WORLD7

BANPU2024

smed PIONEER 720x100

บล.เคที ซีมิโก้ : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน

Sideway up รอผลประชุมเฟด
Highlight
     ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ เปิดคละ หลังหุ้นสหรัฐฯ ปิดทรงตัว หลังจากอ่อนตัวลงในช่วงต้นชั่วโมงซื้อขาย จากสัญญาขายบ้านที่รอการปิดขายลดลงผิดคาด แต่ได้แรงหนุนจากรายงานผลประกอบการบจ. ที่ออกมาดี และกระแส M&A
     ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้ USA ผลประชุมเฟด 29-30 ก.ค. ดัชนีราคาบ้าน S&P/CS 20 เมือง เดือน พ.ค. คาด +9.7%y-y(Vs 10.82%) Japan: ยอดค้าปลีก มิ.ย. คาด -0.4%y-y(เท่าเดิม)
+/- วันทำการก่อนหน้า ต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิ +147 ลบ. (จากวันก่อนขาย – 998 ลบ.) และนักลงทุนสถาบันในประเทศขายต่อ -1.94 พันลบ. (ขายสะสม 2 วัน รวม -2.61 พันลบ.)
+/- การเมือง วันนี้ ลุ้น รายละเอียดโครงการพื้นฐานขนาดใหญ่ (จากที่เลื่อนมาจากสัปดาห์ที่แล้ว) และคสช. เตรียมเสนอรายชื่อสนช. 220 คน ภายในเดือนนี้ เพื่อเปิดประชุมสภากลางเดือนหน้า
คาดดัชนีฯ วันนี้ sideway up แนวต้าน 1545/1555 จุด แนวรับ 1532/1525 จุด ทิศทางเงินทุนต่างชาติยังหนุน และวันนี้ลุ้นข่าวดี ปลดล๊อคโครงการคมนาคม และความคืบหน้าเรื่องการแต่งตั้งสนช.
กลยุทธ์: แนะ Trading Buy โดยมีจุดขายตัดขาดทุน/กำไร 3% หุ้น 2Q57F หุ้นหลักทรัพย์ MBKET หุ้น High earnings Play แนะนำ CSS IVL GOLD เก็งกำไรหุ้นได้ผลบวกบาทแข็ง AAV PTT IVL BANPU หุ้นมีประเด็นบวก GUNKUL IFEC ส่วนนักลงทุนระยะยาว แนะนำ ซื้อสะสม หุ้น Top pick KBANK SCB SIRI LPN PS PTTEP ADVANC INTUCH SCC

หุ้นในกระแส:
หุ้นโมเมนตัมบวก (ขึ้นเกิน 5.0%) ได้แก่TPIPL SUTHA GFPT KTC BLAND SCP CCP NWR หุ้นที่ลงกว่า 4.0% ได้แก่ NIPPON TWS AQUA RPC SAPPE GRAND AIT TTW
NVDR (หน่วย: ลบ.) สูงสุดด้านซื้อ ได้แก่ PTTEP+408 BBL+300 SCC+270 TMB+124 BGH+121 สูงสุดด้านขาย ได้แก่ INTUCH-348 THCOM-143 STEC-119
หลักทรัพย์ที่มี Short Sell สูงสุด (หน่วย:ล้านบาท) ได้แก่ ADVANC 70 SCB 55

Market Outlook
คาดดัชนีฯ วันนี้ sideway up แนวต้าน 1545/1555 จุด แนวรับ 1532/1525 จุด ทิศทางเงินทุนต่างชาติยังหนุนและวันนี้ลุ้นข่าวดี ปลดล๊อคโครงการพื้นฐานขนาดใหญ่ ส่วนต่างประเทศรอลุ้นผลประชุมเฟด และรายงาน 2Q57F GDP สหรัฐฯ กลางสัปดาห์นี้ เราแนะนำ เก็งกำไรหุ้นขนาดเล็ก-กลาง ที่มีประเด็นบวก
คาดดัชนีฯ วันนี้ sideway up แนวต้าน 1545/1555 จุด แนวรับ 1532/1525 จุด ปัจจัยในประเทศโดยรวมยังเป็นบวก ข่าวบวกเพิ่มเติม มาจาก พัฒนาการด้านการเมืองที่คาดมีการเสนอรายชื่อสนช. ในสัปดาห์นี้ รวมถึงการพิจารณาโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ วันนี้ (ระวังแรงขายทำกำไร หากไม่มีโครงการลงทุนขนาดใหญ่ หรือเลื่อนการพิจารณาออกไป) ส่วนปัจจัยภายนอก ตลาดหุ้นโลกส่วนใหญ่ Sideway Upหลัง สหรัฐฯ ประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/57 ออกมาดี และรอลุ้นผลประชุมเฟดและตัวเลขจีดีพีสหรัฐฯคืนพรุ่งนี้ ส่วนปัจจัยกดดันยังเป็นปัญหายูเครน (แต่อาจบวกต่อตลาดหุ้นเอเชียทางอ้อม จากเงินทุนที่ย้ายออกจากตลาดยุโรปมาตลาดหุ้นเกิดใหม่มากขึ้น) และระดับ Valaution ที่ค่อนข้างตึง ส่วนหุ้นเด่นวันนี้ PDG คาดกระแสเชิงบวกต่อหุ้น IPO จะให้ผลตอบแทนสูงเมื่อเทียบกับราคาจอง IPO 2.80 บาท และหุ้นกระแสบวก BLAND (จัดตั้งกอง REIT) TPIPL (แตกพาร์เป็น 1 บาท จาก 10 บาท)
ปัจจัยในประเทศ (+) วันนี้ลุ้นการประชุมคสช. โดยตลาดคาดหวัง การพิจารณาโครงการพื้นฐานขนาดใหญ่ที่เลื่อนมาจากสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งทำให้มีแรงเก็งกำไรกลับเข้ามาในกลุ่มรับเหมาและวัสดุอย่างหนาแน่น อย่างไรก็ดี วันนี้อาจมีการขายทำกำไร (เรายังชอบหุ้นวัสดุก่อสร้าง จากแนวโน้มที่ดีขึ้นในปีหน้า แนะทยอยซื้อเมื่ออ่อนตัว SCC SCP TASCO DCON) ส่วนหุ้นที่เริ่มกลับมาสนใจ คือกลุ่มหลักทรัพย์ จากวอลุ่มการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นเป็นเฉลี่ยต่อวัน 4.7 หมื่นล้านบาท ในไตรมาส 3 จากเพียง 3.0 และ 3.9 หมื่นล้านบาทต่อวันในไตรมาส1 และ 2 ของปีนี้ตามลำดับ รวมถึงคาดแนวโน้มจะดีขึ้นตามเงินทุนต่างชาติที่ไหลกลับและฐานต่ำจากปีที่แล้ว (เราแนะนำเก็งกำไร MBKET ที่ครึ่งปีหลังมีแผนทำหุ้น IPO 2 ตัว และกองทรัสต์ของ IMPACT) ส่วนกลุ่มพลังงานทางยังมองบวกต่อเนื่อง (เลือก GUNKUL IFEC)
ปัจจัยในประเทศ (+/-) บจ. สหรัฐฯ ส่วนใหญ่ประกาศผลประกอบการดีกว่าคาด หนุนตลาดดีแรงดีดกลับ โดยหุ้นในดัชนีฯ S&P 500 ที่รายผลประกอบการแล้วมีถึง 78% ที่กำไรดีกว่าคาด และ 66% ที่รายได้ดีกว่าคาด โดยกำไรเติบโตได้ถึง 11% YoY ดีสุดในรอบเกือบ 3 ปีตามการคำนวณของบรูมเบิร์ก แต่ปัจจัยกดดันยังมาจากความกังวลต่อความขัดแย้งยูเครน ที่รัสเซียอาจถูกแซงชั่นเพิ่ม หลังสหรัฐฯ อ้างว่ามีภาพจากดาวเทียมยืนยันรัสเซียยิงอาวุธเข้าไปในยูเครน (แต่อาจเป็นปัจจัยบวกต่อเอเชียทางอ้อม จากเงินทุนที่ย้ายออกจากยุโรปมาสู่ตลาดหุ้นเกิดใหม่)

Event Plays:
1) Earnings Play: เก็งกำไรหลักทรัพย์ที่คาดว่าจะรายงานกำไร 2Q57F เติบโตสูง อาทิ CSS IVL GOLD ANAN JUBILE MINT SVI (TMB BCP เป็นหลักทรัพย์ที่มี Upward Revision ล่าสุด)
2) High Dividend Play: หลักทรัพย์ที่มีประวัติการจ่ายปันผลสูงรายปีเฉลี่ยสูงกว่า 3.5% และจ่ายปันผลระหว่างกาลสม่ำเสมอ รวมถึงมี % Upside ต่อราคาเป้าหมาย ได้แก่ INTUCH, SNC, ADVANC, LALIN, LH ,BOL, UEC, JMART, BTS, TNITY, CSL, DTAC, TRT, PTTGC, SAMTEL
3) หุ้น Turnaround โตก้าวกระโดด ปี57/58 CFRESH, GOLD, MJD, THRE, TPOLY, TTA, VNG (turnaround) APCO, CSS, DCON, IFEC, IVL (โตก้าวกระโดด)
4) หุ้นที่มีประเด็นบวกต่างๆ : MFEC, RASA, TRUE (ปป.โครงสร้างผู้ถือหุ้นใหม่) BLAND (คาดบันทึกกำไรพิเศษ+ออกกอง Impact growth reit) IFEC(ย้ายไปหมวดพลังงาน) LH QH (Hidden Asset สูง) พอร์ตลงทุนหุ้นระยะยาว : เน้นลงทุนกลุ่ม Domestic Play หุ้นเด่นแนะนำ KBANK SCB ADVANC SIRI PS CPALL SCC AAV CENTEL และกลุ่ม Cyclical Play หุ้นเด่นแนะนำ PTT IVL IRPC PSL
ปัจจัยเทคนิค: ฟอร์มตัวเป็นรูปแบบ สามเหลี่ยมปากอ้า กรอบ 1506-1568 จุด สะท้อน ดัชนีฯ มีโอกาสผันผวนสูง เราแนะนำให้นักลงทุนควรพิจารณา ขึ้น-ทยอยขาย เพื่อรอซื้อคืน-ที่แนวรับ อิงสัญญาณเตือนภาวะ Overbought ของ Stochastics, RSI ยังคงอยู่ในกรอบบน ทั้งในรูปแบบรายวันและรายสัปดาห์ และการเริ่มหลุดเส้น SMA 5-10 วันในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา รวมถึง สัญญาณ Volume ที่ปรับขึ้น แต่ดัชนีฯปรับขึ้นจำกัด

ประเด็นจับตา
1. ประเด็นการเมือง: จับตาแนวทางการตั้งสภาปฏิรูป และกำหนดเวลานำไปสู่การเลือกตั้ง
ประเด็นการเมือง (Update):
"ประยุทธ์" คาด โปรดเกล้าฯ สนช. ไม่เกินก.ค. - เปิดประชุมสภาฯ กลาง ส.ค. นี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คาดว่า ภายในสิ้นเดือน ก.ค.นี้ จะมีการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จากนั้นจะเปิดประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ราวกลางเดือนส.ค. ก่อนจะดำเนินการสรรหานายกรัฐมนตรีเพื่อตั้ง คณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป นอกจากนี้ คสช.ได้มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการ จัดทำคำแถลงนโยบายรัฐบาล และคำแถลงงบประมาณให้แล้วเสร็จ ภายในวันที่ 15 ส.ค.นี้

2. +/- 2Q57F Earnings Results: Consensus คาดบจ. ไทยมีกำไรเพิ่มขึ้น 18% YoY -3.9%q-q ใน 2Q14
ประมาณการของ Bloomberg คาด 2Q57F ที่จะทยอยประกาศบงบการเงินสัปดาห์หน้า เช่น GLOW SCC MBKET BCP VGI (ดูตาราง) เราคาดว่ารายงานผลกำไรของ SCC จะเป็นไฮไลท์สัปดาห์นี้ โดยเฉพาะต่อธุรกิจปิโตรเคมีและธุรกิจวัสดุก่อสร้าง
Bloomberg Consensus : 2Q14E earning estimate by sector คาดว่า กลุ่มพลังงาน จะรายงานกำไรเติบโต y-y สูงสุด +105.3% รองลงมาคือ กลุ่มอาหาร +86.5%y-y ปิโตรเคมี +70%y-y แย่สุดคือกลุ่มเหล็ก -168.9%y-y ขนส่ง -146.7%y-y
+/- USA: ผลการดำเนินงาน 2Q57F ของบจ.สหรัฐฯ ที่น่าสนใจ : ได้แก่ UPS AMEX (29/7) Goodyear KRAFT (30/7) Time Warner Cable, Exxon (31/7) P&G, Berkshire Harthaway (1/8)

+/- 3.รายงานเศรษฐกิจสำคัญสัปดาห์นี้ : มีอิทธิพลสูงต่อทิศทางตลาดหุ้นโลกสัปดาห์นี้ จับตา ผลประชุมเฟด+2Q57F US GDP
วันอังคาร 29 ก.ค.: USA ผลประชุมเฟด 29-30 ก.ค. ดัชนีราคาบ้าน S&P/CS 20 เมืองเดือน พ.ค. คาด +9.7%y-y (Vs 10.82%) Japan: ยอดค้าปลีก มิ.ย. คาด -0.4%y-y (เท่าเดิม)
วันพุธ 30 ก.ค.: USA: ผลประชุมเฟด คาดลดขนาด QE US$10bn./เดือน และจับตา Policy Stateement ของประธานเฟด รายงาน 2Q57F GDP คาด +2.9%q-q (Vs -2.9%) การจ้างงานภาคเอกชน ก.ค. คาด +228k(Vs 280k) Japan: Industrial Production มิ.ย. คาด -1.5%m-m (Vs 0.7%) รายงาน 2Q57F GDP ของเบลเยี่ยม สวีเดน สเปน
วันพฤหัสบดี 31 ก.ค.: USA Chicago PMI ก.ค. คาด 63.1 (Vs 62.6) EU:เงินเฟ้อ ก.ค. คาด 0.5%m-m (Vs 0.5%) Taiwan: 2Q57F GDP คาด +3.1%y-y(Vs 3.1%) Philippines:ผลประชุมธ.กลาง คาดขึ้นดอกเบี้ยเป็น 3.75%(Vs 3.5%)
วันศุกร์ 1 ส.ค.. : USA การจ้างงานนอกภาคเกษตร ก.ค. คาด +230k(Vs +288k) อัตราว่างงาน คงที่ที่ 6.1% ISM Mfg ก.ค. คาด 55.5(Vs 55.3) U of M survey ก.ค. คาด 82.2 (Vs 81.3) China:PMI Mfg ก.ค. คาด 51.3(Vs 51)

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจวันทำการผ่านมา:
จีน เผยบริษัทอุตสาหกรรมมีกำไรพุ่งขึ้น 17.9% ในเดือน มิ.ย. สำนักงานสถิติแห่งชาติ (NBS) ของจีน เปิดเผยว่า ผลกำไรของบริษัท อุตสาหกรรมของจีนพุ่งขึ้น 17.9% ในเดือน มิ.ย. สู่ระดับ 5.8808 แสนล้านหยวน (9.498 หมื่นล้านดอลลาร์) จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และพุ่งขึ้นอย่างมากจากที่เพิ่มขึ้นเพียง 8.9% ในเดือน พ.ค. ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ ผลกำไรพุ่งขึ้น 11.4% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว สู่ระดับ 2.86 ล้านล้านหยวน
สหรัฐ เผยยอดทำสัญญาขายบ้านร่วงเกินคาดในเดือน มิ.ย. สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติเปิดเผยดัชนียอดทำสัญญา ขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ร่วงลง 1.1% สู่ 102.7 ในเดือน มิ.ย. นักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการสำรวจโดยรอยเตอร์คาดไว้ว่า ดัชนียอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายจะเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือน มิ.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 6.1% ในเดือน พ.ค.

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
Global Momentum
+/- ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดทรงตัว รอลประชุมเฟด
วันทำการที่ผ่านมา ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดทรงตัว หลังลงแรงวันศุกร์ โดยดัชนี DJIA ปิดบวกขึ้น 22.02 จุดหรือ 0.13% สู่ระดับ 16,982.59 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดขยับขึ้น 0.57 จุดหรือ 0.03% สู่ระดับ 1,978.91 จุด Nasdaq ปิดลดลงเล็กน้อย 4.66 จุด หรือ -0.10% สู่ระดับ 4,444.91 จุด ข่าวข้อตกลงควบกิจการล่าสุดได้ช่วยบดบังปัจจัยลบจากข้อมูลที่อ่อนแอเกี่ยวกับตลาดที่อยู่อาศัยและในภาคบริการของสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนสวนใหญ่มุ่งความสนใจไปที่การประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันอังคารและวันพุธนี้

- ตลาดหุ้นยุโรป ปิดคละ รอลุ้นผลกำไรบจ.
วันทำการที่ผ่านมา ตลาดหุ้นยุโรป ปิดลดลงต่อเนื่อง FTSE ปิดย่อลง 3.48 จุด หรือ -0.05% สู่ 6,788.07 จุด ดัชนี CAC40 ปิดขึ้น 14.22 จุด หรือ 0.33% สู่ 4,344.77 จุด และ DAX ปิดลดลง 45.84 จุด หรือ -0.48% สู่ 9,598.17 จุด เนื่องจากนักลงทุนจับตาการประกาศผลประกอบการของบริษัทและสถานการณ์สู้รบในยูเครน และฉนวนกาซา

-ราคาน้ำมันดิบ กลับมาปิดร่วงลง วิตกอุปทานล้น
วันทำการที่ผ่านมา Brent ส่งมอบ ก.ย. ปิดลดลง 0.82 ดอลลาร์ สู่ 107.57 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วน Nymex ส่งมอบ ก.ย. อ่อนตัวลง 0.42 ดอลล์ต่อบาร์เรล เป็น 101.67 ดอลล์ต่อบาร์เรล โดยได้รับแรงกดดันจากอุปทานน้ำมันดิบทะเลเหนือและน้ำมันดิบแอฟริกาตะวันตกที่ล้นตลาด30 ล้านบาร์เรล และจากอุปสงค์ที่อ่อนแอในยุโรปและเอเชีย โดยปัจจัยลบ เหล่านี้บดบังปัจจัยบวกที่ราคาน้ำมันดิบได้รับจากเหตุการณ์รุนแรงในยูเครน และตะวันออกกกลาง

*ราคาทองคำ ทรงตัว รอลุ้นผลประชุมเฟด สถานะการณ์ยูเครน
วันทำการที่ผ่านมา ราคาสัญญาทองเดือน สิงหาคม ปิดตลาด ไม่เปลี่ยนแปลง ที่ระดับ 1,303.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ นักลงทุนยังคงจับตามองอย่างใกล้ชิดเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างชาติตะวันตก และรัสเซีย ที่เริ่มทวีความรุนแรงขึ้น รวมทั้งเหตุสู้รบในตะวันออกกลาง

+ ดัชนีค่าระวางเรือ Baltic Dry Index ปิดบวกวันที่สี่ หลังร่วง12วัน
วันทำการที่ผ่านมา ดัชนี Baltic Dry Index ปิดเพิ่มขึ้น 4 จุดมาปิดที่ 743 จุด หลังจาก ปี 56 พิ่มขึ้น +28.14%y-y เป็น 2227 จุด (จาก 1738 จุด ณ สิ้นปี 55) โดยระดับสูงสุดอยู่ที่ 2337 จุด เมื่อ 12/12/56 และระดับต่ำสุดอยู่ที่ 698 จุดเมื่อ 2/1/56 ขณะที่ระดับสูงสุดตลอดกาลอยู่ที่ 11793 และระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ อยู่ที่ 554 กลุ่มเรือ (Shipping) คาดผ่านจุดต่ำสุด Bottom Out และฟื้นตัวตามเศรษฐกิจโลก 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!