WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

คาด SET ยังมีสิทธิแกว่งลงอีก ดังนั้นเทรดดิ้งสั้นควรขายช่วงดีด...
       กลยุทธ์ : แม้คำตัดสินของศาลฯ จะเป็นตามคาด แต่การเมืองยังไม่นิ่ง ทำให้ FSS คาดว่า SET ยังมีสิทธิผันผวนและแกว่งลงต่อได้ ดังนั้นตลาดดีดขึ้นจึงถือเป็นจังหวะในการขายทำกำไรสำหรับเทรดดิ้งตามรอบเช่นเดิม ส่วนจังหวะเลือกหุ้นซื้อยังแนะนำให้รอช่วงตลาดปรับลง
หุ้นเด่นทางเทคนิค : AIT, TH, QH(buy back)
       แนวโน้ม : SET ปรับตัวลงต่อเนื่องในช่วงเช้าวานนี้ ตามภาวะตลาดหุ้นต่างประเทศ และเพื่อรอดูผลคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญกรณีนายกฯ โยกย้ายเลขาฯ สมช.โดยมิชอบ แต่เมื่อคำตัดสินออกมาในช่วงบ่ายเป็นไปตามคาดคือนายกฯ และ รมต.ที่เกี่ยวข้องต้องพ้นจากตำแหน่งจึงทำให้มีแรงซื้อกลับเข้ามาหนุนตลาดให้พลิกกลับขึ้นมาเหลือติดลบเพียงเล็กน้อยได้ เพราะนักลงทุนคาดหวังว่าสถานการณ์การเมืองอาจจะผ่อนคลายลง แต่เนื่องจากการโยกย้ายเลขาฯ สมช. เกิดขึ้นตั้งแต่ ครม.ยิ่งลักษณ์1 จึงทำให้ปัจจุบันยังมี ครม.รักษาการเหลืออีกถึง 25 คน ซึ่ง ครม. ที่เหลือระบุว่าจะยังเดินหน้าการเลือกตั้งต่อเนื่อง ทำให้การเมืองในบ้านเรายังคงอยู่ในภาวะเดิมต่อไป

      ขณะที่กลุ่มต่อต้านรัฐบาลขยับวันชุมนุมใหญ่มาเป็นวันศุกร์ที่ 9 พ.ค. ซึ่งจะเป็นวันที่ ครม.นัด กกต.มาประชุมหารือกำหนดวันเลือกตั้งอีกครั้งด้วย นอกจากนี้ในวันนี้(8 พ.ค.) ยังต้องรอติดตามการพิจารณาชี้มูลความผิดอดีตนายกฯ กรณีโครงการจำนำข้าวจาก ปปช.ด้วย เพราะอาจส่งผลให้เกิดการเผชิญหน้าจากกลุ่มสนับสนุนรัฐบาลได้ ดังนั้นแม้ว่าเช้านี้ตลาดหุ้นต่างประเทศจะขยับบวกเพื่อขานรับถ้อยแถลงของประธานเฟดเมื่อคืนนี้ แต่กรอบบวกยังจำกัด จึงทำให้ FSS คาดว่า SET จะยังอยู่ในช่วงแกว่งลงต่อเนื่องได้
        แนวรับ 1400-1395 , 1390-1380 จุด แนวต้าน 1405-1410 , 1413-1416 จุด
Fund Flow วานนี้ไหลออกจากตลาดหุ้นภูมิภาคในปริมาณที่หนาแน่น โดยไหลออกจากเกาหลีใต้ US$370.7 ล้าน ไต้หวัน US$124 ล้าน และไทย US$62.4 ล้าน แต่ไหลเข้าตลาดหุ้นอินโดนีเซีย US$29.5 ล้าน ฟิลิปปินส์ US$15.8 ล้าน และเวียดนาม US$2.4 ล้าน ค่าเงินภูมิภาคเช้านี้อ่อนค่าเล็กน้อยตามค่าเงินยูโร Flow น่าจะไหลออกต่อ

ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
       (-) ครม.แต่งตั้งนายนิวัฒน์ธำรงรักษาการนายกฯแทนน.ส.ยิ่งลักษณ์ หลังศาลรธน.มีมติเอกฉันท์ให้น.ส.ยิ่งลักษณ์และรัฐมนตรีอีก 9 คนที่เกี่ยวข้องในการย้ายนายถวิล พ้นหน้าที่เพราะเป็นการกระทำผิดรธน. หลังจากนั้น Moody’s ออกมาให้ความเห็นในเชิง Credit Negative ส่งผลให้ค่าเงินบาทในช่วงบ่ายอ่อนค่าและต่อเนื่องถึงเช้านี้ เช่นเดียวกับ CDS ขยับขึ้น 7bps จากจุดต่ำปลายเดือนก่อน คำตัดสินของศาลฯไม่ทำให้เศรษฐกิจแย่กว่าเดิม สิ่งสำคัญที่มีผลต่อเศรษฐกิจคือการมีรัฐบาลที่มีอำนาจเต็ม ซึ่งวานนี้กกต.มีมติยังไม่ออกพ.ร.ฎ.เลือกตั้งใหม่ ถ้ากกต.และผู้เกี่ยวข้องสามารถตกลงกันได้ทันก่อน 22 พ.ค. ซึ่งเป็นเวลาที่กำหนดให้ พ.ร.ฎ.ดังกล่าวมีผลบังคับใช้ การเลือกตั้งที่คาดว่าจะเป็น 20 ก.ค. ยังมีความเป็นไปได้ และวันนี้ติดตามการคำตัดสินคดีจำนำข้าวของป.ป.ช. ซึ่งไม่น่ามีผลต่อตลาดเพราะแม้นายนิวัฒน์ธำรงถูกตัดสินว่าผิด ก็ยังมีรองนายกฯคนต่อไป
        (-) กำไรที่ประกาศแล้ว ส่วนใหญ่น่าผิดหวัง กำไร 1Q14 ของ Real sector ไม่รวมกลุ่มแบงก์ที่รายงานแล้ว ปรากฎว่าเพิ่ม 12% จากฐานต่ำในไตรมาสก่อน แต่ลดลงถึง 17% Y-Y กลุ่มที่กำไรลดลงน่าผิดหวังได้แก่กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคในประเทศ เช่นวัสดุก่อสร้าง และค้าปลีก ส่วนกลุ่มที่กำไรโตดีมากคืออิเล็คทรอนิคส์ แต่ PE ก็เริ่มแพง
       (+) CPALL กำไรตามคาดแต่ SSS Growth พลิกเป็นติดลบ CPALL รายงานกำไรสุทธิเพิ่ม 32% Q-Q แต่ลดลง  15% Y-Y ส่วนกำไรปกติเพิ่ม 15% Q-Q จากฐานต่ำในไตรมาสก่อนที่มีรายซื้อ MAKRO แต่ลดลง 21% Y-Y จากภาระดอกเบี้ยที่สูงขึ้นและยังมีค่าที่ปรึกษาดีลซื้อ MAKRO ที่ทยอยตัดจ่าย ชดเชยไม่ได้กับกำไรของ MAKRO ที่รวมเข้ามาเต็มไตรมาส ส่วน SSSG พลิกเป็นติดลบเป็นครั้งแรก -1.1% Y-Y กำไรใน 1Q14 คิดเป็น 22% ของกำไรทั้งปีคาดโต 20% Y-Y เราคงเป้าหมาย 55 บาท แนะนำซื้อลงทุน
      (+) PTTGC กำไรตามคาด กำไรสุทธิลดลง 15% Q-Q และ 48% Y-Y ส่วนกำไรปกติลดลง 11% Q-Q และ 42% Y-Y เพราะธุรกิจอะโรเมติกส์มีกำไรลดลง ส่วนกำไรจากธุรกิจโอเลฟินส์ก็ลดลงเพราะโรงงานปิดซ่อมบำรุง ชดเชยไม่ได้กับโรงกลั่นที่ดีขึ้น กำไรใน 1Q14 คิดเป็น 17% ของกำไรสุทธิทั้งปีที่คาดโต 10% Y-Y แต่แนวโน้มกำไรจะดีขึ้นในไตรมาสที่เหลือ ปัจจุบันมี PE เพียง 8.6 เท่าและ PBV 1.2 เท่า ต่ำกว่าภูมิภาคที่มี PE 9 เท่า PBV 1.5 เท่า แนะนำซื้อ และคงราคาเป้าหมาย 80 บาท
        (+) SAWAD เริ่มเทรดวันนี้ บริษัทประกอบธุรกิจให้สินเชื่อทะเบียนรถ ภายใต้สโลแกน “มีบ้านมีรถ เงินสดทันใจ” เน้นตลาดต่างจังหวัดซึ่งมีโอกาสเติบโตสูงเพราะเข้าถึงสินเชื่อของธนาคารได้ยาก กำไรสุทธิในปี 2010-13 โตเฉลี่ย 630% ต่อปี (กำไรสุทธิปี 2013 โต 42%) จากการขยายสินเชื่อ คุมรายจ่าย หนี้สูญลดลง และอัตราภาษีที่ลดลง สำหรับปี 2014 เราคาดกำไรสุทธิโต 21% จากการขยายสินเชื่อและคุมรายจ่าย อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงคือคุณภาพหนี้ NPL ปี 2013 เพิ่มขึ้นเป็น 5.5% ของสินเชื่อรวม และมีค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเพียง 58% ของลูกหนี้คงค้างที่มากกว่า 3 งวด ปัจจุบันภาระหนี้ครัวเรือนสูงอาจส่งผลต่อความสามารถในการชำระหนี้ เราประเมินราคาเป้าหมาย 8.75 บาท อิง PE 12.5 เท่า ณ ราคาจอง 6.90 บาทคิดเป็น PE 9.8 เท่า ต่ำกว่ากลุ่มที่อยู่ที่ 10-12 เท่า (FSS เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น IPO ของ SAWAD)

  ตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนที่ผ่านมาพลิกกลับมาปิดบวกได้ 117.52 จุด จากสถานการณ์ในยูเครนที่เริ่มผ่อนคลายลงบ้าง รวมถึงถ้อยคำแถลงของนางเจเน็ต เยลเลน ที่ออกมาเชิงบวกต่อแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐที่ต่อเนื่อง
   ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดสลับมีทั้งบวกและลบหลังสถานการณ์ความตึงเครียดในยูเครนเริ่มลดความร้อนแรงลง จากการที่ประธานาธิบดีของรัสเซียแสดงความต้องการที่จะหารือกับกลุ่มผู้นำของภูมิภาค
  ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดเช้านี้ในแดนบวกได้ตามตลาดหุ้นในภูมิภาคอื่นจากบรรยากาศการลงทุนที่เป็นบวก
  ค่าเงินบาทแกว่งตัวอ่อนค่าลง คาดวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.47-32.50 บาท/ดอลลาร์
   ราคาน้ำมันดิบในตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. พุ่งขึ้น 1.27 ดอลลาร์/บาร์เรล มาปิดที่ 100.77 ดอลลาร์/บาร์เรล หละง EIA เปิดเผยตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบที่ลดลงสวนคาดการณ์ของตลาด รวมถึงถ้อยคำแถลงของประธาน FED ที่กล่าวว่าเศรษฐกิจสหรัฐกำลังฟื้นตัวต่อเนื่อง
  ราคาทองคำในตลาด COMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. ร่วงแรง 19.70 ดอลลาร์/ออนซ์ มาปิดที่ 1,288.90 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครนผ่อนคลาย รวมถึงการที่ประธาน FED กล่าวว่าเศรษฐกิจสหรัฐกำลังฟื้นตัวต่อเนื่องและจะทะยอยลดขนาดวงเงินซื้อพันธบัตรลง
Contact person : Somchai Anektaweepon Research Dept. Tel: 02-646-9967, 02-646-9852

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!