Details

Category: บทวิเคราะห์

Published: Wednesday, 30 July 2014 17:33

Hits: 2569

บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน

SET แกว่งตัวลงถือเป็นโอกาสในการเลือกหุ้นเข้าทยอยซื้อสะสมได้...

     กลยุทธ์ : SET อยู่ในช่วงปรับพักฐานต่อเนื่อง แต่คาดว่ากรอบลงไม่ลึกนัก และสุดท้ายแล้วยังมีลุ้นกลับมาแกว่งบวกขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่อีกครั้งในช่วงถัดไปได้ เราจึงแนะนำให้เลือกหุ้นเข้าทยอยซื้อในช่วงตลาดปรับตัวลง เพื่อถือรอหาจังหวะทำกำไรในรอบขึ้นครั้งใหม่เร็วๆ นี้

หุ้นเด่นทางเทคนิค : VIBHA, PSL, CENTEL(short)

      แนวโน้ม : SET ยังปรับตัวลดลงต่อเนื่องวานนี้ หลังยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่ๆ เข้ามาหนุนตลาด ขณะที่นักลงทุนบางส่วนยังรอติดตามผลการประชุมเฟดที่มีขึ้นในช่วง 2 วันนี้ด้วย(เฟดประชุม 29-30 ก.ค.) จึงทำให้มีแรงขายทำกำไรเพื่อลดความเสี่ยงออกมากดดันตลาดด้วย ขณะที่เช้านี้ตลาดหุ้นสหรัฐปิดเป็นลบจากความกังวลเกี่ยวกับข่าวที่ว่า EU และสหรัฐประกาศเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย หลังสถานการณ์รุนแรงในยูเครนยังไม่คลี่คลาย อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นยุโรปยังปิดบวกได้เป็นส่วนใหญ่ ขานรับผลประกอบการของบริษัทเอกชนที่ยังออกมาแข็งแกร่งกว่าคาด ซึ่งช่วยหนุนให้ตลาดหุ้นในเอเชียส่วนใหญ่ยังเปิดเป็นบวกได้ ซึ่ง FSS คาดว่า SET ปรับพักฐานครั้งนี้เป็นเพียงช่วงสั้นๆ จากการที่ก่อนหน้านี้ขยับขึ้นมาแรงพอควรแล้ว แต่กรอบการปรับตัวยังมีแนวโน้มที่จะไม่ลึกมากนัก และสุดท้ายแล้วยังคาดหมายแรงซื้อกลับที่จะเข้ามาช่วยหนุนตลาดให้กลับไปแกว่งบวกอีกครั้งได้ โดยเฉพาะแรงซื้อเก็งกำไรผลประกอบการของ บจ. ต่างๆ ที่กำลังจะทยอยประกาศผลการดำเนินงานออกมา ดังนั้นจังหวะปรับลงของ SET จึงเป็นโอกาสในการเลือกหุ้นเข้าทยอยซื้อได้

แนวรับ 1518-1516 , 1513-1510 จุด แนวต้าน 1525-1528 , 1530-1532 จุด
      Fund Flow วานนี้ยังไหลเข้าตลาดหุ้นภูมิภาคต่อเนื่องในปริมาณที่หนาแน่นมากกว่าคาด โดยส่วนนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นเกาหลีใต้ US$332.4 ล้าน ไต้หวัน US$269.4 ล้าน และเวียดนาม US$1.9 ล้าน แต่ขายตลาดหุ้นไทย US$56.1 ล้าน ขณะที่ตลาดหุ้นอินโดนีเชียและฟิลิปปินส์หยุดทำการ ค่าเงินภูมิภาคเช้านี้อ่อนค่าเล็กน้อย Flow น่าจะชะลอการไหลเข้าเพื่อรอผลประชุมและถอยแถลงของเฟดคืนวันที่ 30 ก.ค. นี้ซึ่งเราคาดว่าเฟดจะปรับลดวงเงินซื้อสินทรัพย์อีก US$1 หมื่นล้าน/เดือน เหลือ US$2.5 หมื่นล้าน/เดือน และยังไม่ส่งสัญญาณการขึ้นดอกเบี้ยจนกว่าจะเข้าใกล้ช่วงสิ้นสุดโครงการ QE คือในเดือน ก.ย.

ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
     (-) กลุ่มรับเหมาถูก sell on fact คสช.อนุมัติกรอบการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานคมนาคม 8 ปี (2558-65) ยกเลิกรถไฟความเร็วสูง ปรับเป็นรถไฟทางคู่ขนาด 1.435 เมตรแทน สำหรับรถไฟทางคู่ขนาด 1 เมตร 6 เส้นทางนั้น มี 1 เส้นทางที่ผ่าน EIA แล้วและพร้อมประมูลคือเส้นทางถนนจิระ-ขอนแก่น ซึ่งมีโอกาสจะประมูลในปีนี้ ส่วนอีก 5 เส้นทางรวมถึงโครงการอื่นๆน่าจะประมูลปีหน้า กลุ่มรับเหมาปรับขึ้นโดดเด่นที่สุดนับแต่คสช.เข้ามาบริหาร ขณะที่กำไรในปีนี้วิ่งตามไม่ทัน และราคาหุ้นเกินพื้นฐานปีนี้แล้วและกำลังวิ่งเข้าใกล้ราคาพื้นฐานในปีหน้า จึงควรพักฐานสะสมกำลังอีกระยะ แนะนำซื้อเมื่ออ่อนตัว

     (+) SAT เราคาดกำไรสุทธิ 2Q14 ลดลง 18% Q-Q และ 7% Y-Y เหลือเพียง 138 ล้านบาทและเป็นจุดต่ำสุดของปีนี้ เราปรับกำไรสุทธิปี 2014-15 ลงปีละ 9% ทำให้กำไรสุทธิปีนี้หดตัว 35% และกลับมาเติบโต 17% ในปี 2015 เราปรับไปใช้ราคาเป้าหมายปี 2015 ที่ 21 บาท ราคาหุ้นปัจจุบันมี PE เพียง 10.4 เท่า ยังคงแนะนำซื้อ และคาดว่าจะจ่ายปันผลงวดครึ่งปีแรก 0.20 บาท (yield 1.1%)

     (0) SIRI การเพิ่มทุนทำให้ฐานของทุนแข็งแรงขึ้น ลดสัดส่วนหนี้ต่อทุนลง ส่วนเงินที่ได้ 4.7 พันล้านบาทจะนำไปซื้อที่ดินและคืนหนี้ ลดภาระดอกเบี้ยจ่าย และบริษัทเองก็มีแผนลดรายจ่ายโดยตั้งเป้าลดสัดส่วนค่าใช้จ่ายขายและบริหารต่อรายได้ให้เหลือ 16-17% ในปี 2016 จากปีก่อนที่ 23% เราปรับกำไรปกติปี 2015 ขึ้น 13% โดยปรับรายจ่ายลง ทำให้กำไรโต 29% ดีกว่าเดิมที่คาดโต 14% ส่วนกำไรปี 2014 คงเดิม เป้าหมายปี 2015 หลังเพิ่มทุนเป็น 2.20 บาทจากเดิม 2.50 บาทเพราะ Dilution แนะนำถือเพราะ upside จำกัด

     (0) BCP เราคาดกำไรปกติ 2Q14 ลดลง 26% Q-Q เพราะโรงกลั่นมีการหยุดซ่อมบำรุง 46 วันทำให้ปริมาณการขายลดลง และค่าการกลั่นก็ลดลง แต่คาดกำไรสุทธิจะโต 182% Y-Y เพราะมีกำไรจากสต็อกน้ำมันและเงินเคลมประกันภัยประมาณ 500 ล้านบาท เราคงประมาณการกำไรปี 2014-15 ปรับไปใช้เป้าหมายปี 2015 ที่ 33 บาท ปรับคำแนะนำขึ้นเป็นซื้อ จากเดิมถือ เพราะราคาหุ้นที่ปรับลงมาจน upside กว้างขึ้น แต่ประเด็นการลดสัดส่วนของ PTT อาจยังกดดันราคาหุ้นในระยะนี้

     (+) IPO ล่าสุด ‘XO’ บมจ.เอ็กโซติคฟู้ด เป็นผู้ผลิตเครื่องปรุงรส (ซอส, น้ำจิ้มไก่) เครื่องประกอบอาหาร เครื่องดื่มจากผักและผลไม้ และอาหารสำเร็จรูป ภายใต้แบรนด์ของตนเอง ได้แก่ EXOTIC FOOD, THAI PRIDE, FLYING GOOSE, COCO LOTO โดยเป็นการส่งออก 99% ตลาดหลักคือยุโรป 76% ของรายได้รวม รองมาคือสหรัฐฯ 6% จุดแข็งของ XO คือความหลากหลายของสินค้าและช่องทางการจัดจำหน่าย เช่น ซุปเปอร์มาร์เก็ตทั่วโลกเช่น Metro, Makro และ Tesco เป็นต้น เราคาดกำไรปี 2014 ทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 85 ล้านบาท โตกว่า 9 เท่าจากปีก่อน และคาดกำไรปี 2015-16 โตเฉลี่ย 16.3% จากการขยายกำลังการผลิตในโรงงานแห่งใหม่ซึ่งจะเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ใน 4Q15 เราประเมินราคาเป้าหมายปี 2014 ที่ 3.20 บาท (FSS เป็นแกนนำในการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น IPO ของ XO)

ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนปิดในแดนลบหลังจากที่ EU และสหรัฐฯขยายมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย นอกจากนี้ยังได้รับแรงกดดันจากดัชนีราคาบ้านที่ปรับตัวลดลง

ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนเริ่มกลับมาปิดในแดนบวกรับผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่แข็งแกร่ง อย่างไรก็ตามกรอบการขึ้นยังจำกัดหลังมีการเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย
   ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ยังขยับในแดนบวกได้เป็นวันที่ 3 อย่างไรก็ตามนักลงทุนยังจับตาดูประเด็นสำคัญทางฝั่งสหรัฐฯทั้งตัวเลขเศรษฐกิจและนโยบายการเงินของ FED

ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงเล็กน้อยแต่ภาพรวมยังเป็นการแกว่งตัวทางข้าง โดยล่าสุดมาแกว่งตัวในกรอบ 31.78-31.86 บาท/ดอลลาร์

ราคาน้ำมันดิบในตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน ก.ย. ลดลง 0.70 ดอลลาร์/บาร์เรล มาปิดที่ 100.97 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่เช้านี้เริ่มกลับมายืนเหนือระดับ 100 ดอลลาร์/บาร์เรลได้หลังมีข้อมูลระบุว่าสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐปรับตัวลงแรงกว่าที่ตลาดคาด

ราคาทองคำในตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. ร่วงลง 5 ดอลลาร์/ออนซ์ มาปิดที่ 1,298.30 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยนักลงทุนจับตาดูนโยบายการเงินของ FED ในคืนวันพุธซึ่งจะเป็นตัวชี้วัดทิศทางเศรษฐกิจในอนาคต