Details

Category: บทวิเคราะห์

Published: Thursday, 08 May 2014 16:53

Hits: 3360

บล.ทิสโก้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET -1.40 จุด ตีตื้น คำตัดสินศาลรธน.ไม่เกิดสุญญากาศ
        SET ปรับลงหลุด 1400 จุดทันทีที่เปิดตลาด และแกว่งทรงตัวในแดนลบตลอดภาคเช้า ก่อนที่จะมีแรงซื้อหุ้นคืน หลังศาลรธน.วินิจฉัยว่านายกฯ ยิ่งลักษณ์ และรมต. 9 ท่านในครม.สมัยโยกย้ายคุณถวิลเท่านั้นที่สิ้นสุดสภาพ ทำให้การเมืองไม่เกิดภาวะสุญญากาศอย่างที่ตลาดกังวลไว้ ต่างชาติพลิกขายสุทธิ 2.01 พันลบ.

ทิศทางตลาดวันนี้ : เด้งตามหุ้นโลก แต่กรอบขึ้นจำกัด รอผลประชุมป.ป.ช.วันนี้
        หุ้นโลกเมื่อวาน (7 พ.ค.) ดีดกลับ หลังปธน.รัสเซียแถลงข่าวถอนทหารบริเวณชายแดนยูเครน และอยากหารือกับผู้นำโลกในการยุติปัญหายูเครน แม้คำตัดสินศาลรธน.ไม่ทำให้การเมืองเกิดภาวะสุญญากาศ แต่วิบากกรรมยังไม่หมดไป โดยเฉพาะวันนี้ (8 พ.ค.) ต้องติดตามการประชุม ป.ป.ช.จะมีการชี้มูลความผิดในโครงการจำนำข้าวหรือไม่ จะเป็นรายบุคคลหรือจะพ่วงด้วยครม. ด้านคุณสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ประกาศเลื่อนวันเผด็จศึกเร็วขึ้น จากเดิม 14 พ.ค. เป็น 9 พ.ค. ซึ่งไล่เลี่ยกันกับกลุ่ม นปช.ที่จะนัดชุมนุมใหญ่ 10 พ.ค. นี้ ทำให้มีความเสี่ยงที่จะเกิดเหตุการณ์วุ่นวายขึ้นได้จากการเคลื่อนไหวของการชุมนุมทั้ง 2 ฝ่าย ล่าสุด สัญญาณการใช้ความรุนแรงเกิดขึ้นทันที หลังคำตัดสินศาลรธน. โดยเกิดเหตุยิงระเบิด M79 ที่รพ.จุฬาภรณ์ และธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ รวมทั้งการปาระเบิดที่บ้านพักของ 1 ใน 9 ตุลาการศาลรธน. มอง SET อาจฟื้นตัวตามหุ้นโลกที่รีบาวด์ แต่เชื่อไปไม่ไกล มีแนวต้าน 1410-15 การเมืองยังกดดัน แนวรับ 1395-1400

กลยุทธ์การลงทุน : ขึ้นเน้นขายลดพอร์ต/ชะลอการลงทุน การเมืองไม่แน่นอนสูง
       เรายังคงมุมมองเดิม คือ การเมืองไทยเดือน พ.ค. มีแนวโน้มยื้อและเสี่ยงเกิดเหตุรุนแรง (ฝ่ายรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยต้องการเดินหน้าเลือกตั้งให้สำเร็จ แต่ก็มีความเสี่ยงที่จะเป็นการเลือกตั้งที่ไม่เรียบร้อย ทำให้การเมืองตกอยู่ในวังวนเดิมเหมือนช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา, ฝ่าย กปปส. ต้องการปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง และจะสู้ไม่ถอยจนกว่าจะได้ชัยชนะ) ซึ่งจะกระทบประมาณการ GDP และกำไรบจ.อาจถูกหั่นลงอีกรอบ เพราะฉะนั้น การดีดกลับของ SET ที่สูงกว่า 1400 จุด เป็นจังหวะขายลดพอร์ต รอซื้อคืนช่วงอ่อนตัว รอบนี้ ประเมิน SET แถว 1375-80 จุดมีความแข็งแกร่งพอที่จะรองรับความเสี่ยงการเมืองในระยะสั้น เนื่องจาก (1) เป็นแนวรับสำคัญทางปัจจัยเทคนิค และ (2) เป็นต้นทุนการซื้อสะสมของนักลงทุนต่างชาติรอบนี้ ธีมการลงทุนช่วงนี้ ยังเกาะติดกับหุ้นงบ Q1 จะออกมาดี หุ้นเด่น (Top picks) สำหรับเดือน พ.ค. คือ AMATA, ANAN, HANA, IVL, SPALI, STPI, TVO นอกจากนี้ การร่วงของราคาหุ้นหลายตัวในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้หุ้น HEMRAJ (มูลค่าเหมาะสม 5 บาท), GFPT (CONSENSUS 16.4 บาท) น่าสนใจต่อการลงทุนระยะสั้น โดยทั้งคู่ คาดงบ Q1 จะโต 12% YoY และ 2 เท่า YoY ตามลำดับ (รายละเอียดเพิ่มเติมดู กลยุทธ์การลงทุน หน้า 2)

หุ้นเด่นรายวัน : ไม่มี
ปัจจัยติดตาม
วันที่ ปท. เหตุการณ์
8 พ.ค. TH ตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของไทยในเดือน เม.ย.
CH ตัวเลขส่งออก-นำเข้า และดุลการค้าของจีนในเดือน เม.ย.
EU ประชุมธนาคารกลางสหภาพยุโรป (ECB) และธนาคารกลางอังกฤษ (BOE)
GE ตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของเยอรมันในเดือน มี.ค.
US ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์ สิ้นสุดวันที่ 3 พ.ค.
9 พ.ค. TH กปปส.นัดชุมนุมใหญ่ ทวงคืนอำนาจอธิปไตย (ร่นเวลาเร็วขึ้นจากกำหนดเดิม 14 พ.ค.)
JP ตัวเลขดัชนีชี้นำเศรษฐกิจของญี่ปุ่น ในเดือน มี.ค. (เบื้องต้น)
CH ตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค-ผู้ผลิตของจีนในเดือน เม.ย.
GE ตัวเลขส่งออก-นำเข้า, ดุลการค้า และดุลบัญชีเดินสะพัดของเยอรมันในเดือน มี.ค.
US ตัวเลขสต็อกสินค้าภาคค้าส่งของสหรัฐฯ ในเดือน มี.ค.
10 พ.ค. TH นปช.นัดชุมนุมแบบยืดเยื้อ
ที่มา : Bloomberg, DB, TISCO Research
อภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล   เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 18171    02-633-6467   : apichatp@tisco.co.th
ธนพล บำรุงพงศ์      เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 46537    02-633-6471   : tanaphon@tisco.co.th