WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล.เคเคเทรด : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

HIGHLIGHT ลุ้นชี้ชะตานายกฯเที่ยงวันนี้ กลับไปปิดเหนือ 1,410 จุดไม่ได้ “ดีดขึ้นขาย” มาถือ
เงินสด
SET View
        ประเด็นหลักวันนี้ ตลาดหุ้นไทยวันนี้มีแนวโน้มที่จะถูกกดดันอย่างต่อเนื่องจากประเด็นสุญญากาศทางการเมืองที่อาจจะเกิดขึ้น หลังจากศาลรัฐธรรมนูญแถลงคำวินิจฉัยสถานภาพของนายกรัฐมนตรีกรณีโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรีในวันนี้เวลา 12.00 น. ซึ่งกรณีที่ศาลฯตัดสินให้นายกรัฐมนตรีพ้นสภาพจะเป็นปัจจัยลบให้ SET มีโอกาสหมุนตัวลงไปต่ำกว่า 1,410 จุดอีกครั้ง และต่างชาติกลับมาขายสุทธิในเวลาเดียวกัน เนื่องจากในทางสถิติเมื่อเทียบกับเหตุการณ์ในอดีต พบว่าหลังคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญที่ส่งผลให้นายกฯสมัคร และสมชายพ้นตำแหน่งในวันที่ 9 ก.ย.2551 และ 2 ธ.ค.2551 SET ปรับตัวลดลงเฉลี่ยถึง 6% และ 25% ขณะที่นักลงทุนขายสุทธิออกมาถึง 7.2 พันล้านบาท และ 1.6 หมื่นล้านบาทหลังการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ 1 สัปดาห์ และ 1 เดือนตามลำดับ ซึ่งในกรณีที่ SET ปิดต่ำกว่า 1,410 จุดอีกครั้งในวันนี้จะส่งผลให้ SET มีโอกาสที่จะลงไปแกว่งตัวในกรอบ 1,330-1,300 จุดอีกครั้งใน พ.ค.2557 ในทิศทางเดียวกับสถิติการเกิด “Sell in May and Go Away”

     ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา (2553-2556) แม้ว่าตลาดหุ้นไทยกำลังเข้าสู่ช่วงของการประกาศผลการดำเนินงานประจำงวด 1Q57 อย่างเต็มตัวในสัปดาห์นี้ อย่างไรก็ดีเรายังคงมองว่าปัจจัยดังกล่าวจะยังไม่สามารถสร้างปัจจัยหนุนใหม่ให้ตลาดได้ เนื่องจากเราประเมินกำไรสุทธิใน 1Q57 ของหุ้นที่เราศึกษา (ไม่รวมกลุ่มธนาคาร) ไว้ที่ 9.3 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 45% QoQ แต่ยังคงลดลงถึง 41% YoY และไม่มีกลุ่มหลักทรัพย์ใดเลยที่มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นพร้อมกันทั้ง QoQ และ YoY ตรงกันข้ามกลุ่มปิโตรเคมี, รับเหมาก่อสร้าง, ยานยนต์ และบันเทิงเป็น 4 กลุ่มที่มีกำไรสุทธิรวมลดลงทั้ง QoQ และ YoY ขณะที่จากสถิติในช่วง 4 ไตรมาสที่ผ่านมา (1Q56-4Q56) พบว่าสัดส่วนของบริษัทในตลาดหุ้นไทยที่ประกาศผลการดำเนินงานออกมาสูงกว่าที่ Consensus คาด หรือมี Positive Earnings Surprise มีระดับเฉลี่ยเพียงไตรมาสละ 45%
      กลยุทธ์การลงทุน การลงทุนระยะสั้น (ไม่เกิน 1 สัปดาห์) กรณีที่ SET ยังกลับไปปิดเหนือ 1,410 จุดไม่ได้ แนะนำ “ ดีดขึ้นขาย” กลับมาถือเงินสด 100% ขณะที่การลงทุนระยะกลาง (3-6 เดือน) แนะนำ “ถือหุ้น 50% ของพอร์ต” ในกลุ่ม “Value Investing” ได้แก่ AP, SIRI, HEMRAJ, AAV, MAJOR, ESSO และ SAMART

Stock Picks
       AMATA (+ ) เราประเมินกำไรสุทธิใน 1Q57 ไว้ที่ 560 ล้านบาท เพิ่มขึ้นโดดเด่น 647% QoQ และ 327% YoY ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงทางการเมืองอาจกระทบไม่มาก เนื่องการเพิ่มขนาดการลงทุนต่อเนื่องในช่วงระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา ของผู้ประกอบการจากประเทศญี่ปุ่น ทำให้การถอนการลงทุนและย้ายฐานการผลิตไปจากไทยค่อยข้างทำได้ลำบาก นอกจากนี้ปัจจัยหนุนราคาหุ้นในระยะต่อไปเรามองไปที่การจัดตั้งกองทุน REIT และการนำ บริษัท อมตะวีเอ็น (เวียดนาม) เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯใน 2H57 ประเมินมูลค่าเหมาะสมที่ 17.50 บาท แนะนำ “ซื้อ”
      GFPT (+) เรามองว่าราคาหุ้นในปัจจุบันยังไม่สะท้อนพื้นฐานที่กลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง หลังจากประสบกับปัญหา Oversupply ในปี 2555 โดยที่เราประเมินกำไรสุทธิในปี 2557 และ 2558 ขยายตัวราว 18% และ 12% YoY ตามลำดับ ต่อเนื่องจากที่โต 550% YoY ในปี 2556 โดยที่เราประเมินอัตรากำไรขั้นต้นขยับขึ้นมาที่ 15% และ 15.25% ตามลำดับ ขณะที่เรามองว่าการทำ Joint Venture (JVs) กับลูกค้าหลัก เช่น McKey หรือ Nichirei จะทำให้การขยายตัวในอนาคตมีความมั่นคงมากขึ้น ประเมินมูลค่าเหมาะสมที่ 17.60 บาท แนะนำ “ซื้อ”

Technical Plays
       ดัชนี หุ้นเมื่อวันก่อนปิดลบต่ำกว่าระดับ 1415 จุด เป็นสัญญาณขาลงระยะสั้น ดูจากรูปแบบราคาแล้วมีโอกาสที่ดัชนีหุ้นจะเข้าสู่การปรับฐานต่อได้ คาดว่าตลาดจะแกว่งตัวในกรอบ 1400-1412 จุด ต่ำกว่า 1415 จุด โอกาสทางขาลงยังมีอยู่ แนวรับระยะสั้น 1400 จุด

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!