- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 07 May 2014 12:17
- Hits: 3287
บล.ยูโอบีเคย์เฮียน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
UOBKH แนวโน้มตลาดวันนี้ โดย ยศพณ แสงนิล, CFA : ผันผวนเชิงลบ
เราคาดว่า ตลาดไทยวันนี้มีโอกาสปรับลงไปแนวรับที่ 1400 จุด โดยมีแรงกดดันจากตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยเฉพาะดาวโจนส์ที่ถูกขายทำกำไรในหุ้นกลุ่มอินเตอร์เน็ต ประกอบกับความตึงเครียดในยูเครนยังคงมีอยู่ ส่วนประเด็นการเมืองในไทยมีความร้อนแรงมากขึ้น ซึ่งนักลงทุนกำลังรอผลการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ ว่านางสาวยิ่งลักษณ์จะต้องหลุดจากตำแหน่งหรือไม่ โดยความไม่แน่นอนที่ยังมีอยู่ในขณะนี้เป็นตัวกดดันตลาดให้พักฐานได้ต่อชั่วคราว
แนวรับ/แนวต้าน : 1400/1420
กลยุทธ์ : เป็นโอกาสที่จะสะสมหุ้นเป็นรายตัวเพื่อถือยาว หากดัชนีปรับลงแรง เน้นกลุ่มเดินเรือ โรงพยาบาล และพลังงานทดแทน
สัดส่วนการลงทุน : เงินสด 50%: พอร์ตหุ้น 50%
นักลงทุนระยะสั้น : KTB(23.25), TRUE(8.80)
นักลงทุนระยะยาว : EA(12.40), GFPT(18.20)
ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการลงทุน
ปัจจัยภายในประเทศ
- แผ่นดินไหวเชียงราย สะเทือนธุรกิจ “โรงแรม-คอนโด-ค้าปลีก” ลูกค้าแห่ยกเลิกห้องพัก ใช้บริการ ผู้ประกอบการอสังหาฯ คาดกำลังซื้อคอนโดชะลอตัวระยะสั้น ขณะที่ห้างค้าปลีก และโรงแรมบางแห่งในภาคเหนือ ประกาศหยุดดำเนินการ 1-2 วันรอพ้นช่วงอาฟเตอร์ช็อก โดยนายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) ภาคเหนือ เผยผลกระทบในเชิงธุรกิจ ยอมรับว่าลูกค้าอาจเกิดการยกเลิกในบางกลุ่มเป้าหมายที่อ่อนไหวกับสถานการณ์ อาทิ กลุ่มจัดประชุมสัมมนา ที่มีสัดส่วนราว 25% ของนักท่องเที่ยวทั้งหมด ซึ่งขณะนี้อัตราเข้าพักเฉลี่ยของ จ.เชียงใหม่ ในช่วงเดือน ม.ค-เม.ย อยู่ที่ประมาณ 50% เพิ่มขึ้นราว 15% ซึ่งเหตุการณ์ที่ผ่านมาถือว่ายังกระทบไม่มากเท่ากับ จ.เชียงราย
ปัจจัยต่างประเทศ
- สัญญาน้ำมันดิบ ส่งมอบเดือน มิ.ย.ขยับขึ้น 2 เซนต์ ปิดที่ 99.5 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ตลาดนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (6 พ.ค.) เพราะได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะปรับตัวลดลงอีก นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนจากรายงานที่ระบุว่าสหรัฐมียอดขาดดุลการค้าลดลง
- ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,401.02 จุด ร่วงลง 129.53 จุด หรือ -0.78%
ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (6 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากดาวโจนส์ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงก่อนหน้านี้ โดยนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มอินเตอร์เน็ตและกลุ่มการเงินมากที่สุด