WORLD7

BANPU2024

smed PIONEER 720x100

บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

 

SET ลงยังมองเป็นโอกาสในการซื้อสะสม เพื่อถือไว้รอรอบขึ้นต่อไป...

  กลยุทธ์ : แม้ว่า SET จะยังอยู่ในช่วงปรับพักฐาน แต่คาดว่ากรอบลงจำกัด และมีลุ้นแกว่งทรงตัวได้ก่อนกลับไปแกว่งบวกขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่อีกครั้งในช่วงถัดไป ดังนั้นตลาดลบจึงมองว่าเป็นโอกาสในการเลือกหุ้นเข้าทยอยซื้อต่อ เพื่อถือไว้รอรอบขึ้นครั้งใหม่ในเร็วๆ นี้
  หุ้นเด่นทางเทคนิค : THCOM, SF, TMB(short)
  แนวโน้ม : วานนี้ SET ยังมีจังหวะรีบาวด์กลับขึ้นได้บ้างในช่วงต้นชั่วโมง หลังวันก่อนหน้าเริ่มมีแรงซื้อกลับให้เห็น แต่ก็ทำได้แค่แกว่งบวกแคบๆ ในช่วงครึ่งวันเช้า ก่อนที่จะมีแรงขายกลับมากดดันตลาดอีกครั้งในภาคบ่าย ทำให้ดัชนียังย้อนลงลบต่อเนื่อง ซึ่ง FSS คาดว่า SET ยังอยู่ในช่วงปรับพักตัวหลังจากรอบก่อนดัชนีขยับบวกต่อเนื่องขึ้นมาถึง 6 สัปดาห์ติดต่อกัน ขณะที่เช้านี้ตลาดหุ้นไทยยังถูกกดดันเพิ่มเติม จากการปรับตัวลงรุนแรงของตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรป เนื่องจากรัฐบาลอาร์เจนตินาต้องผิดนัดชำระหนี้แน่นอนแล้วหลังพ้นกำหนดเส้นตาย 30 ก.ค. อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นเอเชียไม่ได้ตอบสนองในเชิงลบมากนัก โดยส่วนใหญ่ยังอยู่ในลักษณะปรับตัวลงไม่ลึก รวมทั้งเราคาดว่าแรงซื้อเก็งกำไรผลประกอบการและการจ่ายปันผลงวดครึ่งปีของ บจ.ต่างๆ น่าจะยังมีทยอยเข้ามาหนุนให้ SET ไม่ได้ปรับตัวลงรุนแรงมาก และยังมีแนวโน้มที่จะค่อยๆ แกว่งทรงตัวได้ ก่อนที่จะกลับไปแกว่งตัวขึ้นอีกครั้งในช่วงถัดไปตามคาด ดังนั้นเราจึงยังแนะนำให้ทยอยซื้อสะสมช่วงตลาดปรับตัวลง เพื่อถือไว้รอรอบขึ้นครั้งใหม่ต่อไป
  แนวรับ 1495-1490 , 1487-1480 จุด แนวต้าน 1510-1514 , 1518-1522 จุด
  Fund Flow วานนี้ยังไหลเข้าตลาดหุ้นภูมิภาคต่อเนื่องแต่เบาบางมาก นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นเกาหลีใต้ US$420.6 ล้าน ขณะที่ขายตลาดหุ้นไต้หวัน US$333.8 ล้าน ไทย US$34.3 ล้าน ฟิลิปปินส์ US$5.3 ล้าน เวียดนาม US$1.1 ล้าน ค่าเงินภูมิภาคเช้านี้อ่อนค่า นักลงทุนยังวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาภาคธนาคารในโปรตุเกสและกรณีอาร์เจนติน่าผิดนัดชำระหนี้ และถูกลดอันดับความน่าเชื่อถือเป็น Selective Default คาดว่า Flow น่าจะไหลออก

ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
  (-) คาดวิกฤตอาต์เจนตินามีผลระยะสั้น การผิดนัดชำระหนี้ของรัฐบาลอาร์เจนตินา (เศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 3 ของละตินอเมริกา) ที่ไม่สามารถจ่ายดอกเบี้ยพันธบัตร US$539 ล้านที่ครบกำหนดชำระเมื่อ 30 ก.ค. ได้ และถูก S&P ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือลงเป็น ‘ผิดนัดชำระบางส่วน’ ไม่ใช่การผิดนัดชำระหนี้ครั้งแรก แต่เป็นครั้งที่ 8 ในรอบ 13 ปี และขนาดของมูลหนี้ไม่ถือว่าใหญ่ (US$1.5 พันล้าน) ส่วนผู้เสียหายก็เป็น Hedge Fund เป็นส่วนใหญ่ เราจึงเชื่อว่าเป็นผลระยะสั้น
  (0) PTT เราคาดกำไรสุทธิ 2Q4 ทำได้เพียงทรงตัว +0.2% Q-Q แต่เพิ่มขึ้น 124% Y-Y เพราะฐานกำไรที่ต่ำใน 2Q13 จากขาดทุนสต็อกน้ำมันและขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน แนวโน้มผลประกอบการใน 2H14 น่าจะทรงตัวเมื่อเทียบกับครึ่งปีแรก แม้ว่า Valuations จะถูก (PE 9.2 เท่าและ PBV 1.1 เท่า) ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในภูมิภาค แต่กำไรในปี 2014-15 ที่เพิ่มขึ้นเฉลี่ยเพียง 2.4% และยังถูกดดันจากประเด็นการปฏิรูปพลังงาน และการปรับโครงสร้างของกลุ่ม จึงแนะนำเป็นทยอยสะสม โดยมีราคาเป้าหมายปี 2015 ที่ 360 บาท
  (-) MCOT แนวโน้มกำไรใน 2Q14 แย่กว่าที่เคยคาด โดยน่าจะลดลง 7% Q-Q และ 59% Y-Y จากผลกระทบของการเมืองและต้นทุนที่เพิ่มขึ้นของช่องทีวีดิจิตอล 2 ช่อง ทำให้เราปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2014-15 ลง 26% และ 25% ทำให้กำไรปีนี้หดตัวถึง 47% Y-Y และปีหน้าเพิ่มเพียง 4% Y-Y ผลขาดทุนของทีวีดิจิตอลจะเป็นตัวฉุดผลประกอบการในช่วง 2 ปีนี้ เราปรับไปใช้ราคาเป้าหมาย 2015 ที่ 18 บาท ยังคงแนะนำขาย
  (-) THAI เราคาดผลประกอบการ 2Q14 ขาดทุนจากผลการดำเนินงานหลักถึง 7 พันล้านบาท แย่ลงมากทั้ง Q-Q และ Y-Y จากสถานการณ์การเมือง รัฐประหาร การประกาศเคอร์ฟิว และหลายประเทศเตือนนักท่องเที่ยวในการเดินทางมาไทย แนวโน้ม 3Q14 ยังขาดทุนต่อเพราะ cabin factor น่าจะยังต่ำราว 70% ซึ่งต่ำกว่าจุดคุ้มทุน เราปรับลดการดำเนินงานปกติปี 2014 จากเดิมคาดขาดทุน 7 พันล้านบาท เป็นขาดทุน 1.26 หมื่นล้านบาท แม้ THAI จะอยู่ระหว่างการทำแผนฟื้นฟูให้กลับมามีกำไรได้ในปี 2017 แต่ในระหว่างนี้น่าจะยังขาดทุนสูง เรายังคงแนะนำขาย ราคาเป้าหมายปี 2015 ที่ 13 บาท
  (0) THANI รายงานกำไรสุทธิ 2Q14 น่าผิดหวัง ลดลง 17% Q-Q และ 16% Y-Y ส่วนใหญ่เกิดจากการตั้งเผื่อหนี้สูญที่เพิ่มขึ้นเผื่อความไม่แน่นอนในอนาคต แนวโน้ม 3Q14 น่าจะกลับสู่ระดับปกติที่ 200 ล้านบาท (+20% Q-Q) เราปรับกำไรสุทธิปี 2014-15 ลง 8% และ 2% เป็นเติบโต 3% Y-Y และ 17% Y-Y ตามลำดับ จากการปรับลดการขยายตัวของสินเชื่อ และปรับไปใช้ราคาเป้าหมายปี 2015 ที่ 5 บาท แนะนำซื้อเพราะยังมีมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนภาคเอกชนและรัฐที่จะเป็นปัจจัยหนุนยอดขายรถเชิงพาณิชย์
  (-) ก.คลังอยู่ระหว่างพิจารณาเก็บภาษีชาเขียวในอัตรา 10-20% จากปัจจุบันที่ไม่เสีย แนวคิดเก็บภาษีนี้ไม่ใช่ข่าวใหม่ แต่ก็เป็นลบต่อ ICHI และ OISHI ซึ่งเชื่อว่าผู้ผลิตจะผลักภาระบางส่วนหรือทั้งหมดให้ผู้บริโภคโดยการขึ้นราคา เราแนะนำขาย ICHI อยู่แล้วเพราะราคาเกินมูลค่าที่ 21 บาท ส่วน OISHI ไม่ได้อยู่ใน FSS Coverage แต่ราคาเป้าหมายของ Consensus เฉลี่ยอยู่ที่ 93 บาท เต็มมูลค่าเช่นกัน

  ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนปิดร่วงแรงกว่า 300 จุด โดยตลาดกังวลต่อเศรษฐกิจในยุโรป ข่าวการผิดนัดชำระหนี้ของอาเจนติน่า รวมถึงต้นทุนแรงงานที่เพิ่มขึ้นของสหรัฐฯซึ่งจะส่งผลต่อความสามารถในการทำกำไรของบริษัทเอกชน
  ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนปิดในแดนลบเช่นกันโดยนักลงทุนผิดหวังกับผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนรวมถึงตัวเลขเงินเฟ้อยูโรโซนที่ออกมาต่ำกว่าตลาดคาด
  ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ร่วงลงตามตลาดหุ้นทั่วโลกจากประเด็นความกังวลด้านเศรษฐกิจในหลายภูมิภาค
  ค่าเงินบาทยังอ่อนค่าลงแรงจากกระแสเงินทุนที่ไหลออก โดยล่าสุดมาแกว่งตัวในกรอบ 32.07-32.21 บาท/ดอลลาร์
  ราคาน้ำมันดิบในตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน ก.ย. ร่วงแรง 2.10 ดอลลาร์/บาร์เรล มาปิดที่ 98.17 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยได้รับแรงกดดันจากการลดลงของตลาดหุ้นทั่วโลก รวมถึงข่าวเรื่องการหยุดดำเนินงานของโรงกลั่นสำคัญ
  ราคาทองคำในตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ร่วงลงต่ออีก 14.10 ดอลลาร์/ออนซ์ มาปิดที่ 1,282.80 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯที่แข่งแกร่งบดบังประเด็นหนุนสินทรัพย์ปลอดภัยจากสถานการณ์ตึงเครียดทางการเมืองในหลายๆประเทศ
ปัจจัยที่ต้องติดตาม

1 ส.ค. - ไทย: อัตราเงินเฟ้อ (ก.ค.)
- จีน: Manufacturing PMI (ก.ค.)
- สหรัฐ: การจ้างงานนอกภาคเกษตร, อัตราว่างงาน (ก.ค.), ISM Manufacturing (ก.ค.)
- ยูโรโซน: Markit Eurozone Manufacturing PMI (ก.ค.)
3 ส.ค. - จีน: Non-manufacturing PMI (ก.ค.)
4 ส.ค. - ไทย: RICHY เริ่มซื้อขาย (ราคา IPO 3.30 บาท)
5 ส.ค. - จีน: HSBC China Composite PMI (ก.ค.)
- อินโดนีเซีย: 2Q14 GDP
- ยูโรโซน: Markit Eurozone Composite PMI (ก.ค.)
6 ส.ค. - ไทย: กนง.ประชุม (เราคาดคงดอกเบี้ยที่ 2%)
8 ส.ค. - จีน: ดุลการค้า (ก.ค.)
9 ส.ค. - จีน: อัตราเงินเฟ้อ (ก.ค.)
10 ส.ค. - จีน: ยอดสินเชื่อ (ก.ค.)
12 ส.ค. - ยูโรโซน: ZEW Survey Expectations (ส.ค.)
Contact person : Somchai Anektaweepon
Research Dept.   Tel: 02-646-9967, 02-646-9852

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!