WORLD7

BANPU2024

smed PIONEER 720x100

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

 

กลยุทธ์วันนี้ Short-term Trading
ตลาดหุ้นวานนี้:
      ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปิดบวกเป็นวันแรกในรอบ 6 วันทำการ 18.46 จุด มาอยู่ที่ 1,480.20 จุด เป็นผลจาก Technical Rebound และการเร่ง Covered Short หุ้นกลุ่มพลังงาน / กลุ่มปิโตรเคมี PTT ปิดบวก 3.96% ส่วน PTTEP ปิดบวก 8.91% มูลค่าการซื้อขายชะลอตัวจากวันก่อนเหลือ 63,479 ล้านบาท
ต่างชาติ ลดน้ำหนักการลงทุนตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 6 อีก 5,830 ล้านบาท คงการ Short สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 2 เพียง 1,003 สัญญา และคงการขายสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 4 อีก 2,244 ล้านบาท สอดคล้องกับเงินทุนต่างชาติที่ไหลออกจากตลาดหุ้นในเอเชียเกิดใหม่

ปัจจัยสำคัญวันนี้
•ประธานเฟด ส่งสัญญาณมั่นใจต่อภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยเฉพาะการจ้างงานที่ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง ทำให้การส่งสัญญาณดอกเบี้ยได้ปรับลงมาเป็น Be Patient แทน Considerable Time ขณะที่อัตราดอกเบี้ยนโยบายจะยังไม่มีการพิจารณาในการประชุม 2 ครั้งหน้าเป็นอย่างน้อย
•5 บลจ. เริ่มทยอยขาย IPO กองทุน ทริกเกอร์ฟันด์ วงเงิน 8.0 พันล้านบาท ปิดการขายในช่วงวันที่ 18-22 ธ.ค. คาดว่าเม็ดเงินใหม่จะเริ่มเข้าในปลายสัปดาห์นี้ต่อเนื่องถึงสัปดาห์หน้า
•กลุ่มรับเหมามีแนวโน้มเด่น จากรัฐบาลเตรียมเซ็นต์ MoU กับรัฐบาลจีน ในโครงการรถไฟรางคู่วันพรุ่งนี้
•ตลท. ประกาศรายชื่อหุ้นใน SET50 / SET100 รอบเดือนม.ค.- มิ.ย. 2558 ดังนี้
oSET50 Index: เพิ่ม CK / HEMRAJ / KTIS / SPALI และ ออก BLA / GLOBAL / KKP/ THCOM
oSET100 Index: เพิ่ม ANAN / DEMCO / HANA / ICHI / KTIS / PTG/ SAWAD / SF / SGP / SIM และ ออก BLA / DCC / ESSO / MCOT / NYT / RS/ SRICHA/ TASCO/ THRE/ WHA

มุมมองต่อตลาด
เราคงมุมมองต่อการลงทุนเป็น “กลาง” เป็นวันที่ 2 ด่านสำคัญ 1,485-1,500 จุด ยังไม่น่าผ่านได้ในช่วงที่เหลือของสัปดาห์นี้ แต่มีแนวโน้มที่จะทดสอบและทะลุ 1,500 จุด ขึ้นไปปิดแก๊ปบริเวณ 1,510-1,520 จุดในช่วงที่เหลือของปี จากแรงผลักดันของเงินใหม่ของกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ และ การทำ Window dressing ขณะที่แรงขายจากต่างชาติ เราเชื่อว่าจะชะลอตัวและลดลงในช่วงที่เหลือของปีนี้
ความผันผวนของตราสารหนี้ – ตลาดหุ้น – อัตราแลกเปลี่ยน ทั่วโลก เริ่มลดลง และมีแนวโน้มทรงตัวดีขึ้น หลังราคาของสินทรัพย์ทุกประเภทแกว่งผันผวนตลอด 3 วันทำการที่ผ่านมา สะท้อนความกังวลต่อเศรษฐกิจ และค่าเงินรูเบิ้ล ของรัสเซียไปมากแล้ว เพียงแต่นักลงทุนยังคงต้องติดตามพัฒนาการดังกล่าวอย่างต่อเนื่องในช่วงสั้น เพราะถือเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญในช่วงที่เหลือของปีนี้
ขณะที่ผลการประชุมเฟดคืนวานนี้ ประธานเฟด ส่งสัญญาณมั่นใจต่อภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯ ผลกระทบจากกรณีรัสเซียเป็นไปอย่างจำกัด ทั้งในแง่ของเศรษฐกิจและตลาดเงิน กลายเป็นการเรียกความเชื่อมั่นจากนักลงทุนได้ ผลักดันให้ DJIA และ ราคาน้ำมันดิบ ฟื้นตัวขึ้นเด่น และน่าจะเป็นปัจจัยบวกที่เอื้อต่อตลาดหุ้นทั่วโลกในวันนี้
ตลาด Nikkei / Kospi เช้านี้ (7.12 น) เปิดบวกเด่น เงินเยนญี่ปุ่นกลับมาอ่อนค่าเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ และ DJIA คืนวานนี้ปิด +1.69%


กลยุทธ์การลงทุน
เราแนะนำให้ “ดังนั้นกลยุทธ์ช่วงสั้น เรา แนะนำ “Contrarian Trading คือ ขึ้นแรงขาย ลงแรงซื้อ” ในหุ้นปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง แนวโน้มผลการดำเนินงานใน 4Q57 เติบโตเด่น และต่อเนื่องถึงปีหน้า หรือ หุ้นปันผลสูงในงวดการจ่ายครั้งนี้ เป็นทางเลือกของการพักเงิน
Portfolio Top Pick in 4Q14: BEAUTY / IFEC/ LPN/ PTT/ VGI
HOLD: SAMART/ SPCG/ IFEC/ BTS/ SIM/ CK/ LPN/ VGI/ PTT/ KTB
Accumulative Buy: BJCHI
Speculative Buy: KBANK

Stock Pick of the Day
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ “ทยอยสะสม” ได้แก่
1.BJCHI : ราคาปิด 31.50 บาท ราคาเหมาะสม 45.00 บาท
a)ราคาหุ้นที่ปรับตัวลง -14.8% ช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา เชื่อว่าได้สะท้อนปัจจัยลบและความกังวลว่าราคาน้ำมันดิบที่อ่อนตัวลง อาจส่งผลให้ลูกค้าในกลุ่มปิโตรเคมีและพลังงานซึ่งเป็นลูกค้าของ BJCHI อาจชะลองบลงทุนและส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัท
b)อย่างไรก็ตาม หลังเข้าพบผู้บริหารระดับสูง ส่งผลให้เราคงมุมมองเชิงบวกต่อปัจจัยพื้นฐานของบริษัท และปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างประมูลงานสูงถึง 2-3 หมื่นล้านบาท ทั้งจากลูกค้าเก่า และใหม่ เนื่องจากธุรกิจวิศวกรรม, วางระบบ และติดตั้งอุปกรณ์ด้านปิโตรเคมี, พลังงาน ของไทยยังมีข้อได้เปรียบมากด้านต้นทุน และความเชี่ยวชาญเมื่อเทียบกับคู่แข่งในภูมิภาค
c)Backlog ปัจจุบันสูงถึง 4.6 พันล้านบาท และประมาณการรายได้ปี 2558 มี Backlog รองรับแล้วราว 65% และมีโอกาสที่จะชนะงานประมูลขนาดใหญ่เพิ่มเติมใน 1Q58 จึงส่งผลประมาณการรายได้ปี 2558 มีความเสี่ยงค่อนข้างจำกัด
d)และราคาเหล็กที่ปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับราคา Commodities จะส่งผลบวกและเป็น Upside Risk ต่อ Gross Margin ของบริษัทให้มีโอกาสออกมาดีกว่าคาดการณ์ของตลาด
e)คาดกำไรสุทธิปี 2558 เติบโต +13.2% yoy เป็น 1,184 ล้านบาท และ Valuation ปัจจุบันน่าสนใจมาก เนื่องจากซื้อขายระดับ PER 2558 เพียง 8.5 เท่า, ฐานะการเงินแข็งแกร่งเป็น Net Cash และคาดการณ์เงินปันผลปี 2557 หุ้นละ 2.40 บาท ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงถึง 7.6% (จ่ายเงินปันผลปีละ 1 ครั้ง)
และ “ซื้อเก็งกำไร” ได้แก่
2.KBANK : ราคาปิด 226.00 บาท ราคาเหมาะสม 265.00 บาท
a)MBKET คาดว่าหุ้นกลุ่มธนาคารมีโอกาสดีดกลับ และเป็นกลุ่มนำตลาดในช่วงที่เหลือของเดือน ธ.ค. จากการไหลเข้าของเม็ดเงิน LTF และเชื่อว่าจะเป็นเป้าหมายเข้าลงทุนของกองทุน Trigger Fund ในสัปดาห์หน้า
b)ราคาหุ้นปรับตัวลง -8.5% ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เทียบกับ SET BANK -7.5% และ SET INDEX -7.2%
a)และคาดว่ามีโอกาสเกิด Short Covering เนื่องจาก 5 วันทำการที่ผ่าน KBANK ถูก SBL สูงสุดเป็นอันดับ 2 (รองจาก PTT) มูลค่าสูงถึง 1.04 พันล้านบาท ราคาเฉลี่ย 230.11 บาท

Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
เงินทุนต่างชาติวานนี้ขายสุทธิเร่งขึ้นเป็น US$1,253 ล้าน จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ US$1,166 ล้าน
เป็นการขายสุทธิทุกตลาดเป็นวันที่ 2

ตลาดหุ้น วานนี้(US$ ล้าน) วันก่อนหน้า(US$ ล้าน) YTD(US$ ล้าน) 2556(US$ ล้าน)
TAIEX -654.3 -322.3 12,251.1 9,188.0
KOSPI -367.9 -459.5 6,336.2 4,875.1
JSE -4.3 -96.0 4,058.7 -1,806.4
PSE -45.6 -33.6 1,114.5 678.4
ตลาดหุ้นเวียดนาม -4.3 -0.4 115.2 263.2
SET INDEX -176.8 -253.9 -1,032.7 -6,210.5

Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติลดน้ำหนักตลาดหุ้นไทยต่อเนื่อง
วานนี้ วันก่อนหน้า
ตลาดหุ้น (ล้านบาท) -5,830 -8,374
SET50 Index Futures (สัญญา) -1,003 -14,124
SSF (สัญญา) -1,385 +745
Metal Futures (สัญญา) +643 +721
ตลาดตราสารหนี้ (ล้านบาท) -2,244 -1,629

     นักลงทุนต่างชาติ ขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 6 อีก 5,830 ล้านบาท รวม 6 วันทำการ ขายสุทธิ 24,870 ล้านบาท ส่งผลให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ ขายสุทธิมากขึ้นเป็น 34,663 ล้านบาท
ด้าน SET50 Index Futures นักลงทุนกลุ่มนี้ คงการ Short สุทธิเป็นวันที่ 2 แต่ลดลงเหลือ 1,003 สัญญา รวม 2 วันทำการ Short สุทธิ 15,127 สัญญา แม้ว่า S50Z14 ปิดต่ำกว่า SET50 Index กว้างขึ้นเป็น 2.96 จุด จากวันก่อนหน้า Discount เท่ากับ 1.80 จุด
ตลาด Metal Futures นักลงทุนกลุ่มนี้คงการ Long สุทธิเป็นวันที่ 10 อีก 643 สัญญา รวม 10 วันทำการ Long สุทธิ 5,304 สัญญา เมื่อสถานการณ์ในรัสเซีย สร้างความกังวลต่อการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก ทำให้นักลงทุนกลุ่มนี้ทยอยปิดความเสี่ยงผ่านทองคำ
ขณะที่นักลงทุนกลุ่มนี้ ขายสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 4 อีก 2,244 ล้านบาท รวม 4 วันทำการ ขายสุทธิ 4,146 ล้านบาท ส่งผลให้ส่งผลให้ราคาพันธบัตรรัฐบาลไทยลดลงเป็นวันที่ 2 ผ่านผลตอบแทนพันธบัตร อายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 2 อีกเล็กน้อย 1.57bps ปิดที่ 2.869%

Short-Selling วานนี้
มูลค่า Short-selling ลดลงเป็น 1,954 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 2,941 ล้านบาท แต่ถือว่าอยู่ในระดับที่สูงเช่นกัน
Stock Total Value(mn Bt) % of trading Volume Avg.Price(Bt)
PTT 348.13 5.82% 312.33
TRUE 251.57 9.45% 11.55
KBANK 234.05 6.17% 225.83
SCB 84.46 5.34% 179.97
KTB 81.53 6.89% 22.27

NVDR Movement
NVDR ขายสุทธิเป็นวันที่ 6 เน้นลดน้ำหนักกลุ่มธนาคาร
การซื้อขายผ่าน NVDR วานนี้ขายสุทธิ 3,127 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 3,738 ล้านบาท รวม 6 วันทำการ ขายสุทธิ 13,204 ล้านบาท ภาพการลงทุน NVDR สรุปได้ดังต่อไปนี้
1.กลุ่มธนาคารถูกขายสุทธิสูงสุดต่อเนื่องอีก 1,698 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 1,062 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มวัสดุก่อสร้างขายสุทธิ 529 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 106 ล้านบาท กลุ่มค้าปลีก ขายสุทธิ 339 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 354 ล้านบาท กลุ่มขนส่ง ขายสุทธิ 271 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 327 ล้านบาท และกลุ่มอาหาร ขายสุทธิ 177 ล้านบาท
2.ส่วนกลุ่มพลังงานถูกซื้อสุทธิสูงสุด 110 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 539 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มปิโตรเคมี ซื้อสุทธิ 80 ล้านบาท

ซื้อสุทธิสูงสุด มูลค่าสุทธิ(ล้านบาท) % มูลค่าการซื้อขาย ขายสุทธิสูงสุด มูลค่าสุทธิ(ล้านบาท) % มูลค่าการขาย
ADVANC 487.69 21.76 KBANK -1,124.58 24.09
PTT 147.88 12.49 SCC -477.62 36.12
PTTGC 106.43 14.81 CPALL -315.80 17.11
SPALI 105.65 15.61 SCB -265.75 12.43
TOP 46.04 21.24 INTUCH -263.25 20.11 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!