Details

Category: บทวิเคราะห์

Published: Wednesday, 07 May 2014 12:23

Hits: 3562

บล.โกลเบล็ก : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

Market View : ปรับขึ้นตามUptrend Line
Technical : แนวรับ : 1,412 / 1,400 แนวต้าน 1,428 / 1,440
หุ้นแนะนำพิเศษ :PTTGCแนวรับ 68.5/69 แนวต้าน71.25/73
หุ้นเด่นรายวัน : UV CPN SNC

  วันอังคารตลาดหุ้นไทยปิดลบ ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,404.01 จุด ลดลง 17.47 จุด (-1.23%) มูลค่าการซื้อขาย 27,011.60 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 366.60 ล้านบาท
  แนวโน้มตลาดหุ้นไทย ทางฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็กฯ คาดมีแนวโน้มผันผวนในกรอบ 1,385-1,428(1,440) ตลาดมีความกังวลต่อคำวิจิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ (12.00 น.) ซึ่งอาจเกิดการเคลื่อนไหวใหญ่ของกลุ่มผู้ชุมนุม อีกปัจจัยคือเรื่องความรุนแรงที่เกิดขึ้นในจังหวัดหาดใหญ่ ส่งผลให้นักลงทุนมีแนวโน้มรอดูสถานการณ์หรือกลับเข้าซื้อเมื่อปรับลงแรง ในขณะที่ SET50 การปรับตัวระยะสั้นเน้นยืนแนวรับจิตวิทยา 950 เป็นแนวรับหลัก ต่ำกว่าลงมาอาจเป็นการสิ้นสุดขาขึ้น แนวรับต่อไป 940-936 GFM14 เก็งกำไรในกรอบ 19,990-20,370 GFQ14 เก็งกำไรในกรอบ 20,050-20,430
  กลยุทธ์ การปรับตัวลงแรงในขณะที่ปริมาณการซื้อขายไม่เพิ่มขึ้นตามกันคาดจะเกิดภาวะPanicที่เกิดจากปัจจัยข่าว การปรับตัวมีแนวรับสำคัญ 1,395-1,400 เป็นจุดซื้อเก็งกำไรเล่นรอบบางส่วน หากปัจจัยลบไม่เพิ่มขนาดขึ้นแนวโน้มตลาดได้ปรับตัวตอบรับไว้แล้ว ซึ่งมีโอกาสที่จะกลับตัวขึ้น โดยหุ้นในกลุ่มหลัก กลุ่มพลังงาน PTT PTTEP PTTGC เป็นเป้าหมายหลักของการปรับตัวเข้าซื้อ BANPUแนวรับสำคัญ 28.75 กลุ่มสื่อสารปรับตัวลงแรงซื้อเก็งกำไรระยะสั้น ADVANC TRUE DTAC หุ้นรายหลักทรัพย์ KTIS CPN ROBINS SMT ระยะกลาง ถือ หากปรับลงแรงซื้อเพิ่ม

หุ้นแนะนำพิเศษ
  PTTGC (ปิด 69.75 ซื้อ เป้าปี 57: 84 บาท) เราคาดว่า PTTGC จะแจ้งกำไรสุทธิ 1Q57 ที่ 6,300 ล้านบาทหดตัว 15%qoq และ 48%yoy กำไรสุทธิที่มีแนวโน้มลดลงหลักๆมาจากการหดตัวของกำไรในธุรกิจปิโตรเคมี ซึ่งไตรมาสนี้ธุรกิจปิโตรฯสายโอเลฟินด์ถูกกดดันจากการหยุดซ่อมหน่วยผลิตหลายหน่วย ขณะที่สายอะโรเมติกซ์ถูกกดดันจากราคาและส่วนต่างของ PX ที่หดตัวแรงเนื่องจากตลาด PX ยังอยู่ในภาวะ Over Supply อย่างไรก็ตามเรามองว่าผลประกอบการของ PTTGC ได้ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้วและคาดว่าจะเริ่มเห็นผลประกอบการฟื้นตัวขึ้นตั้งแต่ 2Q57 โดยมีแรงหนุนสำคัญมาจากการผลิตของสายโอเลฟินส์ที่เพิ่มขึ้นหลังหน่วยผลิตที่หยุดซ่อมใน 1Q57 จะกลับมาทำการตามปกติ

หุ้นเด่นรายวัน
  UV (ราคาปิด 7.55 ซื้อเก็งกำไร) เตรียมขายอาคารสำนักงาน "ปาร์คเวนเชอร์ ดิ อีโคเพล็กซ์" เข้ากองทุนมูลค่ากว่า 5 พันล้านบาทราว 2Q57 พร้อมบุ๊กกำไรพิเศษ แถมกินส่วนแบ่งกำไรพิเศษจากบริษัทลูก 170 ล้านบาท ส่วน 1Q57 งบสูงเป็นเท่าตัว หนุนทั้งปี 2557 ฟันกำไรทุบสถิติ (ที่มา : ทันหุ้น)
  CPN (ราคาปิด 45 ซื้อ เป้าหมาย 65) ส่งซิกไตรมาส 1/2557 กำไรพุ่ง หลังโกยรายได้โรงแรมภูธรเข้ากระเป๋า จับตาไตรมาส 2/2557 งบสูงเป็นประวัติการณ์ บุ๊กพิเศษขายสินทรัพย์เข้ากอง CPNRF 5 พันล้านบาท แถมรับอานิสงส์ย้ายการชุมนุม หนุนยอดลูกค้าเซ็นทรัลเวิลด์กลับมาคึกคัก ทุ่มงบ 1.5 หมื่นล้านบาท ผุดศูนย์การค้าแห่งใหม่ ดันรายได้ทั้งปีโต 15% (ที่มา : ทันหุ้น)
  SNC (ราคาปิด 17.20 ซื้อเก็งกำไร) ผู้ผลิตชิ้นส่วนเครื่องปรับอากาศประกาศปรับเป้าหมายการเติบโตของรายได้ ปีนี้ เป็น 15% จากเดิม 10% เนื่องจากผลประกอบการใน 1Q57 ดีกว่าที่คาด รวมทั้งในปีนี้ บริษัทจะเริ่มรับรู้รายได้จากบริษัทร่วมทุน ขณะเดียวกัน คาดการณ์ว่ากำไรสุทธิปีนี้จะเติบโตในระดับ 10% จากปีที่แล้ว (ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ)

รายชื่อหลักทรัพย์ที่ติดเกณฑ์บัญชี Cash Balance
* MAX/ TCC / TYCN มีผลบังคับใช้ 16 เม.ย. - 23 พ.ค. 57
* RASA มีผลบังคับใช้ 21 เม.ย. - 30 พ.ค. 57
* EFORL มีผลบังคับใช้ 28 เม.ย. - 6 มิ.ย. 57
* EVER/ IFEC / OCEAN / SUPER มีผลบังคับใช้ 6 พ.ค.-13 มิ.ย.
***เนื่องจากการลงทุนในหลักทรัพย์ ดังกล่าวมีการซื้อขายผิดไปจากสภาพปกติของตลาดดังนั้นผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
ตลาดหุ้นดาวโจนส์ : ลดลง 129.53 จุด
  ดัชนีตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิดตลาดปรับตัวลดลง 129.53 จุด ภาพรวมการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน โดยดัชนีปรับตัวสูงขึ้นในช่วงแรกของการซื้อขายเนื่องจากนักลงทุนขานรับรายงานยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐเดือนมี.ค.ลดลง 3.6% หลังยอดส่งออกของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.1% สู่ระดับ 1.939 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.56 อย่างไรก็ตามดัชนีกลับมาลดลงและปิดตลาดในแดนลบเนื่องจากนักลงทุนเข้ามาเทขายทำกำไรโดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มการเงินและกลุ่มเทคโนโลยี อาทิ หุ้นอเมริกัน อินเตอร์เนชันแนล กรุ๊ป (เอไอจี) ดิ่งลง 4.14% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่อ่อนแอเกินคาดในไตรมาสแรกของปีนี้ หุ้นทวิตเตอร์ลดลง 17.81% นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลต่อสถานการณ์ในยูเครนที่มีแนวโน้มจะรุนแรงมากขึ้น ทำให้ปิดตลาดดัชนีดาวโจนส์ลดลง 129.53 จุด หรือ -0.78% ปิดที่ 16,401.02 จุด ดัชนี NASDAQ ลดลง 57.30 จุด หรือ -1.38% ปิดที่ 4,080.76 จุด ดัชนี S&P500 ลดลง 16.94 จุด หรือ -0.90%ปิดที่ 1,867.72 จุด

ตลาดน้ำมัน NYMEX : เพิ่มขึ้น 2 เซนต์
  ราคาน้ำมันดิบที่ตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเพียง 2 เซนต์ ตลาดได้แรงหนุนจากคาดการณ์ สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะปรับตัวลดลง 1.8 ล้านบาร์เรล รายงานยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐเดือนมี.ค.ลดลง 3.6% หลังยอดส่งออกของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.1% สู่ระดับ 1.939 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.56 และวิตกกังวลต่อสถานการณ์ในยูเครน หลังเหตุการณ์ต่างๆมีแนวโน้มรุนแรงขึ้น อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเนื่องจากตลาดมีแรงกดดันจากข่าวที่ว่าลิเบียจะสามารถส่งออกน้ำมันดิบได้เพิ่มขึ้น หลังท่าเรือ Zueitina ซึ่งถูกปิดเป็นเวลานานกว่า 10 เดือนสามารถกลับมาดำเนินการได้ตามปกติ ทำให้ปิดตลาดราคาน้ำมันดิบที่ตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 2 เซนต์ ปิดที่ 99.5 ดอลลาร์/บาร์เรลส่วนน้ำมันดิบ BRENT ส่งมอบเดือนมิ.ย.ลดลง 66 เซนต์ ปิดที่ 107.06 ดอลลาร์/บาร์เรล

ตลาดหุ้นนิกเกอิ
  การเคลื่อนไหวระยะสั้นที่ผ่านมาระดับดัชนีทดสอบไม่ผ่านเส้นค่าเฉลี่ย 75 วัน 14,672 และมีโอกาสที่จะสร้างกรอบการแกว่งตัวขนาดใหญ่ ระหว่างวันวันนี้ตลาดมีแนวรับสำคัญแนวรับจุดต่ำแท่งเทียนเดิม 14,224 การปรับตัวลงอาจมีแรงกดดันจากปัจจัยภายเรื่องความตึงเครียดในยูเครน รวมทั้งความกังวลเกี่ยวกับการปรับเพิ่มภาษี ในขณะที่แนวรับต่อไป 14,000 เป็นจุดที่คาดว่าจะเกิดแรงซื้อระยะสั้นกลับเข้ามา

ตลาดหุ้นฮั่งเส็ง
  การปรับตัวลงรอบนี้เป็นการแกว่งตัวตามกันลงมาจากเส้นค่าเฉลี่ยที่เรียงตัวในภาวะBearish ระยะสั้นการกลับตัวขึ้นยืนเหนือระดับ 22,000 ได้อย่างมีนัยสำคัญจะเป็นการส่งสัญญาณทางเทคนิคเชิงบวกถึงโอกาสที่จะหักล้างแนวโน้มขาลงทีเกิดขึ้นจากแท่งเทียนคู่ (ที่ระดับดัชนี 23,225) ในขณะที่การปรับตัวจะมีแนวรับNeck line และแนวรับ 2/3 21,720 ที่คาดว่าจะเกิดแรงซื้อเก็งกำไรจากภาวะขายมาก และกลับตัวขึ้นทางเทคนิค

Analyst :
ธวัชชัย 02-6725993 tawatchai@globlex.co.th
วิลาสินี 02-6725937 wilasinee@globlex.co.th
อาทิตย์ 02-6725946artit@globlex.co.th