WORLD7

BANPU2024

smed PIONEER 720x100

บล.เคเคเทรด : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

 

SET จะแกว่งตัวขึ้นทดสอบ 1550 จุด
SET View
  แนวโน้ม SET จะแกว่งตัวเพื่อขึ้นทดสอบ 1550 จุด มองกรอบเคลื่อนไหว 1525-1550 จุด จากปัจจัยผสมผสาน (1) น้ำมันดิบ Brent ปรับลงมาทดสอบจุดต่ำสุดเดิมแถว US$58 ต่อบาร์เรล อาจมีแรงขายทำกำไรหุ้นกลุ่มพลังงาน (2) ตลาดหุ้นสหรัฐฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยดัชนีดาวโจนส์ปรับขึ้นกว่า 154 จุด (+0.87%) เตรียมขึ้นทดสอบจุดสูงสุดเดิม (3) ความคาดหวังเชิงบวกต่อเม็ดเงิน LTF และ Trigger Fund เข้าตลาดสัปดาห์นี้ ล่าสุดนักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิต่อเนื่อง 5 วันทำการแล้วกว่า 2.3 หมื่นล้านบาท ขณะที่แรงขายจากนักลงทุนต่างชาติคาดว่าจะชะลอลงไปในสัปดาห์นี้เนื่องจากใกล้ช่วงวันหยุดยาว (4) ทางเทคนิค SET เกิดรูปแบบ Island Reversal เป็นสัญญาณขาขึ้นระยะสั้น มีเป้าหมายทางเทคนิคบริเวณ 1550 จุด ตาม 76.4% Fibonacci อย่างไรก็ตามหากปิดต่ำกว่า 1520 จุดเป็นสัญญาณพักตัว

กลยุทธ์การลงทุน ระยะ 1-2 วัน หากเปิดกระโดด ทยอยขายทำกำไร หากย่อลงแต่ไม่หลุด 1520 จุด หาจังหวะเข้าลงทุน
  1) Top Daily Pick: TOG (คาดผลประกอบการจะฟื้นตัวใน 4Q57 จากปัจจัยฤดูกาลที่ลูกค้าเพิ่มคำสั่งซื้อรองรับการขายช่วง 1H58 แผนการปรับปรุงกระบวนการผลิตเพื่อลดต้นทุนและการขยายตลาดต่างประเทศยังสนับสนุนการเติบโตปี 58 กอรปกับให้อัตราผลตอบแทนปันผลจูงใจราว 6%) WORK (จำนวนผู้ชมและ rating มีแนวโน้มดีขึ้นเกือบทุกเดือน เพิ่มโอกาสปรับขึ้นค่าโฆษณา ขณะที่การดึงรายการช่อง 5 และ 9 มาออกใน WORKPOINT TV ส่งผลให้ฐานรายได้เพิ่มขึ้น)
  2) Technical Pick : ITD GEL ECL JSP AOT
  3) Theme Play : กลุ่มนำตลาดทั้ง พลังงาน (PTT PTTEP PTTGC) ที่คาดฟื้นตัวตามราคาน้ำมันดิบ ธนาคารขนาดใหญ่ (BBL KBANK KTB SCB) สื่อสาร (ADVANC INTUCH DTAC) คาดเป็นเป้าหมายการเข้าซื้อของนักลงทุนสถาบัน กลุ่มอาหารส่งออก (TUF CPF GFPT) ได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่าและต้นทุนวัตถุดิบปรับตัวลง กลุ่มรับเหมาฯ (CK STEC) ได้ประโยชน์จากโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่จะมีความคืบหน้าจากภาครัฐเป็นระยะ กลุ่มพัฒนาที่อยู่อาศัย (SPALI AP PS) ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ กลุ่มค้าปลีก/ร้านอาหาร/เครือข่าย (BIGC CPALL M KAMART) จากแนวโน้มการฟื้นตัวตามเศรษฐกิจ

ระยะ 1-2 สัปดาห์
  Trading BGH GRAMMY KAMART INTUCH SIM M MFEC

ระยะ 3- 6 เดือนขึ้นไป
  Growth HOTPOT SNC TOP TUF WORK
  Dividend BBL EGCO KAMART MODERN PTTGC SNC SRICHA
  Quant AH BTS EGCO MODERN MSC PTG TUF

รายงานวันนี้
  Update : IRPC (เก็งกำไร / มูลค่าเหมาะสม 3.40 บาท) คาด 4Q57 ขาดทุน
  Update : PTTGC (ซื้อ / มูลค่าเหมาะสม 62 บาท) เชื่อปี 58 จะกลับมาฟื้นตัว

Fundamental Talk
  ดีล Bumble bee เป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่ของ TUF
   TUF ประกาศเข้าซื้อกิจการ ด้วยการซื้อหุ้น 100% ของ Bumble Bee Seafood ผู้ผลิตอาหารทะเลสำเร็จรูปอันดับสองในสหรัฐและเป็นอันดับหนึ่งในแคนนาดา ที่ตราสินค้ามีอายุกว่า 115 ปี ด้วยเงินสดจำนวน US$1.51 พันล้านหรือราว 5 หมื่นล้านบาท กำหนดซื้อขายเสร็จภายในปลายปี 2558 โดยใช้แหล่งเงินทุนจากกู้ยืมเงินสถาบันการเงินในไทยสองแห่ง (Bridge Loan)
   การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้จะเป็นผลดีต่อ TUF คือ (1) ด้วยราคาซื้อที่ 10.4xEV/EBITDA ใกล้เคียงกับเฉลี่ยกลุ่มอาหารในสหรัฐที่ราว 9.6 เท่า และต่ำกว่า EV/EBITDA ของ TUF ที่ 14.6 เท่า ถือว่าไม่แพง (2) หนุนการเติบโตแบบ Inorganic โดยยอดขายหลังควบรวมจะเพิ่มราว 28% และทำให้ TUF รุกเข้าสู่ตลาดในแคนนาดาและอเมริกามากขึ้น (3) Bumble bee มีหน่วยจัดหาวัตถุดิบอาหารทะเลในแหล่งสำคัญเกือบทั่วโลกซึ่งจะทำให้การผลิต/ขนส่งของทั้งกิจการ สะดวกและประหยัดมากขึ้น อีกทั้งยังมี synergy อื่นๆอีกโดยทางฝ่ายบริหารคาดว่าจะสามารถสร้างมูลค่าของการ synergy รวมได้ราว US$30 ล้านต่อปี ภายใน 3 ปีข้างหน้า (4) หลังจากควบรวมงบแล้วจะทำให้อัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้นเนื่องจาก EBITDA margin ของ Bumble bee ที่ 10% สูงกว่าของ TUF ที่ 8% และเป็นการขยายฐานทุนและ EBITDA ทำให้มีความมั่นคงมากขึ้น ในอนาคตจะสามารถกู้ยืมได้ในอัตราดอกเบี้ยที่ถูกลงและมี

ความสามารถในการซื้อกิจการอื่นที่ใหญ่ขึ้นไปอีกได้
   ปัจจัยที่ต้องติดตาม คือ (1) ความเป็นไปได้ในการเพิ่มทุนเนื่องจากแผน Refinance ปัจจุบันยังไม่ชัดเจน โดยในขั้นต้น TUF จะใช้เงินกู้ยืมระยะสั้น (Bridge loan) ที่ทางบริษัทให้ความมั่นใจว่าได้อัตราดอกเบี้ยคงที่ต่ำราว 4% แต่หลังจากดีลสำเร็จเราประเมินว่ามีความเป็นไปได้ที่จะต้องกู้ยืมในอัตราดอกเบี้ยตลาดที่สูงขึ้นหรืออาจต้องเพิ่มทุน โดยอัตราส่วน D/E (นับเฉพาะหนี้ที่มีภาระดอกเบี้ย) จะเพิ่มจากปัจจุบัน 1 เท่า ไปเป็น 1.5 เท่าเกินเป้าหมายของบริษัท หากต้องการลด D/E กลับมาที่ 1 เท่าคาดว่าอาจต้องเพิ่มทุนราว 1 หมื่นล้านบาท คิดเป็น Dilution Effect ราว 10% แต่เราก็มองว่าเป็นผลดีเนื่องจากกำไรส่วนเพิ่มจาก Bumble bee (เพิ่ม top line 28% ในขณะที่ margin ดีกว่าธุรกิจเดิมของ TUF) จะมีนัยสูงกว่า Dilution Effect จากการเพิ่มทุน (2) ความสำเร็จของดีลนี้ เนื่องจากเป็นดีลขนาดใหญ่มากและมีรายระเอียดทางกฎหมายที่หน่วยงานกำกับดูแลทั้งไทยและสหรัฐ โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับ US Antitrust จะต้องพิจารณามาก สะท้อนจากการที่ดีลใช้เวลานาน

  การที่ราคาหุ้นปรับตัวลงมาวันก่อนสะท้อนการขายทำกำไร (Sell on fact) ต่อข่าวนี้ไปแล้ว (สังเกตจากราคาก่อนประกาศ ดีดตัวขึ้นหวือหวาในช่วงครึ่งเดือนที่ผ่านมา) จึงเป็นโอกาสสำหรับนักลงทุนระยะยาวทยอยเข้าซื้อสะสม ประเมินการ M&A ครั้งนี้จะสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้ถือหุ้นในระยะยาวได้มาก อีกทั้งเรายังชอบการที่ TUF จะมีสัดส่วนในตลาดสหรัฐมากขึ้นและลดสัดส่วนทางยุโรปที่ปัจจุบันแนวโน้มเศรษฐกิจทางสหรัฐอยู่ในขากำลังฟื้นตัวดี นอกจากสนันสนุนการเติบโตยังช่วยกระจายความเสี่ยง Geographical risk เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” และมูลค่าเหมาะสมที่ 92.25 บาท

Smart Port Note
Beta ของพอร์ตลงทุนแสดงถึงความเสี่ยงของหุ้นในพอร์ตเทียบกับ ตลาด SET หากค่า Beta สูงกว่าหนึ่งเท่า แสดงถึงความเสี่ยงของ พอร์ตลงทุนที่สูงกว่า SET
Growth Port มีค่า Beta เท่ากับ 0.79
Trading Port มีค่า Beta เท่ากับ 0.95
Dividend Port มีค่า Beta เท่ากับ 0.71
Quant Port มีค่า Beta เท่ากับ 0.56

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!