WORLD7

BANPU2024

smed PIONEER 720x100

บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

 

ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
   (-/+) ตลาดหุ้นต่างประเทศ : DJIA -111.97, NASDAQ -57.32 และ S&P -16.89 ภายใต้ปัจจัยกดดัน (1) สถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ที่อาจส่งต่อเศรษฐกิจของประเทศที่ต้องพึ่งพาการส่งออกน้ำมัน รวมถึงรัสเซียที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักสกุลเงินรูเบิลที่อ่อนค่าลง และมาตรการคว่ำบาตรที่นานาประเทศบังคับใช้ต่อรัสเซีย ทำให้เกิดความกังวลว่ารัสเซียอาจจะประกาศใช้มาตรการควบคุมเงินทุน หลังประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้วไม่สามารถฟื้นฟูความเชื่อมั่นของนักลงทุนได้ (2) ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐฯ เช่น ดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้น - ธค. อยู่ที่ 53.7 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 11 เดือน และตัวเลขการเริ่มสร้างบ้าน - พย. ลดลง 1.6% อยู่ที่ 1.028 ล้านยูนิต รวมถึงตัวเลขการอนุญาตก่อสร้าง - พย. ลดลง 5.2% อยู่ที่ 1.035 ล้านยูนิต
  .....ขณะที่ FTSE +149.11, CAC +87.82 และ DAX +229.88 โดยได้รับปัจจัยหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อย และหุ้นกลุ่มผลิตรถยนต์ จากยอดขายรถยนต์ในยุโรป – พย. เพิ่มขึ้น 1.2% อยู่ที่ 989,457 คัน และ 11M/57 เพิ่มขึ้น 5.5% อยู่ที่ 12 ล้านคัน
  …..ราคาปิดน้ำมันดิบ (NYMEX) ราคาส่งมอบเดือน มค. +US$0.02 อยู่ที่ US$55.93 ต่อบาร์เรล โดยยังคงได้รับปัจจัยลบจากประเด็นที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) อาจจะไม่ปรับ
ลดเพดานการผลิตเพื่อสกัดการร่วงลงของราคาน้ำมัน
  ....ทางด้านราคาทองคำ ราคาส่งมอบเดือน กพ. -US$13.4 อยู่ที่ US$1,194.3 ต่อออนซ์ ภายใต้ความกังวลว่ารัสเซียอาจจะขายทองคำสำรอง หลังเงินรูเบิลอ่อนค่าลง ขณะที่อยู่ระหว่างรอผลการประชุมของเฟด ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าเฟดอาจจะส่งสัญญาณเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
   (-) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ -8,374 ล้านบาท สะสมตั้งแต่ต้นปี -28,837 ล้านบาท (สิ้นปี’56 มียอดขายสุทธิสะสม 193,911 ลบ)

ทิศทางตลาด
  ทิศทางตลาด : คาดยังผันผวน? มีโอกาสเคลื่อนไหวทั้ง + / - หลังราคาน้ำมันล่าสุดเริ่มทรงตัว อย่างไรก็ตามยังอยู่ในระดับที่ต่ำสุดในรอบกว่า 5 ปี ที่คาดยังส่งผลลบต่อหุ้นในกลุ่มพลังงาน โดยเฉพาะความกังวลต่อ Stock ที่คาดอาจเกิดผลขาดทุน แต่ภายใต้ประเด็นดังกล่าวยังแนะติดตามกลุ่มการบิน เช่น THAI, BA, NOK และ AAV ที่คาดได้รับประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ลดลง และมีปัจจัยหนุนเพิ่มจากช่วง High Season ของการท่องเที่ยว
  .....ทางด้านประเด็นในประเทศคาดยังได้รับปัจจัยลบจาก Fund Flow ล่าสุดต่างชาติยังขายสุทธิต่อเนื่องอีกกว่า 8,300 ล้านบาท อย่างไรก็ตามเป็นไปในทิศทางเดียวกับภูมิภาค ขณะที่แนะติดตามแรงซื้อสถาบันในประเทศ (LTF / RMF) จะเข้ามาชดเชยได้หรือไม่?
  ....ประเด็นที่แนะติดตาม (1) การประชุม กนง. ในวันที่ 17/12/57 ซึ่งหากมีการลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ตามที่มีการคาดหมาย คาดจะเป็นปัจจัยบวกต่อภาพรวมตลาด และคาดเป็นสัญญาณที่ดีต่อกลุ่มที่อยู่อาศัย (2) Window Dressing – 4Q/57 และ (3) มาตรการป้องกันการเก็งกำไร ในหุ้นขนาดเล็ก ที่คาดมีความชัดเจนต้นปี’58
  .....รวมถึงแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานคมนาคม ในปี ’58 – 65 ซึ่ง ครม. อนุมัติเมื่อ 21/10/57 เช่น รถไฟรางคู่ รถไฟฟ้า การขยายถนน และการขยายสนามบินฯ เป็นต้น เพื่อช่วยลดต้นทุนโลจิสติกส์ และเพิ่มศักยภาพของประเทศ ให้รองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC)
ซึ่งคาดกลุ่มรับเหมาก่อสร้างน่าจะได้รับผลดีต่อเนื่องในระยะยาว โดยล่าสุด (18/11/57) ครม. อนุมัติโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่เส้นทางหนองคาย – มาบตาพุด ระยะทาง 867 กม. ระหว่างไทย – จีน ด้วยวิธี G to G เงินลงทุน 400,000 ล้านบาท คาดเริ่มก่อสร้างปี’59
  ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี -0.05 อยู่ที่ 2.07% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54) และดัชนีความเสี่ยง (VIX) +3.15 อยู่ที่ 23.57
  หุ้นแนะนำ : PS

ประเด็นที่ต้องติดตาม (17 - 19 ธค.’57)
   17/12/57 : ประชุม กนง. สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) - พย. (2) สต็อกน้ำมัน (3) ดุลบัญชีเดินสะพัด – 3Q/57 (4) เฟด ประกาศมติการประชุมฯ
   18/12/57 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน (2) ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้น - ธค. (3) ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ - พย. (4) ดัชนีกิจกรรมการผลิตเขตมิด-แอตแลนติก - ธค.
   19/12/57 : ไม่มีรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ

นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ 02-684-8788

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!