WORLD7

BANPU2024

smed PIONEER 720x100

บล.กรุงศรี : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

แนวโน้มและปัจจัยการลงทุนวันนี้
เลือกซื้อเก็งกำไร
  สถานการณ์ยูเครน – การตอบโต้มาตรการคว่ำบาตรของรัสเซีย และสงครามระหว่างปาเลสไตน์กับอิสราเอลยังไม่มีแนวโน้มยุติ เป็นแรงกดดันต่อตลาดทุนทั่วโลก รวมถึงน้ำมันและราคาทองคำซึ่งทรงตัวลง ในขณะที่ตลาดหุ้นภูมิภาคซึมๆคละขึ้นลง และ SET แกว่งตัวในกรอบแคบ +/-11.8 จุด และปิดตลาดที่ 1522.27 จุดทรงตัวลง -0.14 จุด ดัชนี SET50 และ SET100 ทรงตัวขึ้นสวนตลาด และมีการคละขึ้นลงรายกลุ่ม ปรับตัวขึ้นเช่น ธนาคาร อสังหาฯ ปิโตรฯ อาหาร ขนส่ง และอิเล็กทรอนิกส์ ลดลงได้แก่ สื่อสาร พลังงาน วัสดุฯมูลค่าซื้อขายลดลงเหลือ 44,321 ล้านบาทและต่างชาติสลับขายสุทธิ 1,025 ล้านบาทกองทุนในประเทศขายสุทธิ 411 ล้านบาท

 

ปัจจัยการลงทุนวันนี้
  รัสเซียตอบโต้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจจากอียูและสหรัฐฯเพิ่มเติมโดจจะสั่งห้ามนำเข้าผักผลไม้ทุกชนิดจากยุโรป รวมทั้งผลิตภัณฑ์อาหารทุกชนิดจากสหรัฐฯซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคภายในประเทศของรัสเซียซึ่งพึ่งพาการนำเข้าจากต่างประเทศที่ราคาถูกกว่าและจะผลกระ ทบต่อผู้ผลิตที่อยู่ในยุโรปและสหรัฐ มอสโกเป็นผู้นำเข้าผลไม้อันดับหนึ่งจากยุโรป 28% หรือมูลค่า US$43,000 ล้าน (1.4 แสนล้านบาท) และนำเข้าผักอันดับ 1 จากยุโรป 21.5% และนำเข้าผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์ปีกของสหรัฐอันดับ 2
  ม.หอการค้าเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ก.ค. อยู่ที่ 78.2 เพิ่มขึ้นจาก 75.1 ในเดือน มิ.ย. ดัชนีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจโดยรวมอยู่ที่ 68.5 เพิ่มขึ้นเช่นกัน ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสการหางานทำอยู่ที่ 71.7 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคต อยู่ที่ 94.6 ซึ่งดัชนีความเชื่อมั่นปรับตัวดีขึ้นทุกรายการ และเป็นการปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 โดยดัชนีผู้บริโภคอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 11 เดือนสะท้อนความมั่นใจว่าการเมืองไทยมีเสถียรภาพมากขึ้นและเชื่อว่าเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัว

  ปัจจัยลบภายนอกขยายวงและสร้างแรงกดดันต่อตลาดทุนและทุนเคลื่อนย้ายเพิ่มขึ้น ดาวน์โจนส์ลดลงเมื่อคืน (-0.46%) บนความกังวลด้านสหรัฐใช้กำลังโจมตีทางอากาศในอิรัค มีผลให้ราคาน้ำมัน WTI, Nymex, Brent ตลาดปรับตัวขึ้น และเงินบาทอ่อนค่าที่ 32.30/US$ เช้านี้ เชื่อว่ามีผลให้ตลาดผันผวนและมีความเสี่ยงทางลงสูงกว่าเมื่อวาน การที่ SET ทรงตัวปิด -0.01% สังเกตุว่าหุ้นใหญ่อยู่ภายใต้การเลือกตัวขายและเลือกตัวซื้อสลับเช่นซื้อ KBANK +1.4% และขาย BBL -0.5% นอกจากนี้เกิดแรงซื้อในกลุ่มอาหาร +1.0%, อสังหาฯ +0.4% และหุ้นรายตัวอื่น เราคาดว่าภาวะตลาดวันนี้จะยังคงเป็นการเลือกซื้อเลือกขายต่อเนื่อง แนะนำเลือกซื้อหุ้นที่อยู่ในความนิยมของตลาดเพื่อเก็งกำไร

แนวโน้มการลงทุนสำหรับระยะกลาง
ถือครองพอร์ตลงทุนในหุ้น 70%

  น้ำหนักพอร์ตลงทุน ถือครองหุ้น 70% และเงินสด 30%

  Accumulate: -- สะสมหุ้น

  Trading: เลือกซื้อหุ้นเก็งกำไรเหนือ 1520 ต่ำกว่ารอ

  เปรียบเทียบดัชนีกับ SET

  สถานะพอร์ตจำลอง (เริ่ม 25 พ.ย. 56)
  พอร์ตหุ้น 70% ถือเงินสด 30%

ผลตอบแทนพอร์ตจำลอง (70%) = +11.4%
ผลตอบแทนถือเงินสด (30%) = +0.6%
ผลตอบแทนรวม (100%) = +12.0%
ผลตอบแทนตลาด SET = +12.5%
ผลรวมพอร์ตจำลองสุทธิ < SET

  หมายเหตุ : Cash/Equity weighting เป็นการแสดงมุมมองของ KSS Research เพื่อใช้เป็นแนวทางว่าด้วยแนวโน้มระยะกลาง (3-6 เดือน) ว่าจะมีแนว โน้มเชิงบวก หรือ เชิงลบ โดยหุ้นที่แนะนำในพอร์ตจำลองเป็นหุ้นพื้นฐานที่เราประเมินว่าจะมีแนวโน้มที่ดี ไม่มีนัยสำคัญเพื่อคำแนะนำว่าควร “ซื้อ” หรือ “ขาย” หุ้นดังกล่าวในเวลาใด


Analysts :
Kasamapon Hamnilrat Registration No. 17622
Apisak Limthumrongkul Registration No. 13130

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!