WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

        SET ยังมีสิทธิแกว่งลงต่อเนื่อง ดังนั้นซื้อลบช่วงนี้เน้นแค่เทรดดิ้งสั้น
        กลยุทธ์ : FSS คาดว่า SET จะยังปรับพักฐานต่อเนื่องอีกพักใหญ่ ซึ่งมีแนวโน้มที่จะอยู่ในลักษณะแกว่งลง ดังนั้นจึงมีจังหวะให้เข้าซื้อเพื่อเทรดดิ้งสั้นตามรอบได้บ้าง แต่ถ้าจะซื้อเพื่อถือลงทุน เรายังแนะนำให้รอจังหวะเลือกหุ้นซื้อสะสมเมื่อตลาดปรับตัวลงลึกกว่านี้ก่อน

หุ้นเด่นทางเทคนิค : EARTH, TPIPL, BCH(short)
        แนวโน้ม : เมื่อวานนี้ SET เริ่มกลับมาปรับตัวลงแรงพอควรในภาคบ่าย แม้ว่าจะพยายามดีดบวกขึ้นในช่วงต้นชั่วโมง หลังศาลรัฐธรรมนูญระบุว่าเที่ยงวันนี้(7 พ.ค.) จะตัดสินสถานภาพของนายกฯ เกี่ยวกับคดีโยกย้ายเลขาฯ สมช. ทำให้นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับผลที่จะตามมาหลังการตัดสิน จึงทำให้มีแรงขายกดดันตลาดมากขึ้น ขณะที่เช้านี้ยังมีปัจจัยลบจากการปรับตัวลงรุนแรงของตลาดต่างประเทศที่ได้รับแรงกดดันจากผลประกอบการที่อ่อนแอของบริษัทเอกชน และสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครนที่ยังคงมีความรุนแรงต่อเนื่อง โดยมียอดผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตเพิ่มขึ้นจากการปะทะกัน ซึ่งสหรัฐและเยอรมนีเตรียมที่จะกำหนดมาตรการกดดันรัสเซียเพิ่มเติมในวันที่ 25 พ.ค.นี้ด้วย ทำให้ FSS คาดว่า SET ยังมีแนวโน้มที่จะปรับตัวลงต่อเนื่องได้อีก อย่างไรก็ตามคาดว่าดัชนีจะมีจังหวะรีบาวด์สลับเป็นระยะ เพราะแรงซื้อของนักลงทุนต่างประเทศที่ยังมีเข้ามาให้เห็น จะเป็นตัวช่วยหนุนความมั่นใจในตลาดได้บ้าง แต่เราคาดว่ากรอบการรีบาวด์ช่วงนี้จะยังค่อนข้างจำกัด และเสี่ยงต่อแรงขายที่ยังมีออกมากดดันตลาดอีก เนื่องจากปัจจัยลบต่างๆ ยังไม่มีความชัดเจน ดังนั้น FSS จึงยังแนะนำเพียงการดูจังหวะเลือกหุ้นเข้าซื้อเพื่อเทรดดิ้งช่วงสั้นในลักษณะ”ลงซื้อ-ขึ้นขาย” เท่านั้นก่อน


แนวรับ 1402-1400 , 1397-1390 จุด แนวต้าน 1406-1410 , 1413-1416 จุด
Fund Flow วานนี้เบาบางต่อเนื่อง โดยไหลออกจากตลาดหุ้นไต้หวัน US$ 84 ล้าน แต่ไหลเข้าตลาดหุ้น TIP (ไทย US$11.3 ล้าน อินโดนีเ:uย US$8.9 ล้าน ฟิลิปปินส์ US$10.8 ล้าน) และเวียดนาม US$ 0.8 ล้าน ส่วนตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดทำการ ค่าเงินภูมิภาคเช้านี้ค่อนข้างนิ่ง Flow น่าจะยังเบาบางต่อเนื่อง

ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
 (-) ศาลรธน.นัดวันนี้เวลา 12.00 น.ชี้สถานภาพนายกฯ โดยศาลฯจะพิจารณาใน 3 ประเด็นคือ 1.ความเป็นรัฐมนตรีของน.ส.ยิ่งลักษณ์สิ้นสุดลงหรือไม่ในเมื่อยุบสภาแล้ว 2.น.ส.ยิ่งลักษณ์ทำผิดรธน.จนเป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงหรือไม่ และ 3.หากความเป็นรัฐมนตรีของน.ส.ยิ่งลักษณ์สิ้นสุดลง ครม.ทั้งชุดจะสิ้นสุดลงด้วยหรือไม่ และวันพรุ่งนี้ยังมีการประชุมของป.ป.ช. ซึ่งอาจมีคำตัดสินคดีจำนำข้าว การเมืองใกล้จุดแตกหัก อาจเกิดความรุนแรงหรือสุญญากาศหลังจากนี้
  (+) PTT เราคาดกำไรสุทธิ 1Q14 เพิ่ม 71% Q-Q ตามผลกำไรของ PTTEP ที่เพิ่มขึ้นเพราะมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน แต่ลดลง 27% Y-Y เพราะธุรกิจโรงกลั่นมีกำไรจากสต็อกน้ำมันน้อยกว่าปีก่อน ส่วนธุรกิจโรงแยกก๊าซของ PTT เอง คาดว่ากำไรจะเพิ่มขึ้นทั้ง Q-Q และ Y-Y จากทั้งราคาขายที่เพิ่มขึ้นและต้นทุนขายที่ลดลง เรายังคงคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2014-15 เติบโตเฉลี่ยเพียง 2.4% ต่อปี แต่ PE ปัจจุบันที่ 9.5 เท่า PBV 1.2 เท่า ต่ำกว่าภูมิภาคที่มี PE 10 เท่าและ PBV 1.5 เท่า จึงยังคงแนะนำซื้อ เป้าหมาย 347 บาท
  (+) CENTEL เราคาดกำไรปกติที่ 503 ล้านบาท +73% Q-Q, -24% Y-Y ถือว่าไม่โดดเด่นแต่ไม่ถึงกับเลวร้ายนักเพราะโรงแรมในมัลดีฟช่วยชดเชยผลกระทบธุรกิจโรงแรมและร้านอาหารในประเทศได้บ้าง ผลประกอบการจะค่อยๆฟื้นตั้งแต่ 2Q14 หลังยกเลิกพรก.ฉุกเฉิน เรายังคงเป้าหมาย 35 บาทและคงคำแนะนำซื้อ แต่ยังชอบ MINT มากสุดในกลุ่ม
  (-) ROJNA แนวโน้มผลประกอบการในครึ่งปีแรกยังแย่และมีโอกาสขาดทุนใน 1Q14 เพราะความล่าช้าในการทำเอกสารทำให้อาจไม่มีการโอนที่ดินเลย เราคงประมาณการกำไรปกติปีนี้โต 637% Y-Y เป็น 995 ล้านบาท จากการโอนที่ดินผืนใหญ่ 1.6 พันไร่ของ HONDA ซึ่งน่าจะอยู่ใน 2H14 แต่ปรับเป้าหมายลงเป็น 7.90 บาทจาก 8.10 บาท เพราะเพิ่มสมมติฐานการแปลงวอร์แรนท์มากขึ้น คำแนะนำยังเป็นซื้อเพราะ upside มากกว่า 10% แต่ราคาหุ้นระยะสั้นน่าจะยังถูกกดดันจากผลประกอบการใน 1H14
  (+) IRPC กำไรใกล้เคียงตลาดคาด หากตัดรายการพิเศษออกไป กำไรปกติใน 1Q14 ลดลง 72% Q-Q แต่เพิ่ม 146% Y-Y คิดเป็นเพียง 13% ของกำไรทั้งปีที่คาดโต 221% Y-Y แต่แนวโน้มกำไรจะดีขึ้นจากนี้ไปจากการปรับปรุงประสิทธิภาพโรงงานปิโตรเคมีและโรงกลั่นให้เป็นโรงงานที่ครบวงจรมากขึ้นภายใต้โครงการ Phoenix ราคาหุ้นซื้อขายเพียง PBV 1 เท่า เราแนะนำซื้อในฐานะที่เป็น Turnaround stock เป้าหมาย 4.50 บาท
   (0) ADVANC กำไรดีกว่าคาดเล็กน้อย หากตัดรายการพิเศษออก กำไรปกติใน 1Q14 เพิ่ม 7% Q-Q แต่ลดลง 2% Y-Y ตามค่าใช้จ่ายที่เปลี่ยนไป แต่รายได้ค่าบริการทรงตัวทั้ง Q-Q และ Y-Y เพราะแม้รายได้จาก Non-voice จะเพิ่มแรงแต่ถูกหักล้างด้วยรายได้จากเสียงที่ลดลง กำไรปกติใน 1Q14 คิดเป็น 23% ของกำไรทั้งปีที่คาดโต 11% Y-Y เราคงเป้าหมาย 253 บาท (DCF) ลดคำแนะนำเป็นถือ จากเดิมซื้อ เพราะ upside ที่แคบลง
   (0) KCE กำไรดีตามคาด หากไม่รวมกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน กำไรปกติ +20% Q-Q, +167% Y-Y เป็น 411 ล้านบาท เป็นไปตามคาด และคิดเป็น 25% ของประมาณการกำไรปกติทั้งปีที่คาดว่าจะโต 53% Y-Y คงราคาเป้าหมาย 38 บาท (PE 14 เท่า) ราคาหุ้นสะท้อนกำไรที่ดีของ 1Q14 ไปมากแล้ว แนะนำซื้ออ่อนตัว

  ตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนที่ผ่านมาร่วงลง 129.53 จุด หลังจากที่ทำจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ในวันก่อนหน้า โดยตลาดได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้น AIG รวมถึงแรงขายในหุ้น Twitter
  ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดในแดนลบเช่นกัน โดยประเด็นกดดันยังมาจากสถานการณ์ความรุนแรงในยูเครน ขณะที่ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนออกมามีทั้งดีและแย่สลับกันไป
  ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดเช้านี้ในแดนลบตามตลาดหุ้นในภูมิภาคอื่นจากบรรยากาศการลงทุนที่ค่อนข้างเป็นลบ
  ค่าเงินบาทแกว่งตัวออกทางข้าง คาดวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.30-32.42 บาท/ดอลลาร์
  ราคาน้ำมันดิบในตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. ขยับขึ้น 0.02 ดอลลาร์/บาร์เรล มาปิดที่ 99.50 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังมีคาดการณ์ว่าสต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะปรับตัวลดลงอีก
  ราคาทองคำในตลาด COMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. ขยับลง 0.70 ดอลลาร์/ออนซ์ มาปิดที่ 1,308.60   
  ดอลลาร์/ออนซ์ โดยมีแรงขายทำกำไรออกมาบ้าง แต่ปรับลงจำกัดเนื่องจากสถานการณ์ความตึงเครียดในยูเครนยังคงหนุน

Contact person : Somchai Anektaweepon Research Dept. Tel: 02-646-9967, 02-646-9852

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!