู้นำในการให้บริการด้านข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับพลังงานและโลหะสำคัญ คาดการณ์ว่าแร่เหล็กทั่วโลกมีแนวโน้มที่จะยังมี Oversupply ใน 2 ปีข้างหน้าจาก demand ของจีนที่ลดลง ยิ่งตอกย้ำต้นทุนเหล็กที่มีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง เราชอบหุ้นในกลุ่มนี้แต่ราคาปรับขึ้นมาแล้วหลายตัว แนะนำเก็งกำไร STEC (ราคาเป้าหมายปี 2015 ที่ 28 บาท) ซึ่งได้เซ็นสัญญาสร้างโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก 12 แห่งรวมมูลค่า 1.25 หมื่นล้านบาททำให้ Backlog สูงขึ้นเป็น 5.3 หมื่นล้านบาท ช่วยคลายกังวลเรื่องการรับงานใหม่ที่ค่อนข้างน้อยในปีนี้ไปได้ และแนะนำซื้อ SEAFCO (ราคาเป้าหมายปี 2015 ที่ 10 บาท) แม้กำไรปีหน้า (คาด +16% Y-Y) ไม่โดดเด่นเท่าปีนี้ (คาด +41% Y-Y) แต่ PE ต่ำเพียง 10.7 เท่า
  (+) SINGER เราปรับกำไรสุทธิปีนี้ลง 20% เหลือ 278 ล้านบาท ลดลง 13% Y-Y จากกำลังซื้อของลูกค้าในกลุ่มรากหญ้าและเกษตรกรที่ฟื้นตัวช้า และใน 3Q14 บริษัทยังตั้งสำรองสินค้าที่เคลื่อนไหวช้าและมีการยึดคืนสินค้าที่ค้างกำหนดชำระต่อเนื่องจากไตรมาสก่อน แต่เชื่อว่าผลประกอบการผ่านจุดต่ำที่สุดไปแล้วใน 3Q14 และค่อยๆฟื้นใน 4Q14 แต่ยังไม่กลับสู่ระดับปกติจนกว่าจะปีหน้า (คาดกำไรใน 4Q14 +30% Q-Q, +39% Y-Y) เราปรับกำไรปี 2015 ลงเล็กน้อย 12% เป็นเติบโต 29% Y-Y ยังไม่รวมโอกาสในการซื้อกิจการในอนาคต ปรับราคาเป้าหมายปี 2015 เป็น 19 บาทจาก 26 บาท ราคาหุ้นที่ปรับลงกว่า 30% ตั้งแต่กลางปีตามกำไรที่ลดลงใน 2Q-3Q14 ทำให้มี PE ปีหน้าเพียง 10.4 เท่า จึงยังแนะนำซื้อ
  (+) THCOM ผู้บริหารปรับเป้ารายได้ปีนี้เป็นเติบโต 30% จากเดิม 18% ใกล้เคียงกับคาดการณ์ของเราที่ 26% เพราะปีนี้รับรู้รายได้เต็มปีจากไทยคม 6 (ยิงขึ้นสู่วงโคจร 6 ม.ค. 2014) และยอดขายของ iPSTAR เพิ่มขึ้นจากจีนได้เต็ม 24% ของช่องสัญญาณดาวเทียม และคาดว่ารายได้ในปี 2015 จะโตต่อเนื่องแต่ไม่มากเท่าปีนี้ โดยในปีหน้าจะรับรู้รายได้ของไทยคม 7 ที่ยิงขึ้นสู่วงโคจร 7 ก.ย. และปัจจุบันยอดขายของไทยคม 7 ทำได้ 100% แล้ว ใน 2Q15 บริษัทจะยิงไทยคม 8 ซึ่งเป็นดาวเทียมรองรับธุรกิจบรอดคาสท์ และจะชะลอการลงทุน iPSTAR 2 ไปก่อน เรายังคงคาดกำไรปกติปีนี้โต 46% และปี 2015 โต 29% ยังไม่รวมไทยคม 8 และ iPSTAR 2 ยังคงแนะนำซื้อ คงราคาเป้าหมายปี 2015 ที่ 57 บาท

  ตลาดหุ้นสหรัฐฯ กลับมาปรับตัวลงหลังแกว่งทรงตัวมาพักใหญ่ แต่ปิดเป็นลบไม่มากเพียง 0.29% หรือลดลง 51.44 จุด หลังตัวเลขยอดการใช้จ่ายช่วงเทศกาลขอบคุณพระเจ้าเมื่อสัปดาห์ที่แล้วออกมาค่อนข้างซบเซา และ ISM รายงานดัชนีภาคการผลิตสหรับเดือน พ.ย.ชะลอตัว
  ส่วนตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ก็ปิดลบเช่นกัน เนื่องจากนักลงทุนยังเทขายหุ้นกลุ่มพลังงาน และดัชนี PMI ภาคการผลิตของยูโรโซนชะลอตัว
  แต่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ยังมีทั้งที่เปิดเป็นบวกและเป็นลบ สลับกันอยู่ในกรอบจำกัด ทำให้น่าจะกดดันตลาดหุ้นไทยไม่มากนัก
  ค่าเงินบาทเริ่มแข็งค่ากลับมาได้เล็กน้อย โดยล่าสุดแกว่งทรงตัวในกรอบ 32.73-32.82 บาท/ดอลลาร์
  น้ำมันดิบในตลาด NYMEX กลับมาปิดพุ่งขึ้น 2.85 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 69.0 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไร หลังที่ผ่านมาราคาน้ำมันร่วงลงมามากแล้ว
  ทองคำในตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ก.พ. กลับพุ่งขึ้น 42.6 ดอลลาร์ มาปิดที่ 1218.1 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังมูดี้ส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของญี่ปุ่น
ปัจจัยที่ต้องติดตาม

2 ธ.ค. - อินเดีย: ธนาคารกลางประชุม
3 ธ.ค. - จีน:Non-manufacturing PMI (พ.ย.)
- ออสเตรเลีย: 3Q14 GDP
- สหรัฐ: การจ้างงานภาคเอกชน (พ.ย.)
- ยูโรโซน: 3Q14 GDP
4 ธ.ค. - ไทย:ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (พ.ย.)
- เกาหลีใต้: 3Q14 GDP
- ยูโรโซน: ECBประชุม
5 ธ.ค. - ไทย: วันหยุดราชการและตลท. วันพ่อแห่งชาติ
- สหรัฐ: การจ้างงานนอกภาคเกษตร,อัตราว่างงาน (พ.ย.)
8 ธ.ค. - จีน: ดุลการค้า (พ.ย.)
- ญี่ปุ่น: 3Q14 GDP
10 ธ.ค. - ไทย:วันหยุดราชการและตลท. วันรัฐธรรมนูญ
- จีน:ยอดสินเชื่อเดือน พ.ย.
11 ธ.ค. - ฟิลิปปินส์: ธนาคารกลางประชุม
- เกาหลีใต้: ธนาคารกลางประชุม
Contact person : Somchai Anektaweepon
Research Dept.   Tel: 02-646-9967, 02-646-9852

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!