WORLD7

BANPU2024

smed PIONEER 720x100

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

กลยุทธ์วันนี้ ECB Meeting
ตลาดหุ้นวานนี้:
      ตลาดหุ้นไทยวานนี้เป็นอีกวันที่แกว่งในกรอบแคบ 1,590 จุด +/- ก่อนปิดที่ 1,594.58 จุด บวกเล็กน้อย 0.58 จุด มูลค่าการซื้อขาย 46,509 ล้านบาท โดย PTT เป็นตัวช่วยลด Downside risk ของตลาดหุ้นไทยโดยรวม ขณะที่ตลาดหุ้นในเอเชียวานนี้ปิดบวก - ลบ เช่นกัน
เงินทุนต่างชาติซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 2 อีก 1,364 ล้านบาท แต่คงการ Short สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 3 อีก 6,237 สัญญา โดยนำเงินมาพักที่ตลาดตราสารหนี้ 7,626 ล้านบาท สะท้อนเงินทุนต่างชาติที่ยังเป็นกลาง

ปัจจัยสำคัญวันนี้
      ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐฯ คืนวานนี้ เพื่มขึ้น 2.08 แสนตำแหน่งเทียบกับ Bloomberg consensus คาด 2.22 แสนตำแหน่ง
       ติดตามการประชุมคณะกรรมการ กกพ. เพื่อพิจารณาร่างหลักเกณฑ์การรับซื้อโซลาร์ฟาร์มในส่วนของหน่วยงานและสหกรณ์การเกษตร 800 เมกะวัตต์ในวันนี้ เพื่อสรุปและประกาศรับซื้อให้ได้ภายในสิ้นเดือนธ.ค.
       ติดตามการประชุม ECB ในเย็นวันนี้ ตลาดคาดการณ์ว่า ECB จะส่งสัญญาณพร้อมเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลในต้นปีหน้า เพื่อเรียกความเชื่อมั่น และลดต้นทุนทางการเงิน เพื่อกระตุ้นการลงทุนของภาคเอกชน
หากประกาศแผนซื้อพันธบัตรใน 1Q58 เชื่อว่าตลาดหุ้นทั่วโลกจะตอบรับเชิงบวก
แต่หากประวิงเวลาการเพิ่มมาตรการ คาดว่าจะเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อเศรษฐกิจอียู และกดดันบรรยากาศการลงทุนตลาดหุ้นทั่วโลก รวมถึงน้ำมัน

ปัจจัยสำคัญในสัปดาห์หน้า เราให้น้ำหนักกับประเด็นในประเทศ
    การประชุม ครม. วันที่ 9 ธ.ค. คาดว่าจะมีการพิจารณาแผนกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น และ/หรือ ร่างกฎหมายเศรษฐกิจดิจิตอล
    วันหยุดคาบเกี่ยวของตลาดหุ้นไทย คาดมูลค่าการซื้อขายเบาบาง
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญได้แก่ ภาวะการจ้างงานสหรัฐฯ, การส่งออกของจีน, GDP ใน 3Q57 ของญี่ปุ่น และ ผลผลิตภาคอุตฯ ของอียู

มุมมองต่อตลาด
      เราคงมุมมองต่อการลงทุนเป็น 'กลางถึงบวก'เป็นวันที่ 9 และ SET INDEX มีโอกาสเกิดแรงเก็งกำไรในช่วงท้ายของการซื้อขายต่อประเด็นการประชุม ECB ในเย็นวันนี้ (ตามเวลาประเทศไทย) ขณะที่ตลาดหุ้นไทยจะปิดทำการในวันพรุ่งนี้ ทั้งนี้จับตาหุ้นขนาดใหญ่ใน SET50 และ SET100 ซึ่งเราให้น้ำหนักกับกลุ่มธนาคาร / วัสดุก่อสร้าง / ท่องเที่ยว และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง กลุ่มที่อยู่อาศัยที่พักฐานมาระยะหนึ่งแล้ว อาจเห็นการสะสมที่หนาแน่นขึ้น หากเป็นไปตามคาด SET INDEX มีโอกาสปิดทดสอบแนว 1,600 จุด
ปัจจัยสำคัญในสัปดาห์หน้า เราให้น้ำหนักกับการประชุม ครม.ในวันที่ 9 ธ.ค. คาดว่าจะมีการพิจารณาแผนกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น อาจรวมถึงร่างกฎหมายเศรษฐกิจดิจิตอล ซึ่งจะเป็นบวกต่อกลุ่ม ICT ที่ได้ประโยชน์ทางตรงกับประเด็นนี้

กลยุทธ์การลงทุน
เราแนะนำให้ "เก็งกำไรต่อหุ้นขนาดกลาง - ใหญ่ ที่ผลการดำเนินงานใน 4Q57 เติบโตเด่น และมีแนวโน้มเป็นบวกต่อเนื่องในปีหน้า" เป็นทางเลือกของการเก็งกำไร

Portfolio
Top Pick in 4Q14: BEAUTY / IFEC/ LPN/ PTT/ VGI
HOLD: SAMART/ SPCG/ IFEC/ BTS/ SIM/ CK/ LPN/ VGI/ PTT/ KTB
Speculative Buy: VGI, KTB

Stock Pick of the Day
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ "ซื้อเก็งกำไร" ได้แก่
1. VGI : ราคาปิด 13.00 บาท ราคาเหมาะสม 20.80 บาท
a) MACO แต่งตั้งให้ VGI เป็นตัวแทนขายสื่อโฆษณาที่ติดตั้งตามท้องถนน ได้แก่ สื่อโฆษณาบริเวณเสาตอม่อใต้สถานีรถไฟฟ้า, สื่อโฆษณาบริเวณเสาตอม่อสะพานข้ามแยกสำคัญในกรุงเทพ, สื่อโฆษณาบริเวณด่านเก็บเงินทางด่วน และสื่อโฆษณาในพื้นที่สถานีขนส่งหมอชิตใหม่ เป็นระยะเวลา 3 ปี
b) MBKET มีมุมมองเชิงบวกเนื่องจากเป็นครั้งแรกของการผสานกลยุทธ์ร่วมกันระหว่าง VGI - MACO ที่เป็นรูปธรรม หลัง VGI เข้าถือหุ้นสัดส่วน 24.89% ใน MACO ตั้งแต่ เดือน พ.ค. 2557 ที่ผ่านมา
c) และเชื่อว่ากลยุทธ์ดังกล่าวจะเป็นบวกต่อทั้ง VGI และ MACO เนื่องจาก VGI มีความชำนาญในการบริหารสื่อขนาดเล็ก ดังนั้น การขายในรูปแบบ Package ร่วมกับสื่อที่ VGI มีอยู่ เช่น สื่อรถไฟฟ้า และสื่อในห้าง จะส่งผลให้สามารถปรับเพิ่มราคาขึ้นได้ และเป็นบวกต่ออัตรากำไรของทั้ง 2 บริษัท
d) พร้อมทั้งตอกย้ำความเป็นผู้นำธุรกิจสื่อโฆษณานอกบ้านที่คาดว่าจะมีการฟื้นตัวได้เร็วกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมโฆษณา
e) คาดผลประกอบการ 3Q57/58 ขยายตัว qoq ต่อเนื่อง ในทิศทางเดียวกับผลประกอบการ 2Q57 ที่ส่งสัญญาณฟื้นตัวแล้ว หลังกลับมาขยายตัว qoq ที่ 264 ล้านบาท +2.8% qoq
f) จุดเด่นอยู่ที่การเติบโตของกำไรในอัตราสูง โดยคาดว่ากำไรสุทธิ 3 ปีข้างหน้าจะเติบโตเฉลี่ยสูงถึงปีละ 29% และผลักดันให้ ROE เพิ่มขึ้นจาก 64% ในปี 57/58 เป็น 73% ในปี 59/60 มี ROE สูงที่สุดในหุ้นกลุ่ม Media

2. KTB : ราคาปิด 24.10 บาท ราคาเหมาะสม 27.00 บาท
a) MBKET คาดหุ้นกลุ่มธนาคารจะ Outperform ตลาดได้ในเดือน ธ.ค. จากกระแสเงินทุนต่างชาติที่ไหลเข้าระลอกสุดท้ายก่อนการเข้าสู่ช่วงวันหยุดในครึ่งหลังของเดือน ธ.ค. และแรงหนุนจากเม็ดเงิน LTF
b) KTB เป็นธนาคารรัฐ เราเชื่อว่าจะได้ประโยชน์สูงสุดจากการเร่งใช้จ่าย/ การลงทุนจากภาครัฐในช่วง 2-5 ปีจากนี้ไป เพื่อเป็นเครื่องมือในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ก่อให้เกิดการจ้างงาน และการลงทุนภายเอกชน
c) ทิศทางสินเชื่อ 4Q57 เติบโตสูง และคาดว่าจะทำใกล้เคียงกับเป้าหมายทั้งปีของผู้บริหารที่ 6-8% (9M57 เติบโต +6.3% YTD) จากแรงหนุนของการปล่อยสินเชื่อให้กับโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐฯ เนื่องจากการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณเป็นเป้าหมายสำคัญของรัฐบาลเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
d) คาดกำไรสุทธิปี 2558 เติบโต +12.9% yoy เป็น 38,054 ล้านบาท และมี Valuation ที่ยังไม่สูงมากนัก โดยซื้อขายระดับ PBV 2558 ที่ 1.35x ต่ำกว่าธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ เช่น KBANK 1.94x, SCB 2.06x และ BAY 1.94x เป็นรองเพียงแค่ BBL ที่ซื้อขาย 1.11x เท่านั้น
e) ผลตอบแทนจากเงินปันผลงวดปี 2557 คาดไว้ที่ 1.00 บาท คิดเป็นผลตอบแทนจากเงินปันผล 4.1% และโดดเด่นกว่าธนาคารใหญ่ เนื่องจาก KTB จ่ายเงินปันผลปีละ 1 ครั้ง

Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
เงินทุนต่างชาติวานนี้ซื้อสุทธิ US$45.7 ล้าน เป็นครั้งแรกในรอบ 3 วัน จากวันก่อนหน้าที่ขายสุทธิ US$245 ล้าน

Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติทยอยปิดสถานะ Long ใน SET50 Index Futures ต่อเนื่อง
นักลงทุนต่างชาติ ซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 2 เร่งขึ้นเป็น 1,364 ล้านบาท รวม 2 วันทำการ ซื้อสุทธิ 1,919 ล้านบาท กดดันให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ขายสุทธิลดลงเหลือ 7,811 ล้านบาท
ด้าน SET50 Index Futures นักลงทุนกลุ่มนี้คงการ Short สุทธิเป็นวันที่ 3 มากถึง 6,237 สัญญา รวม 3 วันทำการ Short สุทธิ 20,366 สัญญา เทียบกับ 5 วันทำการก่อนหน้า Long สุทธิ 24,505 สัญญา คาดว่าจะเป็นการปิดสถานะ Long เพื่อทำกำไร เมื่อ S50Z14 ปิดสูงกว่า SET50 Index เป็นวันที่ 9 เท่ากับ3.67 จุด เร่งขึ้นจากวันก่อนหน้า Premium เท่ากับ 3.16 จุด
ด้านตลาด Metal Futures นักลงทุนกลุ่มนี้คงการ Long สุทธิเป็นวันที่ 2 อีก 148 สัญญา รวม 2 วันทำการ Longสุทธิ 1,273 สัญญา เทียบกับ 4 วันทำการ Short สุทธิ 1,022 สัญญา เทียบกับ 12 วันทำการ Long สุทธิไปทั้งสิ้น 8,151 สัญญา คาดว่าเป็นการเปิดสถานะ Long ต่อเนื่อง เมื่อราคาทองคำแกว่งในกรอบแคบ US$1,200/ounce +/- ขณะที่นักลงทุนกลุ่มนี้ซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้ไทยอีกครั้ง 7,626 ล้านบาท เมื่อราคาพันธบัตรไทยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง พันธบัตรอายุ 10 ปี ผลตอบแทนลดลงเป็นวันที่ 6 อีก 2.68 bps ปิดที่ 2.914%

Short-Selling วานนี้
มูลค่า Short-selling เท่ากับ 481 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าที่ 497 ล้านบาท

NVDR Movement
NVDR ซื้อสุทธิ เป็นวันที่ 26 เน้นกลุ่ม พลังงาน และ ICT
การซื้อขายผ่าน NVDR วานนี้ซื้อสุทธิอีก 2,269.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้าที่ 1,295 ล้านบาท จากวัน รวม 26 วันทำการ NVDR ซื้อสุทธิ 33,645 ล้านบาท ภาพการลงทุน NVDR สรุปได้ดังต่อไปนี้
1. กลุ่มพลังงานซื้อสุทธิสูงสุด 636 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่ม ICT 434 ล้านบาท และกลุ่มธนาคาร 326 ล้าน ล้านบาท
2. กลุ่มโรงพยาบาลขายสุทธิสูงสุด 11 ล้านบาท และกลุ่ม Home 3 ล้านบาท

ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ - การเงินรายภูมิภาค

สหรัฐอเมริกา
รองประธานเฟดส่งสัญญาณใกล้ถึงเวลาขึ้นอัตราดอกเบี้ย: นาย Fischer ส่งสัญญาณใกล้เวลาที่จะยกเลิก "การคงอัตราดอกเบี้ยต่ำต่อไปอีกระยะหนึ่ง" ซึ่งในการประชุมเฟดครั้งล่าสุดก็ได้ส่งสัญญาณดังกล่าวแล้วเช่นกัน ทั้งนี้การประชุมเฟดในปลายเดือนธ.ค. อาจเป็นไปได้ที่จะตัดประโยคดังกล่าว และไม่มีการให้แนวทางใดๆ ในอัตราดอกเบี้ย
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯออกมาเป็นกลาง:
ยอดการจ้างงานภาคเอกชนเดือน พ.ย.เพิ่มขึ้น 208,000 ตำแหน่ง จากเดือน ต.ค. เพิ่มขึ้น 233,000 ตำแหน่งและต่ำกว่าที่ Bloomberg Consensus คาด 222,000 ตำแหน่ง ทั้งนี้ยอดการจ้างงานเพิ่มขึ้นส่วนหนึ่งเป็นผลจากราคาน้ำมันที่ลดลง กระตุ้นการจ้างงานเพิ่มขึ้น
ดัชนี ISM Non-Manf. เดือน พ.ย.เพิ่มขึ้น เป็น 59.3 จุด จากเดือน ต.ค.ที่ 57.1 จุด และดีกว่าคาดการณ์ที่ 57.5 จุด

ยุโรป
เศรษฐกิจสวิส ขยายตัวมากกว่าคาด: GDP ใน 3Q57 เติบโต 0.6% qoq เร่งขึ้นจาก 2Q57 ที่เติบโต 0.3% qoq และดีกว่า Bloomberg consensus คาด 0.3% qoq การบริโภคภายในประเทศ เติบโต 0.6% qoq การลงทุนภาคการก่อสร้าง เพิ่มขึ้น 0.8% qoq และการใช้จ่ายภาครัฐ เพิ่มขึ้น 0.9% qoq ขณะที่การส่งออก ขยายตัวได้ถึง 2.8% qoq เป็นสัญญาณเชิงบวกต่อเศรษฐกิจสวิส
ดัชนีภาคบริการของรัสเซียทำระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2552: เป็น 44.5 จุด ในเดือนพ.ย. ลดลงจากเดือนต.ค.ที่ 47.4 จุด และเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2552 ขณะที่ Bloomberg consensus คาด 47.8 จุด เป็นผลกระทบต่อเนื่องจากมาตรการคว่ำบาตรกรณียูเครน
ตัวเลขเศรษฐกิจอียูออกมาเชิงลบต่อเนื่อง:
ดัชนี PMI Composite เดือน พ.ย.อียูอยู่ที่ 51.1 จุด ลดลง 51.4 จุดและต่ำกว่าที่ Bloomberg Consensus คาดคงที่จากเดือนก่อน เป็นผลจากตัวเลขของเยอรมันอยู่ที่เพียง 51.7 จุด ลดลงจาก 52.1 จุด รวมฝรั่งเศสที่ตัวเลขดังกล่าวลดลงเช่นกัน

จีน
ดัชนี PMI ภาคบริการฟื้นตัว: เดือนพ.ย. เท่ากับ 53.9 จุด เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ 53.8 จุด ส่วน HSBC PMI ภาคบริการ เท่ากับ 53.0 จุด เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเดือนต.ค.ที่ 52.9 จุด เป็นตัวเลขเศรษฐกิจที่ดีและมาชดเชยกับภาคการผลิตที่ชะลอตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากภาคอสังหาฯ

เอเชียแปซิฟิก
ไม่มี

ไทย
ไม่มี

Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA Strategist / Analyst 662-6586300 x 1440
Padon Vannarat Equity Analyst 662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham Assistant Analyst 662-6586300 x 1530 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!