WORLD7

BANPU2024

smed PIONEER 720x100

บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

 

คาด SET ใกล้ที่จะแกว่งทรงและลุ้นดีดขึ้นเร็วๆ นี้ ดังนั้นซื้อแล้วเน้นถือ!!

  กลยุทธ์ : คาดว่า SET อยู่ในช่วงปรับพักฐานระยะสั้นโดยมีกรอบลงจำกัด และเริ่มที่จะแกว่งทรงตัวเพื่อเตรียมลุ้นดีดกลับไปแกว่งบวกขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่อีกครั้งได้ในเร็วๆ นี้ ดังนั้นตลาดลบจึงมองว่าเป็นโอกาสในการเลือกหุ้นเข้าทยอยซื้อเพื่อถือต่อเนื่อง
  หุ้นเด่นทางเทคนิค : SAMART, FORTH, TMB(buy back)
  แนวโน้ม : ถึงแม้ว่าเมื่อค่ำวันศุกร์ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐบางตัวจะยังออกมาดี แต่ก็ไม่ช่วยให้ดัชนีดาวโจนส์กลับมาปิดเป็นบวกได้ เนื่องจากข้อมูลจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ก.ค. ออกมาน้อยเกินคาด จึงส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปปิดในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตามการที่ตัวเลขด้านแรงงานของสหรัฐยังไม่ได้สดใสมากนัก ก็ช่วยลดความกังวลเกี่ยวกับการขยับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดลงได้บ้างเช่นกัน ทำให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ไม่ได้ปรับตัวลงรุนแรง และบางแห่งยังมีจังหวะดีดกลับขึ้นมาเคลื่อนไหวเป็นบวกได้ด้วย ขณะที่ตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์ที่แล้วปรับตัวลงค่อนข้างรุนแรง ก่อนจะเริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามาบ้างในช่วงท้ายสัปดาห์ ทำให้ FSS คาดว่า SET น่าจะเรี่มแกว่งทรงตัวได้ดีขึ้น และมีลุ้นโอกาสรีบาวด์กลับขึ้นได้อีกครั้ง โดยเฉพาะเราคาดว่าแรงซื้อเก็งกำไรผลประกอบการและการจ่ายปันผลงวดครึ่งปีของ บจ.ต่างๆ น่าจะมีทยอยเข้ามาหนุนให้ SET กลับไปแกว่งตัวขึ้นอีกครั้งในช่วงถัดไปได้ตามคาด ดังนั้นเราจึงยังแนะนำให้ทยอยซื้อสะสมช่วงตลาดปรับตัวลง เพื่อถือไว้รอรอบขึ้นครั้งใหม่ต่อไป
  แนวรับ 1496-1494 , 1490-1487 จุด แนวต้าน 1505-1510 , 1515-1522 จุด
  Fund Flow สัปดาห์ที่ผ่านมายังไหลเข้าตลาดหุ้นภูมิภาคกว่า US$1,630 ล้าน เพิ่มขึ้นจาก US$873 ล้านเมื่อสัปดาห์ก่อนหน้า ส่วนศุกร์ที่ผ่านมา Flow เข้าออกสลับในปริมาณที่เบาบางมาก โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไต้หวัน US$68.8 ล้าน และเวียดนาม US$1.3 ล้าน แต่ขายตลาดเกาหลีใต้ US$41.3 ล้าน ไทย US$14.5 ล้าน และฟิลิปปินส์ US$6.6 ล้าน ค่าเงินภูมิภาคเช้านี้ค่อนข้างนิ่ง Flow น่าจะเบาบางต่อเนื่อง แนวโน้มค่าเงินบาทในระยะสั้นน่าจะกลับมาแข็งค่าหลังสัปดาห์ที่ผ่านมาอ่อนค่าเร็วและประเด็นเรื่องอาร์เจนติน่าผ่อนคลายลง


ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
  (+) เปิดประชุมสภานิติบัญญัติ 7 ส.ค. นี้ และนัดประชุมเลือกประธานและรองประธานสนช. วันที่ 8 ส.ค. ภาระเร่งด่วนคือการสรรหานายกรัฐมนตรี ซึ่งเราคาดว่าจะได้นายกฯและครม.ภายในเดือนนี้ ส่วนสภาปฏิรูป (สปช.) ซึ่งจะมีสมาชิก 250 คนนั้น พล.อ.ประยุทธ์ได้รับโปรดเกล้าฯพระราชกฤษฎีกาสรรหาแล้ว คาดทราบรายชื่อประมาณ 23 ก.ย.-2 ต.ค. คสช.ได้วางกรอบโรดแมพระยะที่ 2 ไว้ประมาณ 1 ปีเพื่อปฏิรูปประเทศและจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับถาวร ก่อนเข้าสู่ระยะที่ 3 คือการเลือกตั้งซึ่งน่าจะเป็นครึ่งหลังของปีหน้า
  (0) คาดกนง.คงดอกเบี้ยในวันพุธนี้ ที่ 2% ภาวะอัตราดอกเบี้ยขาลงได้ผ่านไปแล้ว และกำลังจะเข้าสู่ขาขึ้นซึ่งเป็นไปตามทิศทางเดียวกับหลายประเทศทั่วโลก อย่างไรก็ตาม แม้อัตราเงินเฟ้อของเราจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นแต่ไม่ได้มีอัตราเร่ง เพราะคสช.ยังคงนโยบายช่วยเหลือค่าครองชีพของประชาชน จึงคาดว่ากนง.จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับนี้ไปจนถึงสิ้นปี ซึ่งไม่กระทบต่อตลาดหุ้น
  (0) MBKET กำไรสุทธิ 2Q14 ที่เพิ่มขึ้น 69% Q-Q แต่ลดลง 40% Y-Y น้อยกว่าที่เราคาดเพราะรายได้ค่านายหน้าต่ำกว่าคาด แนวโน้มกำไร 3Q14 น่าจะดีขึ้นตามมูลค่าการซื้อขายและงาน IPO เรายังคงคาดกำปีนี้ลดลง 38% ปีหน้าโต 19% ประเมินราคาเป้าหมายปี 2015 ที่ 22.60 บาท ยังคงแนะนำถือ หรือ Switch เป็น ASP ซึ่งให้ปันผลที่สูงกว่า
  (+) CENTEL เราคาดกำไรปกติใน 2Q14 ลด 72% Q-Q และ 26% Y-Y ทั้งจากการเป็น low season ใน 2Q และถูกกระทบจากการเมือง แต่โรงแรมในมัลดีฟ 2 แห่งที่โตโดดเด่นและและธุรกิจร้านอาหารที่โตจากการขยายสาขาเพิ่ม ช่วยลดผลกระทบได้บ้าง แนวโน้มผลการดำเนินงานระยะกลาง-ยาวยังดูดี เราคาดกำไรปี 2015 โต 28% ราคาเป้าหมายปี 2015 ที่ 44 บาท ปรับคำแนะนำขึ้นเป็นซื้อ จากเดิมถือเพราะผ่านจุดเลวร้ายไปแล้ว
  (-) TVO เราคาดกำไรสุทธิใน 2Q14 ลดลง 7% Q-Q เพิ่มขึ้น 111% Y-Y หากไม่รวมรายการพิเศษ กำไรปกติจะลดลงทั้ง 16% Q-Q และ 6% Y-Y จากปริมาณขายทั้งกากถั่วเหลืองและน้ำมันถั่วเหลืองที่ลดลง และต้นทุนสูงขึ้น กำไรของ TVO ผ่านจุดที่ดีที่สุดในปีนี้ไปแล้วใน 1Q14 แนวโน้มกำไร 3Q14 จะชะลออีก แต่เราคงคำแนะนำซื้อ เพราะอย่างน้อย PE ปัจจุบันก็ต่ำเพียง 10 เท่า ให้เงินปันผลตอบแทน 3.8% และเป้าหมายปี 2015 ที่ 29 บาทยังมี upside แต่ในระยะสั้นเราชอบ KSL มากกว่าเพราะมีโอกาสที่กำไร 3Q14 จะทำสถิติสูงสุดของปี และราคาน้ำตาลในตลาดโลกมีโอกาสปรับขึ้นจากภาวะขาดดุลปีหน้า
  (+) IPO ล่าสุด ‘LDC’ บมจ.แอลดีซี เด็นทัล เป็นศูนย์บริการด้านทันตกรรมครบวงจรปัจจุบันมีสาขาทั้งสิ้น 19 แห่งและมีแผนเปิดอีก 5 สาขาใน 2H14 กลุ่มลูกค้าเป้าหมายคือผู้มีรายได้ระดับปานกลางขึ้นไป รายได้หลัก 49% มาจากการบริการทั่วไป (ตรวจฟัน ขูดหินปูน ถอนฟัน) ซึ่งมีอัตรากำไรสูง อีก 28% ของรายได้มาจากการจัดฟันซึ่งเป็นตัวดึงลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการอื่นๆ เราคาดกำไรปี 2014 โต 16% และปี 2015 โต 160% จากการขยายสาขาทั้งที่สร้างเองหรือลงทุนผ่านช่องทางอื่น ประเมินราคาเป้าหมายปี 2015 ที่ 1.80 บาท (FSS เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น IPO ของ LDC)

  ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนวันศุกร์ยังปิดในแดนลบต่ออีก 69.93 จุด โดยยังคงถูกกดดันจากประเด็นข่าวเดิมเรื่องความกังวลต่อเศรษฐกิจในยุโรปและการผิดนัดชำระหนี้ของอาเจนติน่า
  ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนวันศุกร์ปิดในแดนลบต่อเช่นกัน แม่ว่าตัวเลขการจ้างงานสหรัฐที่อ่อนแอจะช่วยลงความกังวลเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยของ FED ก็ตาม
  ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ร่วงลงตามตลาดหุ้นทั่วโลกหลังตัวเลขเศรษฐกิจของ 2 เศรษฐกิจให่ที่สุดในโลกออกมาผิดคาด
  ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงในช่วงแรงก่อนที่จะแข็งค่าขึ้นมาได้ โดยล่าสุดมาแกว่งตัวในกรอบ 32.00-32.18 บาท/ดอลลาร์
  ราคาน้ำมันดิบในตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน ก.ย. ขยับลงอีก 0.29 ดอลลาร์/บาร์เรล มาปิดที่ 97.88 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยมีข่าวว่าอุปทานของน้ำมันไม่ได้รับผลกระทบจากความไม่สงบในหลายๆประเทศ นอกจากนี้ตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯที่ออกมาต่ำกว่าคาดและสต๊อกน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นเป็นอีกปัจจัยกดดัน
  ราคาทองคำในตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. พุ่งขึ้น 12.00 ดอลลาร์/ออนซ์ มาปิดที่ 1,294.80 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากร่วงแรงในช่วงก่อนหน้า โดยได้รับแรงหนุนจากตัวเลขการจ้างงานที่ออกมาต่ำกว่าคาดและทำให้ความกังวลเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยของ FED ซึ่งจะเป็นลบต่อราคาทองคำผ่อนคลายลง


ปัจจัยที่ต้องติดตาม
4 ส.ค. - ไทย: RICHY เริ่มซื้อขาย (ราคา IPO 3.30 บาท)
5 ส.ค. - จีน: HSBC China Composite PMI (ก.ค.)
- อินโดนีเซีย: 2Q14 GDP
- ยูโรโซน: Markit Eurozone Composite PMI (ก.ค.)
6 ส.ค. - ไทย: กนง.ประชุม (เราคาดคงดอกเบี้ยที่ 2%)
7 ส.ค. - ไทย: เปิดประชุม สนช.นัดแรก
8 ส.ค. - จีน: ดุลการค้า (ก.ค.)
9 ส.ค. - จีน: อัตราเงินเฟ้อ (ก.ค.)
10 ส.ค. - จีน: ยอดสินเชื่อ (ก.ค.)
12 ส.ค. - ยูโรโซน: ZEW Survey Expectations (ส.ค.)
13 ส.ค. - จีน: ยอดค้าปลีก, การลงทุนในสินทรัพย์ถาวร (ก.ค.)
- ญี่ปุ่น: 2Q14 GDP
- สหรัฐ: ยอดค้าปลีก (ก.ค.)
- ยูโรโซน: Industrial Production (มิ.ย.)
14 ส.ค. - ไทย: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ก.ค.)
Contact person : Somchai Anektaweepon
Research Dept.   Tel: 02-646-9967, 02-646-9852

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!