WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล.เคเคเทรด : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

HIGHLIGHT ต่างชาติขายทั้งหุ้นและบอนด์ ดีดไปปิดเหนือ 1,410 จุดไม่ได้มองแค่ Technical Rebound
SET View
        ประเด็นหลักวันนี้ ความกังวลเกี่ยวกับโอกาสเกิดการพักตัวในรูปแบบ 'Sell in May and Go Away'อีกครั้งของตลาดหุ้นไทยใน พ.ค.2557 หลังจากที่นายกฯยิ่งลักษณ์ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นสภาพไป ส่งผลให้วานนี้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิออกมาทั้งตลาดหุ้น และพันธบัตรของไทยราว 2.0 และ 7.6 พันล้านบาท ขณะที่นักลงทุนต่างชาติเริ่มมีสัญญาณของการชะลอการเข้าซื้อตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมาแล้ว สะท้อนออกมาจากสัดส่วนการถือหุ้นของนักลงทุนต่างชาติใน SET50 (Actual+NVDR) ทรงตัวที่ระดับ 38.4% เป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกัน โดยหุ้นใน SET50 ที่สัดส่วนการถือหุ้นของนักลงทุนต่างชาติลดลงมากที่สุดในสัปดาห์ที่ผ่านมาได้แก่ JAS (-0.32%), CPF (-0.21%), TUF (-0.11%), DTAC (-0.11%) และ MINT (-0.10%) ดังนั้นในเชิงของแนวโน้มระยะสั้นกรณีที่ SET ยังคงไม่สามารถกลับไปปิดเหนือ 1,410 จุดได้ เรายังให้น้ำหนักกับโอกาสที่ SET จะลงไปแกว่งตัวในกรอบ 1,330-1,300 จุดอีกครั้งใน พ.ค.2557
        ขณะที่ในส่วนของตลาดหุ้นภูมิภาควันนี้มีปัจจัยที่ต้องติดตามคือการประกาศตัวเลขการส่งออกเดือน เม.ย.2557 ของจีน ซึ่งเราคาดว่าจะออกมาติดลบเพิ่มขึ้นอีกราว -7.5% YoY จาก -6.6% YoY ในเดือนก่อนหน้า อย่างไรก็ดีหากในการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันนี้มีการส่งสัญญาณให้เห็นถึงความเป็นไปได้ที่จะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมออกมาในระยะ 1 เดือนข้างหน้า เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะเงินฝืด (Deflation) หลังจากที่ล่าสุด EU ออกมาปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจยุโรปในปีนี้ลงมาอยู่ที่ 1.7% จาก 1.8% และปรับลดการคาดการณ์เงินเฟ้อในปีนี้ลงจาก 1.0% มาอยู่ที่ 0.8% การชะลอตัวลงของตัวเลขการส่งออกจีนอาจจะกระทบต่อทิศทางของตลาดหุ้นภูมิภาคไม่มาก ในทางตรงกันข้ามถ้าไม่มีความคืบหน้าใดๆออกมาจาก ECB ประเด็นดังกล่าวจะถือเป็นแรงกดดันที่จะส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียพักตัวอย่างต่อเนื่องในเดือน พ.ค.2557 ได้
       กลยุทธ์การลงทุน การลงทุนระยะสั้น (ไม่เกิน 1 สัปดาห์) กรณีที่ SET ยังกลับไปปิดเหนือ 1,410 จุดไม่ได้ แนะนำ “ ดีดขึ้นขาย” กลับมาถือเงินสด 100% ขณะที่การลงทุนระยะกลาง (3-6 เดือน) แนะนำ “ถือหุ้น 50% ของพอร์ต” ในกลุ่ม “Value Investing” ได้แก่ AP, SIRI, HEMRAJ, AAV, MAJOR, ESSO และ SAMART

 

Stock Picks
       TTCL (+ ) จากงานในมือปัจจุบันที่ 2.6 หมื่นล้านบาท และมีงานใหม่ที่อยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญาในปี 2557 อีกราว 3 หมื่นล้านบาท ทำให้เรามองว่าผลการดำเนินงานในปี 2557-2558 ของบริษัทจะเพิ่มขึ้นโดดเด่นที่สุดในกลุ่มฯ โดยที่เราประเมินรายได้ในปี 2557 และ 2558 จะเพิ่มขึ้น 30% และ 20% YoY รวมทั้งประเมินกำไรสุทธิในปี 2557 และ 2558 เพิ่มขึ้น 42% และ 36% YoY ตามลำดับ ขณะที่ประเด็นการก่อสร้าง และลงทุนในโรงไฟฟ้าถ่านหินขนาด 1,000 MW ในพม่าที่คาดว่าจะได้ข้อสรุปใน มิ.ย.2557 ประเมินมูลค่าเหมาะสมที่ 39.00 บาท แนะนำ “ซื้อ”
KBANK (+ ) เป็นหุ้นกลุ่มธนาคารที่นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิผ่าน NVDR สูงที่สุดวานนี้ราว 81.9 ล้านบาท ขณะที่ในเชิงพื้นฐานการที่ธนาคารมีนโยบายที่เน้นความระมัดระวัง และควบคุมการเติบโตในช่วงที่ผ่านมา ทำให้เรามองความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์ไว้ค่อนข้างจำกัด จุดเด่นของ KBANK อยู่ที่ความสามารถในการทำกำไรบนระดับ ROE ที่เราคาดในปี 2557 ที่ 18% เทียบกับค่าเฉลี่ยกลุ่มที่ 15% และธนาคารมีสัดส่วนรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยต่อรายได้รวมสูง ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบจากการชะลอตัวลงของสินเชื่อในภาพรวมได้ IAA Consensus ประเมินมูลค่าเหมาะสมที่ 204.00 บาท ในเชิงกลยุทธ์แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร”

 

Technical Plays
       ดัชนี หุ้นเมื่อวันก่อนปิดทรงตัว คาดว่าจะแกว่งตัวในกรอบ 1390-1410 จุด อยู่ใต้ 1415 จุด ยังเป็นแนวโน้มแกว่งตัวขาลงระยะสั้น มีโอกาสที่ดัชนีหุ้นจะเข้าสู่การแกว่งตัวต่ออีก 1-2 วัน โอกาสทาง
ขาลงยังมีอยู่ แนวรับระยะสั้น 1390 , 1380 จุด

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!