Details

Category: บทวิเคราะห์

Published: Monday, 21 July 2014 16:13

Hits: 2083

บล.กรุงศรี : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

แนวโน้มและปัจจัยการลงทุนวันนี้
เลือกตัวซื้อ
  SET เมื่อวันศุกร์ผันผวนมากกว่าช่วงตลอด 2 สัปดาห์ที่ผ่านโดยแกว่งตัว +/- 15 จุด ทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 1538.53 และต่ำสุดที่ 1523.53 จาก 2 เหตุคือ 1) การเลื่อนประมูลคลื่นความถี่ออกไป 1 ปี 2) เหตุความไม่สงบในยูเครน และยิงเครื่องบินมาเลซียตก โดยปิดตลาดที่ 1533.41 จุด (-2.25 จุด, -0.15%) เงินบาทยังคงแข็งค่าที่ 32.12 บาท/US$ และมูลค่าการซื้อขายเพิ่มขึ้นต่อเนื่องและมีนัยสำคัญเป็น 64,967 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิต่อเนื่องอีก 797 ล้านบาทกองทุนในประเทศขายสุทธิ 4,036 ล้านบาท

ปัจจัยการลงทุนวันนี้
  แผนยุทธศาสตร์ที่กระทรวงคมนาคมจัดทำไว้ในระยะ 8 ปี (ปี 58-65) ให้คสช.พิจารณาวันที่ 22 ก.ค.นี้จะโครงการเป็น 3 เฟส 1) โครงการที่มีความพร้อมมากสุดซึ่งส่วนใหญ่ได้บรรจุอยู่ในแผนเสนอของบประมาณปี 58 เพื่อเริ่มดำเนินการเวนคืนที่ดินเช่น โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า 3 สายทางคือ สายสีชมพู แคราย-มีนบุรี สายสีส้มเฟสแรกช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-สุวินทวงศ์ และสายสีเขียว หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต 2) โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ระยะเร่งด่วน 5 เส้น ทางวงเงินรวม 1.16 แสนล้านบาท คือ 1.ลพบุรี-ปากน้ำโพ ระยะทาง 148 กม.วงเงิน 2.4 หมื่นล้านบาท 2.มาบกะเบา-นครราชสีมา (ถนนจิระ) ระยะทาง 132 กม. วงเงิน 2.9 หมื่นล้านบาท 3.ถนนจิระ-ขอนแก่นระยะทาง 185 กม.วงเงิน 2.6 หมื่นล้านบาท 4.นครปฐม-หัวหินระยะทาง 165 กม.วงเงิน 2 หมื่นล้านบาท 5. ประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ระยะ 167 กม.วงเงิน 1.7 หมื่นล้านบาท
  ธปท. หนุนเอกชนใช้เงินหยวนค้าขายเพื่อช่วยขยายการค้าการลงทุนไทย-จีน คาดในระยะแรกอาจมีข้อจำกัด แต่ในอนาคตเชื่อจะได้รับความนิยมมากขึ้น และเป็นการช่วยลดตุ้นทุนการประกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน ปัจจุบันสัดส่วนการค้าระหว่างไทย-จีนอยู่ที่ 14% ของมูลค่าการส่งออก ซึ่งจีนเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของไทย เป็นตลาดที่มีกำลังซื้อสูงและเป็นที่สนใจของนักธุรกิจทั้งไทยและต่างประเทศ ซึ่งหากมีการส่งเสริมให้มีการใช้เงินหยวนในการค้ามากขึ้น จะทำให้สัดส่วนการใช้เงินหยวนค้าขายเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบันอยู่ที่ 1% ของการค้าไทย-จีน และขณะนี้สถาบันการเงินต่างๆ ก็ให้การสนับสนุนการใช้เงินหยวนมากขึ้นโดยมีฮ่องกงเป็นศูนย์กลางทางการเงินสำคัญของเงินหยวนในภูมิภาคนี้

  SET เมื่อวันศุกร์ที่แล้วทำจุดต่ำสุดที่ 1,523.53 จุด และมีแรงซื้อกลับหรือเกิดรีบาวด์และผลักดันราคาขึ้นปิดที่ 1,533.41 จุดพร้อมกับวอลุ่มซื้อขายที่สูงซึ่งแสดงถึงแนวโน้มว่าตลาดยังอยู่ภายใต้ผู้ซื้อที่พร้อมเข้าสู่ตลาดเมื่อราคาอ่อนลง เราประเมินตลาดจะยังคงอยู่ภายใต้แรงซื้อหรือทุนที่ยังไหลเข้าต่อเนื่อง และมีโอกาสดีดตัวผ่าน P/E Band 17x (1540) แนะนำเลือกซื้อหุ้น

แนวโน้มการลงทุนสำหรับระยะกลาง
ถือครองพอร์ตลงทุนในหุ้น 70%

  น้ำหนักพอร์ตลงทุน ถือครองหุ้น 70% และเงินสด 30%

  Accumulate : -- สะสมหุ้น

  Trading : เลือกซื้อหุ้นเก็งกำไรเหนือ 1530 ต่ำกว่ารอดู

  เปรียบเทียบดัชนีกับ SET

  สถานะพอร์ตจำลอง (เริ่ม 25 พ.ย. 56)
  พอร์ตหุ้น 70% ถือเงินสด 30%

ผลตอบแทนพอร์ตจำลอง (70%) = +12.4%
ผลตอบแทนถือเงินสด (30%) = +0.6%
ผลตอบแทนรวม (100%) = +13.0%
ผลตอบแทนตลาด SET = +13.3%
ผลรวมพอร์ตจำลองสุทธิ < SET

  หมายเหตุ : Cash/Equity weighting เป็นการแสดงมุมมองของ KSS Research เพื่อใช้เป็นแนวทางว่าด้วยแนวโน้มระยะกลาง (3-6 เดือน) ว่าจะมีแนว โน้มเชิงบวก หรือ เชิงลบ โดยหุ้นที่แนะนำในพอร์ตจำลองเป็นหุ้นพื้นฐานที่เราประเมินว่าจะมีแนวโน้มที่ดี ไม่มีนัยสำคัญเพื่อคำแนะนำว่าควร “ซื้อ” หรือ “ขาย” หุ้นดังกล่าวในเวลาใด

Analysts :
Kasamapon Hamnilrat Registration No. 17622
Apisak Limthumrongkul Registration No. 13130