WORLD7

BANPU2024

smed PIONEER 720x100

บล.เคที ซีมิโก้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

พักฐาน-วิตก Geopolitical Risk
Highlight
        ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ ปรับลดลง วิตกความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้น (Geopolitical Risk)ระหว่างกลุ่มยุโรป สหรัฐฯ Vs รัสเซีย หลังเครื่องบินสายการบิน มาเลเซียแอร์ไลน์ ถูกยิงตกบริเวณชายแดนยูเครน มีผู้เสียชีวิตกว่า 200 คน
     ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้ USA Michigan Survey ก.ค. คาด 83 (Vs 82.5) EU ดุลบัญชีเดินสะพัด พ.ค. คาด +21 bn. EUR (Vs +21.5bn.)
      +วันทำการล่าสุด นักลงทุนต่างชาติซื้อ +1,87 พันลบ. (ซื้อสะสม 12 วัน ใน 13 วันทำการล่าสุดรวม +2.00 หมื่นลบ.) ส่วนนักลงทุนสถาบันในประเทศขายต่อ -1.99 พันลบ. (ขายสะสม 3 วันรวม -4.23 พันลบ.)
      +/- การเมือง คสช. มีคำสั่งต่ออายุ VAT ที่ 7% ไปอีก 1 ปี, รอฟังความคืบหน้าเรื่องการประมูลคลื่น 900 1800 MHz และการแจกคูปองทีวีดิจิตอล
คาดดัชนีฯ วันนี้ พักฐาน ในกรอบ 1525-1545 จุด คาดมีแรงกดดันจากปัจจัยภายนอก หลังนักลงทุนวิตกความรุนแรงในยูเครนที่เพิ่มขึ้น แต่แรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติยังช่วยหนุน จึงน่าจะเป็นการพักตัวในกรอบแคบต่อไป
     กลยุทธ์: ซื้อสะสมหุ้น Top pick KBANK SCB SIRI LPN PS PTTEP ADVANC INTUCH 2Q57F เก็งกำไรหุ้น High earnings Play แนะนำ CSS KTB SCCC IVL GOLD หุ้นคาดได้ประโยชน์จากโครงการลงทุนภาครัฐปี 58 แนะนำ SCC TASCO ทยอยขายทำกำไร TWS

หุ้นในกระแส:
หุ้นโมเมนตัมบวก (ขึ้นเกิน 6.5%) ได้แก่ MPG RPC AJD TRUE SAWAD PACE GCAP TMB AAV หุ้นที่ลงกว่า 2.5% ได้แก่ SAPPE AQ PSL SCC
NVDR (หน่วย: ลบ.) สูงสุดด้านซื้อ ได้แก่ RATCH+8,455 TMB+831 CPF+69 สูงสุดด้านขาย ได้แก่ TRUE-309 PTT-235 INTUCH-125 KBANK-114
หลักทรัพย์ที่มี Short Sell สูงสุด (หน่วย:ล้านบาท) ได้แก่ TMB 105 KBANK 110 SCB 81

Market Outlook
คาดดัชนีฯ วันนี้ พักฐาน ในกรอบ 1525-1545 จุด หลังนักลงทุนวิตกความรุนแรงในยูเครนที่เพิ่มขึ้น ด้านคสช.ต่อมาตรการลด VAT ไปอีกหนึ่งปี ส่วนผลประกอบการธนาคารไทยส่วนใหญ่ใกล้เคียงหรือดีกว่าตลาดคาด คงคำแนะนำซื้อสะสมหุ้นธนาคาร (KBANK SCB)
คาดดัชนีฯ วันนี้ พักฐาน ในกรอบ 1525-1545 จุด คาดได้รับแรงกดดันปัจจัยภายนอก เรื่องความรุนแรงในยูเครน และตะวันออกกลาง หลังเครื่องบินสายการบินมาเลเซียนแอร์ไลน์ถูกยิงตกในยูเครน รวมถึงมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่ของสหรัฐฯ ต่อรัสเซีย ส่วนปัจจัยภายในประเทศ ยังเป็นแรงหนุน โดยกลุ่มธนาคารส่วนใหญ่ประกาศผลประกอบการออกมาตามคาดหรือดีกว่าคาด (คงคำแนะนำซื้อสะสมหุ้นธนาคาร KBANK SCB) และวานนี้มีการต่อมาตรการลด VAT ที่ 7% ออกไปอีก 1 ปี (ตามที่ตลาดคาด) แต่แรงขายทำกำไรจากสถาบันในประเทศ วิตก Valuation ของตลาดหุ้นไทย (PER ปัจจุบัน 18.51 เท่า สูงสุดรอบ 14 เดือน Vs สูงสุดรอบ 4 ปี อยู่ที่ 19.83 เท่า เดือน ก.พ. 56) ยังจำกัดการปรับขึ้นของดัชนีฯ
ปัจจัยต่างประเทศ กลับมากดดันตลาดหุ้นทั่วโลกอีกครั้ง หลังความรุนแรงในยูเครนและตะวันออกกลางเพิ่มขึ้น จากเหตุการณ์วานนี้ เครื่องบินของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ ถูกยิงตกในยูเครน ซึ่งคาดว่าจะเป็นการยิงโดยกลุ่มต่อต้านยูเครน ที่สนับสนุนโดยรัสเซีย ประกอบกับการเพิ่มมาตรการควํ่าบาตรของสหรัฐฯยุโรป ต่อรัสเซีย โดยคราวนี้ พุ่งเป้าอายัดทรัพย์สินและระงับการทำธุรกรรมกับธุรกิจภาคพลังงาน การเงินและค้าอาวุธของรัสเซีย สร้างความกังวลต่อนักลงทุน ต่อสงครามเย็นที่อาจเพิ่มขนาด และเพิ่มความเสี่ยงต่ออุปทานตลาดน้ำมันโลก
        ปัจจัยในประเทศ ยังเป็นแนวโน้มบวก หลังกลุ่มธนาคารส่วนใหญ่ประกาศผลประกอบการออกมาใกล้เคียงหรือดีกว่าที่ตลาดคาด (เราให้น้ำหนักกลุ่มธนาคารมากกว่าตลาด จากคาดการณ์เติบโตดีในปีหน้า แนะนำซื้อสะสม KBANK SCB) นอกจากนี้ วานนี้คสช. มีประกาศต่ออายุมาตรการลด VAT ที่ 7% ออกไปอีก 1 ปี จากเดิมที่จะหมดอายุเดือนกันยายนปีนี้ (ตามคาดการณ์ของตลาด) ส่วนหลัง ก.ย. 58 กลับมาเก็บที่อัตราเดิม 10% อย่างไรก็ดี KTZ คาดว่าโอกาสสูงที่จะมีมาตรการชั่วคราวต่ออายุการลดภาษีฯ ออกไปอีกในภายหลัง
        ส่วนประเด็นที่ต้องจับตา คือมาตรการเกี่ยวกับพลังงาน ที่เป็นครั้งแรกที่ กบง. จัดเก็บเงิน สำหรับน้ำมันดีเซลเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในอัตรา 1 บาท/ลิตร จากเดิมที่จัดเก็บ อัตรา 0 บาท/ลิตร แต่ไม่ได้กระทบต่อราคาน้ำมันดีเซลในประเทศเนื่องจากค่าการตลาดที่กว้างขึ้นกว่าปกติ หลังราคาดีเซลร่วงลงตามตลาดโลก รวมถึงมาตรการเรื่องการประมูลใบอนุญาตคลื่นความถี่ และคูปองทีวีดิจิตอล ที่กสทช. ส่งสัญญาณพร้อมดำเนินการ หากคสช. อนุมัติตามแผนที่เสนอ

Event Plays:
1) Earnings Play: เก็งกำไรหลักทรัพย์ที่คาดว่าจะรายงานกำไร 2Q57F เติบโตสูง อาทิ CSS KTB PTTEP SCCC IVL GOLD ANAN JUBILE MINT SVI THANI THCOM
2) High Dividend Play: หลักทรัพย์ที่มีประวัติการจ่ายปันผลสูงรายปีเฉลี่ยสูงกว่า 3.5% และจ่ายปันผลระหว่างกาลสม่ำเสมอในช่วงกลางปี รวมถึงมี % Upside ต่อราคาเป้าหมาย ได้แก่ INTUCH, SNC, ADVANC, LALIN, LH ,BOL, UEC, JMART, BTS TNITY CSL DTAC TTW TRT PTTGC SAMTEL
3) หุ้น Turnarond/โตก้าวกระโดด ปี 57/58 CFRESH, GOLD, MJD, THRE, TPOLY, TTA, VNG (turnaround) APCO, CSS, DCON, IFEC, IVL (โตก้าวกระโดด)
4) หุ้นที่มีประเด็นบวกต่างๆ : MFEC RASA TRUE (ปป.โครงสร้างผู้ถือหุ้นใหม่) JAS (ซื้อหุ้นคืน) BLAND (คาดบันทึกกำไรพิเศษ+เตรียมออกกอง Impact growth reit) IFEC (ย้ายไปหมวดพลังงาน) LH QH (Hidden Asset สูง)

เทคนิค : พักตัวระยะสั้น รอขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไป
       แม้กรอบใหญ่ของการเคลื่อนตัวยังเป็นขาขึ้น แต่คาดดัชนีฯ เข้าสู่ช่วงของการพักตัวระยะสั้น (sideway หรือย่อเล็กน้อย) โดยมองแนวรับบริเวณ 1517 จุดเป็นหลัก หากสามารถยืนเหนือระดับนี้ ยังรักษาแนวโน้มขาขึ้นได้ต่อเนื่อง มีแนวต้านหลักที่ 1555 จุด (กรอบบนของ uptrend channel) แต่หากย่อตัวหลุด 1517 จุดลงมา แนะขายทำกำไรออกไปก่อน มีโอกาสเข้าสูงช่วงของการปรับฐานต่อเนื่อง โดยแนวรับหลัก รอบนี้อยู่ที่บริเวณ 1500/1475 จุด (กรอบล่างของ Uptrend channel)

ประเด็นจับตา
1. ประเด็นการเมือง: จับตาแนวทางการตั้งสภาปฏิรูป และกำหนดเวลานำไปสู่การเลือกตั้ง
ประเด็นการเมือง (Update):
      ป.ป.ช.มีมติเอกฉันท์ชี้"ยิ่งลักษณ์"มีความผิดตามกม.อาญา กรณีจำนำข้าว,ส่งอัยการ ป.ป.ช. มีมติเป็นเอกฉันท์ ว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีมูลความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา กรณีโครงการจำนำข้าวและการระบายข้าวของรัฐ จากนี้จะส่ง รายงานมติที่ประชุมป.ป.ช.พร้อมความเห็นไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินการฟ้องคดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองต่อไป
     "ประจิน" ส่งแผนปฏิรูปราคาพลังงานให้หัวหน้าคสช., คาดพิจารณาเสร็จใน 2 สัปดาห์ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ส่งแนวทางการปฏิรูปโครงสร้างราคา พลังงานให้กับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคสช.แล้ว และคาดว่าจะพิจารณา แล้วเสร็จภายใน 2 สัปดาห์ข้างหน้า โดยที่ประชุม กบง.มีมติเห็นชอบการจัดเก็บเงินสำหรับน้ำมันดีเซลเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในอัตรา 1 บาท/ลิตร จากเดิมที่จัดเก็บ อัตรา 0 บาท/ลิตร ทำให้มีเงินไหลเข้ากองทุนน้ำมันฯเพิ่มเป็น 33 ล้านบาท/วัน จากเดิมที่มีเงินไหลออก 27 ล้านบาท/วัน

+2. พลังงานทางเลือกยังน่าลงทุน แนะซื้อสะสม GUNKUL IFEC
       ประธานฯกองทุนอนุรักษ์พลังงาน เผยอาจเดินหน้าโครงการโซลาร์ชุมชน-โซลาร์รูฟท็อป
พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รองผู้บัญชาการทหารบก และเลขาธิการคณะรักษา ความสงบแห่งชาติ(คสช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการ อนุรักษ์พลังงาน ระบุว่า อาจเดินหน้าโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ชุมชน รวมถึงโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา(โซลาร์ รูฟท็อป) บนหลังคาศาลากลางจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายของหัวหน้า คสช.ที่ต้องการ เน้นโครงการด้านพลังงานทดแทน
       การประชุมคณะกรรมการกองทุนฯ วันพฤหัสฯ ได้ทบทวนโครงการที่จะดำเนินการ ในปีงบประมาณ 56-57 จำนวน 23 โครงการ มีเม็ดเงินลงทุนรวมประมาณ 8 พันล้านบาท ซึ่งก่อนหน้านี้มีการเสนอให้ยกเลิกโครงการ เพราะกังวลต่อการใช้งบประมาณ ที่อาจไม่ทันตามกำหนด และบางโครงการต้องคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดด้วย ขณะที่การประชุมในวันนี้ได้เห็นชอบ 2 โครงการ ได้แก่ การส่งเสริมงานวิจัย และพัฒนาด้านโครงการอนุรักษ์พลังงาน และด้านโครงการพลังงานทดแทน วงเงินรวม 400 ล้านบาท
สัปดาห์นี้ จะมีการทบทวนโครงการ โดยโครงการที่อาจ จะทำต่อ เช่น โซลาร์ชุมชน โครงการโซลาร์ รูฟท็อป โครงการพลังงานจากขยะ
      เรามองว่า กลุ่มพลังงานทางเลือกยังมีความน่าสนใจ เนื่องจากอยู่ในแผนพัฒนาด้านพลังงานระยะยาวของรัฐบาล โดยหุ้นที่เราชอบที่สุด คือ GUNKUL นอกจากนี้ มองว่า IFEC มีความน่าสนใจ เนื่องจากเป็นการเปลี่ยนโครงสร้างธุรกิจมาทำพลังงานทางเลือกอย่างเต็มตัว มีโอกาสโตก้าวกระโดด

3. Earnings Results:
      ประมาณการของ Bloomberg คาด 2Q57F ที่จะทยอยประกาศบงบการเงินสัปดาห์นี้ นำโดยกลุ่มแบงก์ ส่วนบจ.กลุ่มที่มิใช่สถาบันการเงินจะทยอยประกาศในสัปดาห์ต่อไป นำโดย DTAC DCC BIGC PTTEP TTW PSL

      สหรัฐฯ: ผลการดำเนินงาน 2Q57F ของบจ.สหรัฐฯ ที่น่าสนใจ : ได้แก่ GE, Honeywell (18/7) MCDONALD UNITED, TECHNOLOGY, COMCAST, VERIZON, MICROSOFT, APPLE (22/7)

4.รายงานเศรษฐกิจสำคัญสัปดาห์นี้ :
      วันศุกร์ 18 ก.ค. USA Michigan Survey ก.ค. คาด 83 (Vs 82.5) EUR ดุลบัญชีเดินสะพัด พ.ค. คาด +21 bn. EUR (Vs +21.5bn.)

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจวันทำการผ่านมา:
     เฟดฟิลาเดลเฟีย เผยดัชนีการผลิตเพิ่มขึ้นเกินคาดในเดือน ก.ค. ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟียเปิดเผยผลสำรวจดัชนี กิจกรรมการผลิตในเขตมิด-แอตแลนติกของสหรัฐพุ่งขึ้นสู่ 23.9 ในเดือน ก.ค.ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน มี.ค. 2011 นักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการสำรวจโดยรอยเตอร์คาดไว้ว่า ดัชนี กิจกรรมการผลิตจะอยู่ที่ระดับ 16.0 ในเดือน ก.ค. ลดลงจากระดับ 17.8 ในเดือน มิ.ย.
     สหรัฐ เผยจำนวนผู้ขอสวัสดิการว่างงานลดลงเกินคาด กระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 12 ก.ค.ลดลง 3,000 ราย สู่ 302,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 10 พ.ค. นักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการสำรวจโดยรอยเตอร์คาดไว้ว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 12 ก.ค.จะอยู่ที่ 310,000 ราย เพิ่มขึ้นจาก 304,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้า
      สหรัฐ เผยตัวเลขเริ่มสร้างบ้านร่วงเกินคาดในเดือน มิ.ย. กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านร่วงลง 9.3% สู่ 893,000 ยูนิต ในเดือน มิ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน ก.ย. ปีที่แล้ว และการอนุญาตก่อสร้างร่วง 4.2% สู่ 963,000 ยูนิต ในเดือน มิ.ย. นักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการสำรวจโดยรอยเตอร์คาดไว้ว่าตัวเลขการเริ่ม สร้างบ้านจะอยู่ที่ 1.02 ล้านยูนิต ในเดือน มิ.ย. และการอนุญาตก่อสร้างจะอยู่ที่ 1.040 ล้านยูนิต ในเดือน มิ.ย.

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
Global Momentum
- ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดร่วง จากข่าวเครื่องบินมาเลเซียถูกยิงตก
วันทำการที่ผ่านมา ตลาดหุ้นสหรัฐฯ กลับมาปิดร่วง โดยดัชนี DJIA ปิดดิ่งลง 161.39 จุด หรือ -0.94% สู่ระดับ 16,976.81 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดลดลง 23.45 จุด หรือ -1.18% สู่ระดับ 1,958.12 จุด Nasdaq ปิดร่วง 62.52 จุด หรือ -1.41% สู่ระดับ 4,363.45 จุด หลังตลาดได้รับข่าวเครื่องบินโดยสารของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ ตกบริเวณชายแดนรัสเซีย-ยูเครน และผู้โดยสารพร้อมลูกเรือ 295 ชีวิตเสียชีวิตยกลำ ขณะที่ประธานาธิบดีของยูเครน สันนิษฐานว่าเครื่องบินโดยสารลำนี้อาจถูกยิงด้วยขีปนาวุธ

- ตลาดหุ้นยุโรป ร่วงจากวิตกมาตรการแซงชั่นรัสเซีย ของสหรัฐฯ ยุโรป
       วันทำการที่ผ่านมา ตลาดหุ้นยุโรป กลับมาปิดลดลง FTSE ปิดร่วง 46.35 จุด หรือ -0.68% สู่ 6,738.32 จุด ดัชนี CAC40 ปิดลดลง 52.94จุด หรือ -1.21% สู่ 4,316.12 จุด และ DAX ปิดลบ 105.39 จุด หรือ -1.07% สู่ 9,753.88 จุด เพราะนักลงทุนกังวลเกี่ยวกับมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติม ของสหรัฐและชาติสมาชิกสหภาพยุโรป หรืออียู โดยพุ่งเป้าภาคการเงินและพลังงานของรัสเซีย ซึ่งการเคลื่อนไหวครั้งนี้ จะทำให้สถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ 2 แห่งของรัสเซีย ได้แก่ ก๊าซพรอม แบงก์ กับวีอีบี รวมถึงบ. พลังงานยักษ์ใหญ่ 2 แห่งของรัสเซีย คือ โนวาเทค กับรอสเนฟต์ เข้าตลาดทุนสหรัฐไม่ได้ นอกจากนั้น กระทรวงการคลังสหรัฐ ยังระบุว่า บริษัทอาวุธ 8 แห่งของรัสเซีย ที่ผลิตอาวุธขนาดเล็ก กระสุนปืนใหญ่ และรถถัง ต้องถูกคว่ำบาตรโดยตรงเช่นกัน

+ราคาน้ำมันดิบ ปิดสูงขึ้น วิตกวิกฤติรัสเซีย กับ อียู สหรัฐฯ รุนแรงขึ้น
      วันทำการที่ผ่านมา Brent ส่งมอบ ส.ค. ปิดบวก 0.72 ดอลลาร์ สู่ 107.89 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วน Nymex ส่งมอบ ส.ค. ปิดพุ่งขึ้น 1.99 ดอลลาร์ ปิดที่ 103.19 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในวันพฤหัสบดี หลังจากเครื่องบินของสายการบินมาเลเซียถูกยิงตกเหนือภาคตะวันออก ของยูเครน และส่งผลให้วิกฤติระหว่างรัสเซียกับชาติตะวันตกทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น หลังจากสหรัฐเพิ่งเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรรัฐบาลรัสเซียในวันพุธ

+ราคาทองคำ พุ่งขึ้นจากข่าวเครื่องบินมาเลเซียถูกยิงตก
     วันทำการที่ผานมา ราคาสัญญาทองเดือน สิงหาคม ปิดตลาด พุ่งขึ้น 17.10 ดอลล์ สู่ 1,316.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์
     ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐพุ่งขึ้น 18.43 ดอลลาร์ หรือ 1.42 % สู่ 1,317.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันพฤหัสบดี ในขณะที่นักลงทุนเข้าซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากมีข่าวว่าเครื่องบินโดยสารของมาเลเซีย ถูกยิงตกในยูเครน
      ราคาทองได้รับแรงหนุนในช่วงเช้าจากข่าวที่ว่า สหรัฐและสหภาพยุโรป (อียู) ดำเนินมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมต่อรัสเซีย และข่าวที่ว่า เครื่องบินรบของยูเครนถูกยิงตกเหนือภาคตะวันออกของยูเครน ราคาทองพุ่ง 20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในเวลาเพียง 40 นาที ในขณะที่ดัชนี S&P 500 ของตลาดหุ้นสหรัฐดิ่งลงอย่างรุนแรง หลังจากมีข่าวว่า เครื่องบินมาเลเซียถูกยิงตกในภาคตะวันออกของยูเครน ซึ่งส่งผลให้คนใน เครื่องบินทั้งหมด 295 คนเสียชีวิต และส่งผลให้ความขัดแย้งระหว่าง รัฐบาลยูเครนกับกลุ่มกบฏที่ฝักใฝ่รัสเซียทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ราคาทองได้รับแรงหนุนเพิ่มเติมจากข่าวที่ว่า นายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลสั่งให้กองทัพอิสราเอลเริ่มต้นการโจมตีภาคพื้นดินในเขตฉนวนกาซ่า

- ดัชนีค่าระวางเรือ Baltic Dry Index ปิดลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 9
       วันทำการที่ผ่านมา ดัชนี Baltic Dry Index ปิดลดลงอีก 17 จุดมาปิดที่ 738 จุด หลังจาก ปี 56 พิ่มขึ้น +28.14%y-y เป็น 2227 จุด (จาก 1738 จุด ณ สิ้นปี 55) โดยระดับสูงสุดอยู่ที่ 2337 จุด เมื่อ 12/12/56 และระดับต่ำสุดอยู่ที่ 698 จุดเมื่อ 2/1/56 ขณะที่ระดับสูงสุดตลอดกาลอยู่ที่ 11793 และระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ อยู่ที่ 554 กลุ่มเรือ (Shipping) คาดผ่านจุดต่ำสุด Bottom Out และฟื้นตัวตามเศรษฐกิจโลก

ถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย, no. 14501 Thanomsaks@ktzmico.com 02-624-6244
ธิดารัตน์ ผโลดม, no. 16564 Tidaratp@ktzmico.com 02-624-6270 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!