WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล.โกลเบล็ก : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

Market View : แนวรับ 1,400-1,395
Technical : แนวรับ : 1,395 / 1,385 แนวต้าน 1,410 / 1,418
หุ้นแนะนำพิเศษ :KTB แนวรับ 17/17.7 แนวต้าน18.7/19.7


หุ้นเด่นรายวัน : BANPU TNDT AGE SAWAD
     วันพุธตลาดหุ้นไทยปิดลบ ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,402.61 จุด ลดลง 1.40 จุด(-0.10%) มูลค่าการซื้อขาย 32,829.21 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติพลิกเป็นขายสุทธิ 2,018.51 ล้านบาท
      แนวโน้มตลาดหุ้นไทย ทางฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็กฯ คาดมีแนวโน้มผันผวนในกรอบ 1,385-1,428(1,440) การปรับตัวสร้างจุดต่ำ 1,388 และเกิดการกลับตัวขึ้นหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยออกมา โดยรัฐบาลยังคงอยู่รักษาการณ์ต่อได้ (ไม่ได้แย่กว่าตลาดคาด) การกลับตัวระหว่างวันมีแนวต้าน 1,405 ผ่านขึ้นมาจะเป็นสัญญาณซื้อ ในขณะที่ SET50 การปรับตัวลงยืน 940-936 พร้อมกลับตัวขึ้นทางเทคนิคด้วยแท่งเทียนสีขาวยาวเป็นสัญญาณบวก ยืน 950-952 ขึ้นมาได้มั่นคงแนวโน้มกลับเข้าสู่ขาขึ้นอีกครั้ง GFM14 เก็งกำไรในกรอบ 19,770-19,590 GFQ14 เก็งกำไรในกรอบ 19,840-20,270
กลยุทธ์ แรงซื้อกลับคืนเข้ามาในช่วงภาคบ่ายเมื่อวาน เป็นการเข้าซื้อคืนทางเทคนิค โดยเฉพาะหุ้นขนาดใหญ่ที่มีสภาพคล่องสูง การปรับตัวยังคงมองเป็นจังหวะในการเข้าซื้อระยะสั้น หากลงแรงเป็นการเข้าซื้อถือ ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นได้เนื่องจากความกังวลเรื่องผลการลงมติของ ป.ป.ช. กรณีทุจริตจำนำข้าว และการคัดสรรนายกรักษาการณ์ ดังนั้นการกลับตัวขึ้นควรจะมีปริมาณการซื้อขายในระดับสูงกว่า 3 หมื่นล้านขึ้นไป กลุ่มพลังงาน PTT PTTEP PTTGC BANPU กลุ่มสื่อสารปรับตัวลงแรงซื้อเก็งกำไรระยะสั้น ADVANC TRUE DTAC กลุ่มธนาคาร KTB BBL หุ้นรายหลักทรัพย์ KTIS CPN RPC DELTA BIGC ระยะกลาง ถือ หากปรับลงแรงซื้อเพิ่ม

 

หุ้นแนะนำพิเศษ
       KTB (ราคาปิด 18.10 ซื้อ เป้าหมาย 25.20) เป็นแบงก์รัฐทำให้ได้รับประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล การเพิ่มหน่วยงานดูแลลูกค้ากลุ่มธุรกิจขึ้นมาทำให้สินเชื่อยังเติบโตได้แม้สินเชื่อภาครัฐแผ่วลงจากการไม่มีรัฐบาลใหม่ กำไรสุทธิ 1Q57 อยู่ที่ 8,310 ล้านบาท ลดลง 3%YoY เนื่องจากส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) เพิ่มขึ้นเป็น 2.72% จาก 2.67% ใน 1Q56 สินเชื่อปลายไตรมาสแรกขยายตัว 3.25%YTD จากลูกค้าภาคเอกชนช่วยชดเชยสินเชื่อภาครัฐที่แผ่วลง สินเชื่อ NPL เพิ่มขึ้น 10%YoY ส่งผลให้ %NPL อยู่ที่ 2.87% จาก 2.58% เมื่อปลายปี 56 กำไร 1Q57 คิดเป็น 23% ของประมาณการทั้งปีที่ 3.5 หมื่นล้านบาท ยังคงประมาณการตามเดิม คาด dividend yield ราว 5-6% สูงสุดในกลุ่มแบงก์

 

หุ้นเด่นรายวัน
       BANPU (ปิด 30 ซื้อเป้าปี 57: 33.30) เก็งกำไรก่อนประกาศงบ โดยเราคาดว่า BANPU จะแจ้งกำไรสุทธิ 1Q57 เพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่นกว่าเท่าตัวเมื่อเทียบกับ YoY และเพิ่มขึ้น 3 เท่าเมื่อเทียบกับ QoQ หลักๆมาจากการบันทึกกำไรจากการทำ Coal Swap ประมาณ 500 ล้านบาท บันทึกกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนประมาณ 300 ล้านบาทและรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้า BLCP เพิ่มขึ้นประมาณ 400 ล้านบาท
      TNDT (ราคาปิด 11.10 ซื้อเก็งกำไร) ผู้บริหารคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินในประเทศพม่าปลายปีนี้ โดยจะเร่งหาแหล่งเงินทุน 1,000 ล้านบาท ซึ่งอาจกู้หรือระดมทุน เนื่องจากมีพีอีต่ำเพียง 0.08 เท่า โดยปรับเป้ารายได้ปีนี้เหลือโต 10% หลังฐานรายได้เพิ่มสูง ส่วนกำไรคาดโต 10% (ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ)
      AGE (ราคาปิด 2.20 ซื้อเก็งกำไร) บริษัทคาดการณ์ยอดขายถ่านหินในต่างประเทศช่วงครึ่งแรกของปีนี้มีแนวโน้มแตะระดับ 1,000,000 ตัน เพิ่มขึ้น 85% เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกของปี 56 ที่มีปริมาณยอดขาย 540,000 ตัน เนื่องจากขยายช่องทางการตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศมากขึ้น บริษัทตั้งเป้ายอดขายรวมภายในปีนี้ไว้ที่ระดับ 7,000 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับยอดขายถ่านหินในปี 56 ที่ 5,068 ล้านบาท นอกจากนี้บริษัทอยู่ในระหว่างศึกษาการร่วมลงทุนธุรกิจโรงไฟฟ้าชีวมวลขนาด 9 เมกกะวัตต์ แห่งที่ 3 ภายใต้การดำเนินงานของบริษัทลูกชื่อบจ. เอจีอี พาวเวอร์ โฮลดิ้ง คาดว่าจะสามารถสรุปดีลได้ภายในช่วงครึ่งปีหลัง (ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ)
SAWAD (ราคา IPO 6.90 ไม่จัดอันดับคำแนะนำ ราคาเหมาะสม 8.60 ) จะเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯในกลุ่มธุรกิจการเงิน หมวดเงินทุนและหลักทรัพย์วันนี้เป็นวันแรก ***Globlex Securities ร่วมจัดจำหน่ายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้ด้วย ซึ่งบริษัทจะได้รับค่าธรรมเนียมในฐานะผู้จัดจำหน่าย***

 

รายชื่อหลักทรัพย์ที่ติดเกณฑ์บัญชี Cash Balance
* MAX/ TCC / TYCN มีผลบังคับใช้ 16 เม.ย. - 23 พ.ค. 57
* RASA มีผลบังคับใช้ 21 เม.ย. - 30 พ.ค. 57
* EFORL มีผลบังคับใช้ 28 เม.ย. - 6 มิ.ย. 57
* EVER/ IFEC / OCEAN / SUPER มีผลบังคับใช้ 6 พ.ค.-13 มิ.ย.
       ***เนื่องจากการลงทุนในหลักทรัพย์ ดังกล่าวมีการซื้อขายผิดไปจากสภาพปกติของตลาดดังนั้นผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน

 

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
ตลาดหุ้นดาวโจนส์ : เพิ่มขึ้น 117.52 จุด
     ดัชนี ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิดตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้น 117.52 จุด เนื่องจากตลาดขานรับถ้อยแถลงของนางเจเน็ต เยลเลนต่อรัฐสภาสหรัฐว่าเฟดจะยังคงใช้นโยบายสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐต่อไป นอกจากนี้ตลาดยังคลายความวิตกต่อสถานการณ์ในยูเครนและรัสเซียหลัง ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ได้วางแผนที่จะหารือในประเด็นยูเครนร่วมกับผู้นำระดับภูมิภาคในกรุงมอสโคในวันนี้ ทำให้ปิดตลาดดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 117.52 จุด หรือ +0.72%ปิดที่ 16,518.54 จุด ดัชนี NASDAQ ลดลง 13.09 จุด หรือ -0.32% ปิดที่ 4,067.67 จุด ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 10.49 จุด หรือ +0.56%ปิดที่ 1,878.21 จุด

 

ตลาดน้ำมัน NYMEX : เพิ่มขึ้น 1.27 เหรียญ
    ราคาน้ำมันดิบที่ตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 1.27 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐปรับตัวลดลง โดย EIA รายงาน สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐในรอบสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 2 พ.ค. ปรับตัวลดลง 1.8 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 397.6 ล้านบาร์เรล นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับปัจจัยบวกหลังจากนางเจเน็ต เยลเลนแถลงต่อรัฐสภาสหรัฐว่าเฟดจะยังคงใช้นโยบายสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐต่อไป ทำให้ปิดตลาดราคาน้ำมันดิบที่ตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 1.27 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ 100.77 ดอลลาร์/บาร์เรลส่วนน้ำมันดิบ BRENT ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 1.07 ดอลลาร์ หรือ 1% ปิดที่ 108.13 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

ตลาดหุ้นนิกเกอิ
     ตลาดปรับตัวลงแรงและปิดที่จุดต่ำสุดของวันเมื่อวานนี้ ทั้งนี้เนื่องจากตลาดมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับการแข็งค่าของเงินเยน และความตึงเครียดที่ทวีความรุนแรงขึ้นในยูเครน ระยะสั้นตลาดปรับตัวตอบรับปัจจัยลบที่ผ่านมามาก การปรับตัวทดสอบบริเวณแนวรับ 14,000-13,885 คาดจะเป็นการจบรูปแบบขาลงแอ่งกระทะคว่ำ มีโอกาสที่จะเกิดแรงซื้อทางเทคนิคกลับคืนเข้ามา

ตลาดหุ้นฮั่งเส็ง
        นักลงทุนเทขายอย่างหนักเมื่อวานนี้เนื่องจากดัชนีPMIภาคบริการของจีนลดลงต่อเนื่อง รวมทั้งเป็นการปรับตัวตามดัชนีตลาดหุ้นขนาดใหญ่ แนวโน้มการเคลื่อนไหวรอบระยะสั้นยังคงเป็นการแกว่งตัวตามกันลงมาจากเส้นค่าเฉลี่ยที่เรียงตัวในภาวะBearish การสร้างจุดต่ำใหม่กว่าระดับ 21,680 จะเป็นสัญญาณยืนยันแนวโน้ม ระหว่างวันมีแนวต้านบริเวณ 21,875-22,000 ปิดเหนือขึ้นมาเป็นสัญญาณบวกต่อการเปลี่ยนแนวโน้ม
Analyst :
ธวัชชัย 02-6725993 tawatchai@globlex.co.th
วิลาสินี 02-6725937 wilasinee@globlex.co.th
อาทิตย์ 02-6725946artit@globlex.co.th

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!