Details

Category: บทวิเคราะห์

Published: Thursday, 24 July 2014 21:45

Hits: 1892

บล.ทิสโก้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET +20.75 จุด เด้งขึ้นรับ รธน. ชั่วคราว
       SET เปิดปรับตัวบวกทันทีที่เปิดตลาดรับ รธน. ฉบับชั่วคราวและความชัดเจนด้านการพิจารณากองทุนโครงสร้างพื้นฐาน ทำให้ตลาดปรับตัวขึ้นตลอดทั้งวัน แต่อย่างไรก็ตามต่างชาติกลับมาขายสุทธิเป็นวันแรกในรอบกว่า 12 วัน -762 ลบ. แต่ยัง Long SET50 Index Futures 937 สัญญา

ทิศทางตลาดวันนี้ : แกว่งไซด์เวย์ รับรู้ปัจจัยบวกไปมากแล้ว
       หุ้นโลกเมื่อคืน (23 ก.ค.) ส่วนใหญ่ยังคงปรับตัวขึ้นเล็กน้อย ท่ามกลางสถานการณ์ควานรุนแรงในยูเครนที่เพิ่มขึ้น หลังเครื่องบินรบของยูเครนถูกกลุ่มกบฏยิงตกบริเวณใกล้ชายแดนรัสเซีย สำหรับปัจจัยในประเทศยอดส่งออกรถยนต์ในเดือน มิ.ย. เพิ่มขึ้น 6.6% YoY แต่ยอดการผลิตและขายรถยนต์ภายในประเทศลดลง 26.1% และ 30.4% YoY ตามลำดับ และ FTI ได้ปรับลดยอดผลิตและขายรถยนต์ลง สำหรับตลาดหุ้นไทย เรามองว่าตลาดรับรู้ปัจจัยบวกจากการได้ รธน. ฉบับชั่วคราวแล้ว และราคาหุ้นในเชิงพื้นฐานเริ่มตึงตัว ทำให้ตลาดอาจปรับตัวกรอบไซด์เวย์ตามกระแสเงินทุนต่างประเทศ และล่าสุดหุ้น CPF ขึ้นเครื่องหมาย H ในภาคเช้านักวิเคราะห์คาดอาจเกี่ยวข้องกับ CPP แนวรับ 1530-25 แนวต้าน 1550

กลยุทธ์การลงทุน : ถือทนแกว่ง แบบมีจุด Stop Loss; เทรดดิ้งลงซื้อขึ้นขาย
     เรามีมุมมองระยะสั้นเป็น “เชิงบวก” มากขึ้น จากแรงผลักดันด้านสภาพคล่อง อิงตามกรอบแนวโน้มการซื้อขายสะสมสุทธิของต่างชาติ และความสัมพันธ์เชิงปริมาณกับ SET ในปีนี้ เรามองต่างชาติจะซื้อสุทธิอีกราว 2.0 หมื่นลบ. (นับจาก 16 ก.ค. เป็นต้นไป) หรือคิดเป็น SET ที่อาจไต่ขึ้นไปสู่ระดับ 1575-1580 จุดใน 4-6 สัปดาห์ข้างหน้า อย่างไรก็ตาม เรามองการขึ้นของ SET เป็นเพียงการยืดตัวตามสภาพคล่องของกระแสเงินทุนตปท.ไหลเข้าเท่านั้น ขณะที่การประเมินมูลค่ายังคงตึงตัวมาก (Fwd. PER 12 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ 12.9x) ดังนั้น การเทรดดิ้งรอบนี้ ควรกำหนดจุด Stop Loss ที่แน่นอนไว้ เพื่อป้องกันความเสี่ยงหากภาวะตลาดเกิดพลิกผัน โดยอาจใช้ SET ที่ระดับ 1495-1500 จุด หรือเส้นค่าเฉลี่ย 20 วัน แล้วแต่อย่างใดจะอยู่สูงกว่าเป็นเกณฑ์ในการตัดสินใจ หุ้น SET100 ที่ราคายังขยับขึ้นไม่มาก (Laggards) และมีสัญญาณการสะสมหุ้นของต่างชาติ แนะนำ IVL, LH, LOXLEY, MEGA, TOP, WHA หุ้นแนะนำใน Weekly Stock Guru สัปดาห์นี้ (21-25 ก.ค.) คือ BLAND, BCP, PTTEP

หุ้นเด่นรายวัน : BBL, EFORL
     BBL – กำไร 2Q57 ที่ 9 พันลบ.สูงกว่าที่เราและตลาดคาด หลัก ๆ จากต้นทุนเงินฝากลดลง, รายได้จากธุรกิจประกัน และเงินปันผลเพิ่มขึ้น เราเห็นสัญญาณบวกจากผลตอบแทนของสินเชื่อที่ดีขึ้น QoQ ซึ่งแสดงถึงความสามารถในการแข่งขันสินเชื่อ SME และสินเชื่อภาคธุรกิจขนาดใหญ่ ด้วย BBL มีการตั้งสำรองฯ ที่สูง ทำให้งบดุลแข็งแกร่งมากกว่าที่ธปท.จะปรับเกณฑ์เข้มขึ้นในปีหน้า มูลค่าเหมาะสม 216 บ. (GGM)
     EFORL – การปรับลดพาร์เพื่อล้างขาดทุนสะสมไม่กระทบต่อราคาหุ้นในกระดาน อีกทั้งยังเป็นปัจจัยบวกต่อแนวโน้มการจ่ายเงินปันผลในอนาคต ด้านการดำเนินงานของบริษัทเราคาดว่า EFORL จะรายงานผลประกอบการ 53 ล้านบาทในช่วง 2Q57 พลิกฟื้นจากขาดทุนในปีก่อนหน้า และการดำเนินงานที่ดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี มูลค่าที่เหมาะสม 1.6 บาท (DCF)

ปัจจัยติดตาม
วันที่ ปท. เหตุการณ์
24 ก.ค. TH ตัวเลขการค้าเบื้องต้นของไทย
CH ตัวเลขเบื้องต้น PMI ภาคการผลิต (HSBC China Manuf. PMI) ของจีนในเดือน ก.ค.
EU-US ตัวเลขเบื้องต้น PMI ภาคการผลิตของสหภาพยุโรป และสหรัฐฯในเดือน ก.ค.
US ยอดขายบ้านใหม่สหรัฐฯ ใน มิ.ย., ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ประจำสัปดาห์ สิ้นสุด 19 ก.ค.
25 ก.ค. GE ตัวเลขชี้ความเชื่อมั่นภาคธุรกิจ (IFO) ของเยอรมันในเดือน ก.ค.
US ตัวเลขคำสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐฯ ในเดือน มิ.ย.
27 ก.ค. GE ตัวเลขยอดค้าปลีกของเยอรมันในเดือน มิ.ย.
ที่มา : Bloomberg, DB, TISCO Research
นักวิเคราะห์ : 
อภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล   เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 18171    02-633-6467   : apichatp@tisco.co.th
ธนพล บำรุงพงศ์      เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 46537    02-633-6471   : tanaphon@tisco.co.th