WORLD7

BANPU2024

smed PIONEER 720x100

บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Technical Daily

 

ภาพตลาดวันวาน
  ดัชนีขึ้นไปทำจุดสูงใหม่ที่ 1466.15 จุดปรับตัวเพิ่มขึ้น 8.13 จุด และก็เจอแรงขายออกมาทำให้ดัชนีลงไปที่ 1454.05 จุดลดลง 3.97 จุด ก่อนที่จะดีดขึ้นมาปิดที่ 1457.30 จุด ปรับตัวลดลง 0.72 จุด (-0.05%) ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 39,629 ล้านบาท สงกลุ่มนักลงทุนที่ซื้อสุทธิคือ กลุ่มนักลงทุนต่างชาติ และกลุ่มนักลงทุน บล. ซื้อสุทธิเพียงเล็กน้อยคือ 131 และ 132 ล้านบาทตามลำดับ ส่วนกองทุนในประเทศก็ขายเพียงเล็กน้อยคือ 250 ล้านบาทนักลงทุนทั่วไปก็ขายสุทธิเพียง 13 ล้านบาทเท่านั้น ภาพตลาดวันนี้
  บนโครงสร้างดัชนีทำจุดสูงขึ้นเรื่อยๆ แต่ถอยลงมาปิดต่ำหรือใกล้ๆจุดต่ำของวันมา 5 วันต่อเนื่อง จากภาพดังกล่าว ดัชนีน่าจะรีรอให้สัญญาณตามขึ้นมาให้ทันดัชนีก็เป็นได้ จากข้อสังเกตตรงนี้ดัชนีอาจยังไม่ลงทันทีทันใด การสร้างฐานเป็นขั้นบันไดก็มีโอกาสเกิดขึ้น ดังนั้นเมื่อดัชนีแสดงเช่นนี้ การลงทุนจึงไม่ควรไล่ราคา จะได้มีต้นทุนที่ปลอดภัย

 

กลยุทธ์ : ซื้อเก็งกำไรอย่างระมัดระวัง
Support 1420 //1400 -1410 จุด Resistance 1450 -1464 // 1485 จุด

สุนีย์ จันทร์เปล่ง
เลขทะเบียน :18199
นักวิเคราะห์การลงทุน
ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
Tel 02 - 6481121 / 1616
Email: sunee.c@ktbst.co.th
พรรณนภา เขมะสุรัตน์ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
Tel 02 – 6481124 Email: phannapa.k@ktbst.co.th

บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Morning Bell

เมื่อวาน : SET เคลื่อนไหวในกรอบที่ให้ไว้
  การเคลื่อนไหวของ SET Index เมื่อวาน (9 มิ.ย.57) ในภาพรวมยังอยู่ในกรอบรายวันที่เราวิเคราะห์ไว้ แต่ความผันผวนเริ่มมีมากขึ้น เนื่องจากเหตุผลสำคัญ 2 ประการ ได้แก่ (1) การขายทำกำไรระยะสั้นสลับออกมาหลังจากที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง และ (2) แรงกดดันในหุ้นบางกลุ่มที่ส่งผลกระทบต่อจิตวิทยาการลงทุน ได้แก่ กลุ่มพลังงาน (โดยอาศัยข่าวลือต่างๆ ใน social media) และกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง (ใช้ประเด็นที่ยังไม่มีข้อสรุปจาก คสช. ที่ชัดเจนเกี่ยวกับการพิจารณาโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท) ซึ่งกดดันหุ้น big cap. ได้แก่ หุ้นในกลุ่ม PTT และหุ้นรับเหมาก่อสร้างขนาดใหญ่ ได้แก่ ITD, CK, STEC ทั้งนี้ SET Index ปิดตลาดที่ระดับ 1,457.30 จุด (-0.05%) ส่วนกรอบแกว่งอยู่ในช่วง 1,454.05-1,466.15 จุด ขณะที่มูลค่าการซื้อขายหนาแน่นเท่ากับ 39,629 ล้านบาท โดยมีกองทุนในประเทศและนักลงทุนรายย่อยขายสุทธิเท่ากับ 250 และ 13 ล้านบาท ตามลำดับ


  วันนี้ : เรายังให้น้ำหนักตลาดในทิศทางขาขึ้นในระยะ medium-to-long period
  ราคาหุ้นบางตัวจะผันผวนมากช่วงสั้น ...แต่จัดเป็นปัจจัยเฉพาะตัว!!! ในระยะสั้น เราคาดว่า ราคาหุ้นบางบริษัทมีแนวโน้มเผชิญภาวะแกว่งตัวแรงกว่าหุ้นอื่นๆ ในตลาด เนื่องจากมีประเด็นเข้ามากระทบ ได้แก่ TRUE (การเพิ่มทุนประมาณ 6.5 หมื่นล้านบาท) และ IRPC (เหตุการณ์ไฟไหม้โรงงานที่ จ.ระยอง) แต่ไม่ใช่ปัจจัยมหภาคที่จะส่งผลกระทบต่อตลาดรวมแต่อย่างใด ขณะที่เรายังเห็นถึงแนวโน้มการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยที่จะเกิดขึ้นจากฝ่ายเศรษฐกิจของ คสช. เป็นลำดับ ผนวกกับตลาดหุ้นทั่วโลกยังมีทิศทางเชิงบวกจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ซึ่งยังคงเป็นอานิสงส์บวกต่อทิศทางตลาดหุ้นไทยในระยะไกลกว่านี้ ส่วน SET วันนี้ เราคาดว่าเคลื่อนไหวในช่วง 1,450-1,465 จุด (อาจ error จากกรอบของเราเล็กน้อย)


  หุ้นเด่นวันนี้ : แนะนำขายทำกำไร TRUE และ IRPC …เพื่อเก็งกำไร RS-PTTEP-PTT TRUE-IRPC เผชิญปัจจัยลบระยะสั้นตามที่เกริ่นไว้ข้างต้น ทำให้ความน่าสนใจในเชิงการเข้าซื้อลงทุนมีต่ำ โดย TRUE เรายังไม่มั่นใจถึงความสามารถในการทำกำไรและฐานะการเงินในอนาคต ส่วน IRPC จะเผชิญแรงกดดันราคาหุ้นระยะสั้นจากข่าวไฟไหม้โรงงานที่ระยองเมื่อวาน ส่วน RS จะมีแรงเก็งกำไรจากการพิจารณาคดีของสาลปกครองวันนี้ (ช่วงบ่าย) จากการที่ RS ฟ้อง กสทช. กรณีการถ่ายทอดฟุตบอลโลก สำหรับ PTTEP-PTT ได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ เราให้ราคาเป้าหมาย RS-PTTEP-PTT เท่ากับ 10*(high range), 211 และ 420 บาท ตามลำดับ

*ในบทวิเคราะห์ฉบับนี้ หมายถึง ตัวเลขอ้างอิงจาก IAA Consensus หรือบทวิเคราะห์ของโบรกเกอร์ที่ปรากฏใน NEWSCenter หรือ Bloomberg)

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!