WORLD7

BANPU2024

smed PIONEER 720x100

บล.เคที ซีมิโก้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

รีบาวด์
Highlight
       ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ เปิดบวกต่อเนื่อง ตามตลาดหุ้นยุโรปและสหรัฐฯ หลังนักลงทุนคลายวิตกยูเครน ผลประกอบการสหรัฐฯ ออกมาดี
ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้ EU: MFG PMI ก.ค. คาด 51.7 (Vs 51.8) Service PMI ก.ค. คาด 52.7 (Vs 52.8)
        +กระแสเงินทุนไหลเข้าของต่างชาติ เป็นข่าวบวกต่อตลาดหุ้นไทยวันนี้ โดยวานนี้ ซื้อหุ้นเพิ่มอีก +1.72 พันลบ. (ซื้อสะสม 15 ใน 16 วันทำการหลังสุดรวม +2.31 หมื่นลบ.) และกลับมา Long สัญญา SET 50 Index Futures สูงถึง 4465 สัญญา รวมถึง ค่าเงินบาทต่อ USD แข็งค่าสูงสุดรอบเกือบ 9 เดือนที่ 31.75 บาท สะท้อน Liquidity Driven หนุนความเสี่ยงขาลงของดัชนีฯมีจำกัด ส่วนนักลงทุนสถาบันในประเทศ ขายต่อ -2.07 พันลบ. (ขายสะสม 6 วันรวม -1.09 หมื่นลบ.)
      +/- การเมือง เลื่อนพิจารณาโครงการคมนาคม 3 ล้านล้านบาท เป็นสัปดาห์หน้า วานนี้รับพระราชทานรธน. ชั่วคราวแล้ว คสช. มีอำนาจเหนือรัฐบาล แต่ผ่อนปรนมาตรการคุมสื่อ
      คาดดัชนีฯ วันนี้ รีบาวด์ แนวต้าน 1528/1533 จุด แนวรับ 1515/1508 จุด คาดมีแรงซื้อกลับหลัง Fund Flow ไหลเข้ามีต่อเนื่อง หนุนหุ้นกำไรเติบโตดี ส่วนกลุ่มสื่อสารยังเป็นปัจจัยกดดันตลาด หลังมีประเด็นสัดส่วนการถือหุ้นของต่างชาติเข้ามาเพิ่มเติม จากการเลื่อนประมูล 4G
       กลยุทธ์: ระยะ 1-2 สัปดาห์ เปลี่ยนจากซื้อสะสม เป็น Trading Buy โดยมีจุดขายตัดขาดทุน/กำไร 3% อิงแนวโน้มภาวะ Overbought ทางเทคนิคและระดับ PER ของดัชนีฯ ที่สูงใกล้ระดับ Peak (คาด Peak อยุ่แถว 1550-1570) ส่วนนักลงทุนระยะยาว แนะนำ รอซื้อสะสมบริเวณ 1480 จุด หุ้น Top pick KBANK SCB SIRI LPN PS PTTEP ADVANC INTUCH SCC 2Q57F High earnings Play แนะนำ TTW CSS IVL GOLD เก็งกำไรหุ้นได้ผลบวกบาทแข็ง AAV PTT IVL BANPU

หุ้นในกระแส:
       หุ้นโมเมนตัมบวก (ขึ้นเกิน 4.0%) ได้แก่ RPC AJD N-PARK TWZ TCC NIPPON KAMART NCH WHA หุ้นที่ลงกว่า 5.0% ได้แก่ SUPER SST PLE TSR KKP IFEC BLAND SCP SOLAR SYNTEC
      NVDR (หน่วย: ลบ.) สูงสุดด้านซื้อ ได้แก่ BBL+1,122 PTT+312 TMB+277 SCC+237 KBANK+199 สูงสุดด้านขาย ได้แก่ ADVANC -767 KTB-180 INTUCH-119
หลักทรัพย์ที่มี Short Sell สูงสุด (หน่วย:ล้านบาท) ได้แก่ INTUCH 159 ADVANC 131 ITD 116

Market Outlook
      คาดดัชนีฯ วันนี้ รีบาวด์ แนวต้าน 1528/1533 จุด แนวรับ 1515/1508 จุด จากโมเมนตัมบวก เงินไหลเข้าของต่างชาติยังคงมีต่อเนื่อง และคาดมีแรงซื้อคืนหลังวานนี้ร่วงลงแรง เราแนะนำ Trading Buy แบบมีจุดขายตัดขาดทุน 3-5% หุ้น Earnings Play และหุ้นได้รับผลบวกค่าเงินบาทแข็ง
คาดดัชนีฯ วันนี้ ลุ้นรีบาวด์ระหว่างวัน แนวต้าน 1528/1533 จุด แนวรับ 1515/1508 จุด หลังจากถูกขายทำกำไรหนักวานนี้ นำโดยกลุ่มสื่อสารหลังกสทช. เตรียมตรวจสอบสัดส่วนผู้ถือหุ้นต่างชาติ รวมถึงเรื่องเลื่อนพิจารณาโครงการโครงสร้างพื้นฐานเป็นสัปดาห์หน้า โดยนักลงทุนต่างชาติยังเป็นกลุ่มที่ซื้อต่อเนื่องในตลาดหุ้น และกลับมาเป็นฝ่าย LONG สัญญา Futures ส่งผลค่าเงินบาทยังมีทิศทางแข็งค่า แนะนำเก็งกำไรหุ้นที่ผลบวกค่าเงินบาทแข็ง (AAV PTT IVL BANPU) ด้านปัจจัยการเมืองในประเทศมีความคืบหน้า หลังวานนี้ คสช. รับพระราชทานรัฐธรรมนูญชั่วคราวแล้ว โดยคงอำนาจคสช. ในการดูแลความมั่นคง ส่วน Earnings Play กลุ่มที่มิใช่สถาบันการเงิน จะเริ่มทยอยประกาศ จับตา THREL PTTEP BIGC ทั้งนี้ เราแนะนำ Trading Buy แบบมีจุดขายตัดขาดทุน 3-5% จากประเมินดัชนี ยังมีโอกาสถอยไปสร้างฐานบริเวณแนวรับหลักที่บริเวณ 1500 จุด ส่วนหุ้นเด่นเน้นเก็งกำไรระยะสั้น ได้แก่ NIPPON KAMART NCH TCC RPC UTP
        ปัจจัยต่างประเทศ ตลาดต่างประเทศรีบาวด์ หลังนักลงทุนคลายความกังวล ความขัดแย้งในยูเครนไประดับหนึ่งหลังจากกลุ่มติดอาวุธยอมส่งมอบกล่องดำ ประกอบกับผลประกอบการบจ. ขนาดใหญ่ของสหรัฐฯ ออกมาดี เช่น Verizon Dupont ฯลฯ และหลังปิดตลาดหุ้นสหรัฐฯ APPLE รายงานกำไรดีกว่าคาด $1.28 Vs $1.23 Microsoft กำไรต่ำกว่าคาด $0.58 Vs $0.60 แต่รายได้สูงกว่าคาด ส่วนที่ดีกว่าคาดอื่นๆคือ VNWare, Electronic Arts, Broadcom
      ปัจจัยในประเทศ วานนี้ถูกขายทำกำไรอย่างหนัก จากตลาดหุ้นไทยที่ปรับขึ้นมาต่อเนื่อง และมีข่าวกดดันเรื่องการเลื่อนพิจารณาโครงการโครงสร้างพื้นฐาน ออกไปเป็นสัปดาห์หน้า ประกอบกับกลุ่มสี่อสารถูกขายต่อเนื่อง หลังมีข่าวกสทช. เตรียมนัด 3 มือถือ หารือตรวจสอบเรื่องสัดส่วนหุ้นต่างด้าว 3 ค่ายมือถือ (กสทช.นัดหารือ 24 ก.ค.) อย่างไรก็ดี คาดวันนี้จะเห็นแรงดีดกลับ ประกอบกับ ประเด็นการเมืองที่คืบหน้า หลังมีรัฐธรรมนูญชั่วคราวแล้ว น่าจะเข้าสู่ขั้นตอนสรรหาสภาปฏิรูป และ กมธ. ยกร่างรัฐธรรมนูฐต่อไป
       จับตาทิศทางเงินบาท ยังแข็งค่าต่อเนื่อง โดยเช้านี้เปิดทรงตัวอยู่ที่ 31.74 บาท/ดอลลาร์ คาดสัปดาห์นี้เป็นการแกว่งตัวระหว่าง 31.40-32.00 บาท โดยค่าเงินบาทที่แข็งค่าเร็วทำให้ มีความกังวลต่อภาคส่งออก แม้เรามองเป็น sentiment เชิงบวกต่อกระแสเงินทุนไหลเข้า แนะเก็งกำไรหุ้นได้ประโยชน์จากค่าเงิน (AAV PTT IVL BANPU)

 

Event Plays:
1) Earnings Play: เก็งกำไรหลักทรัพย์ที่คาดว่าจะรายงานกำไร 2Q57F เติบโตสูง อาทิ TTW CSS PTTEP IVL GOLD ANAN JUBILE MINT SVI (ทั้งนี้ หลักทรัพย์ที่โบรกเกอร์มีความเห็นเชิงบวกต่อ Upward Revision ล่าสุด ได้แก่ TMB BCP
2) High Dividend Play: หลักทรัพย์ที่มีประวัติการจ่ายปันผลสูงรายปีเฉลี่ยสูงกว่า 3.5% และจ่ายปันผลระหว่างกาลสม่ำเสมอ รวมถึงมี % Upside ต่อราคาเป้าหมาย ได้แก่ INTUCH, SNC, ADVANC, LALIN, LH ,BOL, UEC, JMART, BTS, TNITY, CSL, DTAC, TTW, TRT, PTTGC, SAMTEL
3) หุ้น Turnaround โตก้าวกระโดด ปี57/58 CFRESH, GOLD, MJD, THRE, TPOLY, TTA, VNG (turnaround) APCO, CSS, DCON, IFEC, IVL (โตก้าวกระโดด)
4) หุ้นที่มีประเด็นบวกต่างๆ : MFEC, RASA, TRUE (ปป.โครงสร้างผู้ถือหุ้นใหม่) JAS (ซื้อหุ้นคืน) BLAND (คาดบันทึกกำไรพิเศษ+เตรียมออกกอง Impact growth reit) IFEC (ย้ายไปหมวดพลังงาน) LH QH (Hidden Asset สูง)
ปัจจัยทางเทคนิค คาดวันนี้ มีรีบาวด์ระหว่างวัน แต่ยังไม่หมดโอกาสของการถอยลงไปสร้างฐานวานนี้ ดัชนีฯ ปิดลงมาแรงจนหลุดเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้น (5 และ 10 วัน) ทำให้โมเมนตัมเปลี่ยน แต่เราคาดหวังที่จะเป็นการดีดกลับระหว่างวันได้ในวันนี้ ทั้งนี้ แนวรับหลักประเมินไว้ที่บริเวณ 1500 จุด ซึ่งยังมีโอกาสที่ดัชนีฯ จะถอยไปสร้างฐานบริเวณนี้ได้ ก่อนกลับเป็นขาขึ้นรอบใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากดีดตัวไม่ผ่าน 1530 จุดในสัปดาห์นี้

 

ประเด็นจับตา
1. ประเด็นการเมือง: จับตาแนวทางการตั้งสภาปฏิรูป และกำหนดเวลานำไปสู่การเลือกตั้ง
ประเด็นการเมือง (Update):
คสช.เลื่อนพิจารณาโครงการโครงสร้างพื้นฐานเป็นสัปดาห์หน้า เนื่องจากผู้นำคสช.ต้องไป รับพระราชโองการเรื่องรัฐธรรมนูญชั่วคราว โดยคาดว่าจะมีการแต่งตั้งสมาชิกสภาสรรหา ประมาณ 220 ท่าน เพื่อจะคัดเลือก นายกฯ และ 35 รัฐมนตรี

+2.ค่าเงินบาท (+ตลาดหุ้น กลุ่มมีต่างประเทศสูงปิโตรฯ พลังงาน) : แนะซื้อเก็งกำไร (AAV PTT IVL BANPU)
JP Morgan คาดสัญญาณเทคนิค บ่งชี้เงินบาทอาจแข็งค่าต่อเนื่องไปถึงระดับ 31.40 บาท/USD ซึ่งเป็นระดับ 76.4% Retracement ของกรอบ 30.87-33.16 บาท/USD หลังจากวานนี้ลงมาทดสอบ 31.74/70 บาท/USD ซึ่งเป็นระดับถดถอย 61.8% ทั้งนี้ เทคนิคแนะนำ รอขายทำกำไรบริเวณแนวรับ 31.40 บาท/USD

-3. กลุ่มสื่อสารถูกกดดันต่อเนื่อง ระยะยาว 12 เดือน แนะนำสะสมเมื่ออ่อนตัว ADVANC INTUCH DTAC
ผู้บริหารโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ของไทย AIS DTAC TRUE เตรียมพบ กสทช. 24 ก.ค.นี้
โดยคาดว่าจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับโครงสร้างผู้ถือหุ้นต่างชาติ เนื่องจากผู้ประมูลที่โครงสร้างถือหุ้นต่างชาติเกิน 49% จะไม่สามารถเข้าร่วมประมูลฯของกสทช ได้ ทั้งนี้อิงข้อมูล Bloomberg ปัจจุบัน พบว่า เทเลนอร์ ถือหุ้น 42.61% ใน DTAC , Singtel ถือหุ้น 23.31% ใน AIS, Taemasek ถือหุ้น 41.62% ใน INTUCH (ซึ่งถือหุ้น AIS อยู่ 40.45%)

4. +/- 2Q57F Earnings Results:
ประมาณการของ Bloomberg คาด 2Q57F ที่จะทยอยประกาศบงบการเงินสัปดาห์นี้ นำโดยกลุ่มแบงก์ ส่วนบจ.กลุ่มที่มิใช่สถาบันการเงินจะทยอยประกาศในสัปดาห์นี้ นำโดย BIGC PTTEP TTW PSL
USA: ผลการดำเนินงาน 2Q57F ของบจ.สหรัฐฯ ที่น่าสนใจ : ได้แก่ TI, Halliburton,State Street (21/7) MC Donald, United Technology, Verizon, Microsoft, Apple (22/7) FACEBOOK, Dow Chemical (23/7) Amazon.com, Ford, Caterpillar, 3M (24/7) Xerod (25//7)

+/-5.รายงานเศรษฐกิจสำคัญสัปดาห์นี้ : มีอิทธิพลต่อตลาดสัปดาห์นี้จำกัด แต่จะมีน้ำหนักต่อตลาดมากขึ้นในสัปดาห์หน้า (ผลประชุมเฟด+2Q57F US GDP)
วันพุธ 23 ก.ค.: EU: MFG PMI ก.ค. คาด 51.7 (Vs 51.8) Service PMI ก.ค. คาด 52.7 (Vs 52.8)
วันพฤหัสบดี 24 ก.ค.: USA New Home Sales มิ.ย. คาด 5 แสนหน่วย (Vs 5.4 แสนหน่วย) China: HSBC PMI Mfg ก.ค. คาด 51 (Vs 50.7) South Korea คาด 2Q57F GDP +3.7%y-y (Vs 3.9%) Japan ดุลการค้า มิ.ย. คาดขาดดุล -6.49 แสนล้านเยน (Vs -9.09 แสนล้านเยน)
วันศุกร์ 25 ก.ค. : USA สินค้าคงทน มิ.ย. คาด +0.0%m-m (Vs -0.9%) Germany: IFO Business Climate ก.ค. คาด 109.5 (Vs 109.7) UK: 2Q57F GDP คาดเติบโต 0.8%q-q

 

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจวันทำการผ่านมา:
      สหรัฐ เผยยอดขายบ้านมือสองเพิ่มขึ้นเกินคาดในเดือน มิ.ย. สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติรายงานยอดขายบ้านมือสองเพิ่มขึ้น 2.6% สู่ 5.04 ล้านยูนิต ในเดือน มิ.ย. ซึ่งเป็นอัตราการเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 8 เดือน และเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า ตลาดบ้านกำลังฟื้นตัวจากภาวะตกต่ำ นักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการสำรวจโดยรอยเตอร์คาดไว้ว่า ยอดขายบ้านมือสองจะอยู่ที่ 4.97 ล้านยูนิต ในเดือน มิ.ย. เพิ่มขึ้นจาก 4.89 ล้านยูนิต ในเดือน พ.ค.
สหรัฐ เผยดัชนี CPI เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือน มิ.ย. กระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือน มิ.ย. และเพิ่มขึ้น 2.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี ส่วนดัชนี CPI พื้นฐานที่ไม่รวมราคาอาหารและพลังงานเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนมิ.ย. และเพิ่มขึ้น 1.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี นักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการสำรวจโดยรอยเตอร์คาดไว้ว่า ดัชนี CPI ทั่วไปจะเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือน มิ.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.4% ใน เดือน พ.ค. และดัชนี CPI พื้นฐานที่ไม่รวมราคาอาหารและพลังงาน จะเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือน มิ.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือน พ.ค.

 

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
Global Momentum
- ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดเพิ่มขึ้น รับข่าวดีผลประกอบการและยอดขายบ้านมือสองแข็งแกร่ง
วันทำการที่ผ่านมา ตลาดหุ้นสหรัฐฯ กลับมาปิดสูงขึ้น โดยดัชนี DJIA ปิดสูงขึ้น 61.81จุด หรือ 0.36% สู่ระดับ 17,113.54 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดขยับขึ้น 9.82 จุด หรือ 0.5% สู่ระดับ 1,983.45 จุด Nasdaq ปิดบวก 31.32 จุด หรือ 0.71% สู่ระดับ 4,456.02 จุด ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดปรับตัวขึ้นในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนขานรับรายงานผลประกอบการโดยรวม ที่ออกมาแข็งแกร่ง Verizon Dupont ประกอบกับสถานการณ์ตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์คลี่คลายลง นอกจากนี้ สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ หรือเอ็นเออาร์ เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐปรับตัวขึ้น 2.6% ในเดือน มิ.ย. แตะระดับ 5.04 ล้านยูนิต โดยปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่สามติดต่อกัน และแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน ต.ค. ปีที่แล้ว หรือในรอบแปดเดือน ถือเป็นสัญญาณว่า ตลาดที่อยู่อาศัยกำลังฟื้นตัวขึ้น หลังจากซบเซามานานหลายเดือน
ยอดขายบ้านมือสองที่เพิ่มขึ้นในเดือนที่แล้ว ได้รับปัจจัยหนุนจากตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งขึ้น รวมถึงปริมาณบ้านในตลาดที่เพิ่มสูงขึ้น และราคาบ้านที่ชะลอความร้อนแรง โดยยอดขายเดือน มิ.ย.มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นแตะ 5 ล้านยูนิต จากระดับ 4.91 ล้านยูนิตในเดือน พ.ค.

+ ตลาดหุ้นยุโรป ฟื้นตัว จากคลายกังวลสถานะการณ์ยูเครน
วันทำการที่ผ่านมา ตลาดหุ้นยุโรป กลับมาปิดบวก FTSE ปิดบวก 66.90 จุด หรือ 0.99% สู่ 6,795.34 จุด ดัชนี CAC40 ปิดเพิ่มขึ้น 64.78 จุด หรือ 1.50% สู่ 4,369.52 จุด และ DAX ปิดสูงขึ้น122.28 จุด หรือ 1.27% สู่ 9,734.33 จุด โดยได้รับแรงหนุนจากรายงาน ผลกำไรที่แข็งแกร่งของบริษัทบางแห่ง และจากสัญญาณบ่งชี้ว่ารัสเซียให้ความร่วมมือกับประเทศอื่นๆ ในการสอบสวนการยิงเครื่องบินมาเลเซียตกในยูเครน

-ราคาน้ำมันดิบ ปิดลดลง จากอุปทานน้ำมันดิบไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหายูเครน
วันทำการที่ผ่านมา Brent ส่งมอบ ก. ย. ปิดลดลง 0.35 ดอลลาร์ สู่ 107.33 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วน Nymex ส่งมอบ ส.ค. ปิดย่อลง 0.17 ดอลลาร์ ปิดที่ 104.59 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน ส.ค. ร่วงลง 17 เซนต์ มาปิดตลาดที่ 104.42 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 103.89-105.25 ดอลลาร์ โดยสัญญาน้ำมันดิบเดือนส.ค.ครบกำหนดส่งมอบในช่วงปิดตลาดวันอังคาร
นายยีน แมคจิลเลียน นักวิเคราะห์ของบริษัทเทรดิชัน เอ็นเนอร์จีกล่าวว่า "ยังคงมีปัญหาในเขตฉนวนกาซ่า แต่สิ่งที่สำคัญก็คือว่าตลาดน้ำมันยังไม่ประสบภาวะขัดข้องด้านอุปทาน การดีดขึ้นของราคาน้ำมันเพราะคำสั่งซื้อชดเชยในช่วงไม่กี่วันก่อนหน้านี้ดูเหมือนจะจางหายไป และราคาน้ำมันชะลอตัวลง"

-ราคาทองคำ หลังคลายกังวลสถานะการณ์ในยูเครน
วันทำการที่ผานมา ราคาสัญญาทองเดือน สิงหาคม ปิดตลาด ลดลง 7.60 ดอลล์ สู่ 1,306.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ปรับขึ้น 0.3 % ในเดือน มิ.ย. หลังจากปรับขึ้น 0.4 % ในเดือน พ.ค. โดย ตัวเลขนี้บ่งชี้ว่าภาวะเงินเฟ้อกำลังปรับขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป หลังการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อ ดอลลาร์ก็แข็งค่าขึ้นพร้อมกับตลาดหุ้น และปัจจัยนี้ส่งผลลบต่อราคาทองและสินทรัพย์ปลอดภัยอื่นๆ อย่างเช่น พันธบัตรรัฐบาลระยะยาวของสหรัฐ
ผู้นำกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในยูเครนมอบกล่องดำจากเครื่องบินให้แก่ผู้เชี่ยวชาญ ของมาเลเซีย ในขณะที่รถไฟที่บรรทุกศพของผู้เสียชีวิตหลายคนจากทั้งหมด 298 คนในเหตุการณ์เครื่องบินตกได้เดินทางมาถึงเขตของรัฐบาลยูเครนแล้ว
เทรดเดอร์กล่าวว่าราคาทองร่วงลง ในขณะที่นักลงทุนเทขายทำกำไรทอง ออกมา หลังจากราคาทองปรับขึ้นมานาน 6 สัปดาห์ติดต่อกัน

- ดัชนีค่าระวางเรือ Baltic Dry Index ปิดลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 12 แต่ด้วยจำนวนลดลงมาก
วันทำการที่ผานมา ดัชนี Baltic Dry Index ปิดลดลงเพียง 1 จุดมาปิดที่ 723 จุด หลังจาก ปี 56 พิ่มขึ้น +28.14%y-y เป็น 2227 จุด (จาก 1738 จุด ณ สิ้นปี 55) โดยระดับสูงสุดอยู่ที่ 2337 จุด เมื่อ 12/12/56 และระดับต่ำสุดอยู่ที่ 698 จุดเมื่อ 2/1/56 ขณะที่ระดับสูงสุดตลอดกาลอยู่ที่ 11793 และระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ อยู่ที่ 554 กลุ่มเรือ (Shipping) คาดผ่านจุดต่ำสุด Bottom Out และฟื้นตัวตามเศรษฐกิจโลก

ถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย, no. 14501 Thanomsaks@ktzmico.com 02-624-6244
ธิดารัตน์ ผโลดม, no. 16564 Tidaratp@ktzmico.com 02-624-6270

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!