WORLD7

BANPU2024

smed PIONEER 720x100

บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Technical Daily

 

ภาพตลาดวันวาน
  ดัชนีเปิดตลาดด้วยความสดใสบวก 8.14 จุด แกว่งตัวในลักษณะ Sideway up อยู่ในแดนบวกตลอดทั้งวัน ทำจุดสูงสุดของวันที่ 1536.83 บวก 22.48 จุด และต่ำสุดของวันที่ 1519.73 จุด บวก 5.38 จุด กรอบการเคลื่อนที่ทั้งอยู่ที่ 17.1 จุด ทั้งนี้ได้แรงซื้อจากหุ้นในกลุ่มพลังงงานโดยเฉพาะ PTT, PTTEP กลุ่มสื่อสาร ADVANC และกลุ่มขนส่ง AOT, BMCL ก่อนที่ดัชนีจะทำปิดที่ 1536.83 จุด ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของวัน บวก 22.48 จุด (+1.48%) มูลค่าการซื้อขาย 37,252 ล้านบาท กลุ่มนักลงทุนต่างชาติ และนักลงทุนทั่วไปมียอดขายสุทธิ 1,306 // 3,043 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่นักลงทุนสถาบันและนักลงทุนบัญชี บล. มียอดซื้อสุทธิ 3,335 // 1,015 ล้านบาท ตามาลำดับ ภาพตลาดวันนี้
วานนี้เป็นอีกวันหนึ่งที่ดัชนีสร้างความสดใสให้กับนักลงทุน เปิดต่ำปิดสูง และยก High กับ Low ที่สูงขึ้น พร้อมด้วยการยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 10 วัน ดังนั้นโอกาสที่ดัชนีจะขึ้นไปปิด Gap ที่เปิดไว้ในขาลงของอาทิตย์ที่ผ่านมาบริเวณ 1548-1556 จุด ไม่ใช่เรื่องยาก แต่อย่างไรก็ตามดัชนีบริเวณดังกล่าวถือเป็นแนวต้านที่ค่อนข้างสำคัญ โอกาสผ่านไม่ง่ายนัก เนื่องจากเป็นจุดตัดลงของเส้นค่าเฉลี่ย (Dead Cross) ขณะเดียวกันมี Volume ลดลง ทำให้ดัชนีขึ้นไปมีโอกาสที่จะถูกแรงเทขาย ดังนั้นดัชนียิ่งขึ้นน่าจะแบ่งขายบ้าง

กลยุทธ์ : ซื้อเก็งกำไรอย่างระมัดระวัง // Let Profit Run // รอซื้อแนวรับ
Support 1490 -1440 // 1406 จุด Resistance 1550-1560 จุด

สุนีย์ จันทร์เปล่ง
เลขทะเบียน :18199
Technical Analyst
Tel 02 - 6481121 / 1616
Email: sunee.c@ktbst.co.th
พรรณนภา เขมะสุรัตน์
Technical Analyst
เลขทะเบียน : 060110
Tel 02- 6481124
Email: phannapa.k@ktbst.co.th
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Morning Bell 

Market Trend
      ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (22 ธ.ค.) SET Index ปิดที่ 1536.83 จุด เพิ่มขึ้น 22.48 จุด หรือ 1.48% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 37,251.75 ล้านบาท มีแรงซื้อเข้ามาในตลาดหุ้นไทย เป็นผลจากตลาดหุ้นต่างประเทศที่เป็นบวกกันถ้วนหน้า หลังราคาน้ำมันสูงขึ้น ความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจของจีนลดลง ทั้งนี้ ไม่เพียงแต่กลุ่ม PTT ที่นักลงทุนเข้าไปซื้อ แต่กระจายไปในหุ้นขนาดใหญ่ของกลุ่มอื่นๆด้วย นำโดยนักลงทุนสถาบันในประเทศ
       ตลาดหุ้นต่างประเทศวันที่ผ่านมา ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยุโรป ตลาดให้ความสนใจกับปัจจัยบวกของตลาดหุ้นที่มีอยู่ อาทิ การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ , QE ของ ยุโรป และความกังวลต่อปัญหาในภาคการเงินของรัสเซียและกรีซที่ลดระดับลง ทั้งหมดนี้ กลบข่าวลบที่ราคาน้ำมันปรับลดลงในคืนที่ผ่านมา จึงทำให้ตลาดหุ้นทั้งสหรัฐฯและยุโรปเดินหน้าต่อ เพียงแต่สลับจากซื้อหุ้นกลุ่มน้ำมันไปเป็นกลุ่มธนาคารและกลุ่มเทคโนโลยี่
     ราคาน้ำมันดิบ WTI (Feb) ตลาด NYMEX ปิดตลาดที่ 55.26 เหรียญ ลดลง 1.87 ดอลล่าร์ แรงขายทำกำไรและซาอุฯให้ข่าววว่าจะไม่ลดกำลังการผลิตน้ำมันลง เรามองว่า ราคาน้ำมันอาจมี
     ความผันผวนสูงในช่วงนี้ แต่เริ่มมีความเป็นไปได้ที่กลุ่มผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปค จะถูกบีบให้ลดกำลังการผลิตลง ซึ่งท้ายที่สุดราคาจะเริ่มยืนได้และอาจไม่เลวร้ายอย่างที่เคยคิดกัน วันนี้หุ้นกลุ่มนน้ำมัน (PTT, PTTEP, TOP, BCP, PTTGC) อาจมีการพักตัวตามราคาน้ำมัน แต่คงเป็นแค่ช่วงสั้นๆ เท่านั้น เพราะถ้าราคาน้ำมันดิบในระหว่างวันดีดตัวขึ้น ก็จะกลับมาเป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มนี้กันต่อ
"ประจิน" เตรียมหารือญี่ปุ่น พัฒนารถไฟทางคู่ 3 เส้นทาง "ตาก-มุกดาหาร" "กาญจนบุรี-กรุงเทพฯ-ระยอง" และ "กรุงเทพ-เชียงใหม่-เชียงของ"
SLC, NMG - กสท.สั่งสอบด้านกฎหมาย SLC เข้าซื้อหุ้น NMG จะมีการพิจารณาในเรื่องนี้ 5 ม.ค.ปีหน้า

      ทิศทางตลาดหุ้นไทย แม้นักลงทุนต่างประเทศ จะมีการขายหุ้นในตลาดหุ้นไทยวานนี้ แต่ด้วยปัจจัยสนับสนุน อาทิราคาน้ำมันที่เริ่มยืนได้ แต่นักลงทุนลดความกังวลในเรื่องทิศทางราคาน้ำมันน้อยลงกว่าช่วงที่ผ่านมา (สังเกตุจากหุ้น PTTEP ดีดตัวขึ้นมามากกว่าราคาน้ำมันดิบ) และกระแสของ Fund Flow ทั้งจากการซื้อหุ้นหลังราคาลงไปมากบวกกับเม็ดเงินกองทุน LTF/RMF น่าจะยังมีโอกาสที่จะดันให้ดัชนีฯวันนี้บวกต่อได้เล็กน้อย แต่ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับว่า หุ้นในกลุ่มน้ำมันนั้น จะมีแรงขายทำกำไรเข้ามามากน้อยเพียงใด

      กลยุทธ์การลงทุน แนวโน้มตลาดยังดีจากเม็ดเงินไหลเข้าตลาดหุ้น นักลงทุนจึงควรมองในฝั่งซื้อที่มากขึ้น โดยเน้นหุ้นขนาดใหญ่ของแต่ละกลุ่มที่เป็นเป้าหมายของกองทุนฯ โดยกลุ่ม ที่น่าลงทุนวันนี้ หากราคาหุ้นอ่อนตัวลง คือกลุ่ม PTT (PTT, PTTEP, TOP) ขณะที่หุ้นกลุ่มโทรศัพท์ (ADVANC, TRUE) และธนาคาร(SCB และ KTB) จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนมากขึ้นในวันนี้ ส่วนหุ้นขนาดเล็ก ราคาหุ้นที่ปรับตัวสูงขึ้นส่วนใหญ่จะมีข่าวบวกเข้ามาเสริม จึงต้องพิจารณาเป็นรายตัวไป

Stock in Focus
     LH-SPLAI : กลุ่มหุ้นที่นักลงทุนเข้ามาซื้อวานนี้ ได้กระจายไปในหุ้นขนาดใหญ่หลายตัว น่าจะมาจากกองทุนต่างๆ ที่เข้ามาซื้อหุ้นช่วงปลายปี โดยหุ้นในกลุ่มบ้าน-ที่อยู่อาศัย ราคาหุ้นหลายตัวก็ปรับตัวสูงขึ้น โดยหุ้นที่เราให้ความสนใจ จะเป็นหุ้นใหญ่ที่มีผลประกอบการดี 2 ตัวประกอบด้วย LH (ราคาปิด 9.35 บาท ; ราคาเป้าหมายเฉลี่ย โดย IAA Consensus 11.20 บาท) และ SPALI (ราคาปิด 25.25 บาท ; ราคาเป้าหมายเฉลี่ย โดย IAA Consensus 31.62 บาท) สำหรับ LH คณะกรรมการบริษัทเพิ่งอนุมัติให้ตั้งกองทุนอสังหาริมทรัพย์ เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่า แอล เอช ช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ (ศูนย์การค้า Terminal 21) มูลค่าโครงการ 6 พันล้านบาท ส่วน SPLAI นั้น มีจุดเด่น ตรงที่ให้ Yield ของเงินปันผลสูงที่สุดตัวหนึ่งของกลุ่มนี้
IRPC : (ราคาปิด 3.20 บาท ; ราคาเป้าหมายเฉลี่ย โดย IAA Consensus 3.74 บาท) หุ้นราคาเล็กของกลุ่ม PTT ผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 4/57 ที่จะออกมา ถูกคาดว่าจะมีผลขาดทุนจาก stock น้ำมันเข้ามาถ่วงงบการเงิน แต่ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่เริ่มพลิกตัวกลับ และได้อานิสงค์จากการเข้ามาซื้อหุ้นกลุ่ม PTT ของนักลงทุน จึงเป็นหุ้นที่น่าลงทุนระยะสั้นตัวหนึ่งของกลุ่ม หรือเป็นหุ้นทางเลือก หากเห็นว่า PTT PTTEP และ PTTGC นั้น ราคาชึ้นไปมากจนเกินเอื้อมแล้ว

มงคล พ่วงเภตรา
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
License No: 001937 Tel: 02-648-1123
และทีมวิเคราะห์ 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!