Details

Category: บทวิเคราะห์

Published: Wednesday, 27 August 2014 16:53

Hits: 1888

บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

คาดช่วงนี้ SET มีกรอบลบจำกัด และยังลุ้นแกว่งบวกต่อเนื่องจึงเน้นถือ!

  กลยุทธ์ : ช่วงนี้เรายังคาดว่า SET มีกรอบลบจำกัด และยังกลับไปแกว่งตัวบวกต่อเนื่องได้ โดยระดับดัชนีเป้าหมายที่ FSS คาดไว้ยังอยู่แถว 1600 จุด(+/-) ตามคาดเดิม ดังนั้นช่วงนี้เราจึงยังแนะนำเลือกหุ้นซื้อช่วงลบ เพื่อถือต่อเนื่องจนกว่าดัชนีจะขยับเข้าใกล้ 1600 จุดหรือสูงกว่าขึ้นไป จึงจะพิจารณาหาจังหวะขายทำกำไรกันอีกครั้ง
  หุ้นเด่นทางเทคนิค : IVL, PDG, AMATA(short)
  แนวโน้ม SET ปรับพักตัวลงมาในแดนลบบ้าง หลังจากขยับบวกต่อเนื่องขึ้นมาหลายวัน แต่คาดว่ากรอบการปรับตัวลงจะยังจำกัด และมีแนวโน้มที่จะกลับไปแกว่งบวกต่อเนื่องได้อีก โดยคาดว่าช่วงนี้จะยังมีแรงซื้อเก็งกำไรเกี่ยวกับรายชื่อ ครม. ชุดใหม่ของบ้านเราที่จะยังช่วยหนุนตลาดไว้ได้ดี ขณะที่เช้านี้ตลาดหุ้นต่างประเทศก็ค่อนข้างสดใส เนื่องจากนักลงทุนขานรับข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่ยังแข็งแกร่ง ทั้งยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนและดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ยังดูดี รวมทั้งกระแสคาดการณ์ที่ว่า ECB อาจจะประกาศเปิดตัวโครงการซื้อสินทรัพย์(QE) เพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในเร็วๆ นี้ โดยช่วงหลังนักลงทุนต่างประเทศเริ่มกลับมามียอดซื้อสุทธิให้เห็นเป็นระยะๆ ซึ่งค่าเงินบาทก็ยังแกว่งตัวในลักษณะแข็งค่าขึ้นด้วย จึงน่าจะช่วยสร้างความมั่นใจให้นักลงทุนได้พอควร ดังนั้น FSS จึงยังแนะนำให้เลือกหุ้นซื้อช่วงลบได้ แล้วเน้นถือต่อเนื่อง เพื่อรอดูจังหวะขายทำกำไรกันใหม่เมื่อดัชนีแกว่งบวกต่อเนื่องขึ้นอีกครั้ง
  แนวรับ 1558-1555 , 1552-1548 จุด แนวต้าน 1563-1565 , 1568-1573 จุด
  Fund Flow วานนี้ยังไหลเข้าตลาดหุ้นภูมิภาคอย่างต่อเนื่องในปริมาณที่เบาบาง โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไต้หวัน US$127.1 ล้าน เกาหลีใต้ US$122.3 ล้าน ไทย US$4.5 ล้าน ฟิลิปปินส์ US$3.3 ล้าน และเวียดนาม US$3.3 ล้าน แต่ขายในตลาดหุ้นอินโดนีเซีย US$17.3 ล้าน ค่าเงินภูมิภาคเช้านี้แข็งค่าเล็กน้อย Flow จะยังไหลเข้าแต่เบาบาง

ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
  (+) Thailand Focus 2014 ที่จัดขึ้นในวันที่ 27-29 ส.ค. มีบมจ.เข้าร่วม 118 บริษัท (มากที่สุดกว่าทุกครั้ง) ในหลากหลายอุตสาหกรรม และมีพล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง หัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ คสช. ร่วมให้ข้อมูลโดยตรง เชื่อว่าจะสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนต่างชาติมากขึ้น การจัดงาน Thailand Focus ในช่วง 5 ครั้งที่ผ่านมา นักลงทุนต่างชาติจะกลับมาซื้อสุทธิเพิ่มขึ้นอย่างหนาแน่นในช่วง 1 เดือนหลังการจัดงานทุกครั้ง ยกเว้นเพียงปี 2008 ที่ขายหนัก เพราะทั่วโลกกำลังเผชิญวิกฤต Subprime พอดี
  (-) ICHI ร่วมกับบริษัท PT Atri Pasifik (จดทะเบียนในตลาดหุ้นอินโดนีเซีย) ตั้งบริษัทร่วมทุน (ถือหุ้นฝ่ายละ 50% หรือ 592 ล้านบาท) ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มชาเขียว “อิชิตัน” ในอินโดนีเซียซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่และมีศักยภาพ ตลาดชาเขียวในอินโดนีเซียเติบโตเฉลี่ยปีละ 15-20% และประชากรส่วนใหญ่มีค่าใช้จ่ายไปกับอาหารและเครื่องดื่มมากกว่า 50% ของรายได้ต่อเดือน ดีลนี้จะเกิดขึ้นใน 4Q14 และเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ปี 2015 เป็นต้นไป ประมาณการกำไรของเราในปี 2015-16 ค่อนข้าง aggressive อยู่แล้ว (คาดกำไรโต 26% และ 31% ตามลำดับ) จึงคงประมาณการไว้ก่อนเพราะในระยะแรกเชื่อว่าต้องใช้เวลาในการปรับรสชาติและทำการตลาด เราจึงคงราคาเป้าหมายปี 2015 ที่ 21 บาท ราคาหุ้นปัจจุบันสะท้อนข่าวดังกล่าวมากเกินไป มี PE ปีหน้าสูงถึง 28 เท่า จึงยังคงแนะนำขาย
  (0) ROJNA มีโอกาสขายที่ดินใหม่ให้กับลูกค้า 2 ราย ที่ปราจีนบุรีประมาณ 700-800 ไร่ และทำเลใหม่ในภาคตะวันออกอีกประมาณ 500-600 ไร่ ซึ่งยังอยู่ระหว่างเจรจา หากสำเร็จจะเป็น upside ต่อประมาณการปี 2015 ของเรา แต่ปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลเพียงพอจะประเมินได้ เราจึงยังคาดกำไรปกติปี 2015 ลดลง 55% จากปีนี้ที่น่าจะโตสูงถึง 637% หากโอนที่ดินผืนใหญ่ 1.6 พันไร่ให้ฮอนดาได้ (บริษัทคาดว่าจะโอนได้สิ้นเดือนนี้) และมีอีก 600 ไร่ที่คาดว่าจะโอนได้ทันก่อนสิ้นปีนี้ เราประเมินราคาเป้าหมายปีนี้ที่ 7.90 บาท และลดเหลือ 4.40 บาทในปี 2015 ระยะยาวยังคงแนะนำขาย แต่ระยะสั้นอาจมีแรงเก็งกำไรจากการโอนที่ดินของฮอนด้า นักลงทุนควรระมัดระวังในการซื้อขาย
  (0) EGCO เราปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2014 เพิ่มขึ้น 3% และปี 2015 เพิ่ม 9% จากการรับรู้กำไรเพิ่มขึ้นในในโรงไฟฟ้าถ่านหิน Masinloc ในฟิลิปปินส์ ขนาด 630MW ที่ EGCO เข้าไปลงทุน 40.95% (มูลค่า 14,464 ล้านบาท) เมื่อ 15 ก.ค. ที่ผ่านมา ทำให้กำไรสุทธิปี 2014-15 โต 6% และ 9% ตามลำดับ และเพิ่มมูลค่าหุ้นให้ EGCO อีก 10 บาท ราคาเป้าหมายปี 2015 จึงเพิ่มขึ้น 6% เป็น 180 บาท จากเดิม 170 บาท แต่ราคาหุ้นปรับขึ้นมา 15% หลังประกาศข่าว จน upside จำกัด ลดคำแนะนำจากซื้อ เป็นถือรับปันผล 3 บาท/หุ้น (yield 1.8%) XD 4 ก.ย.
  (0) คสช. มีมาตรการระยะสั้นและระยะยาวช่วยเหลือราคายาง มาตรการระยะสั้นมุ่งเน้นการช่วยเหลือสภาพคล่องแก่ผู้ประกอบการผ่านการปล่อยสินเชื่อ ส่วนระยะยาวเน้นการเพิ่มมูลค่าและคุณภาพของยางพารา และสนับสนุนการแปรรูป ราคายางในประเทศในระยะสั้นมากอาจขยับขึ้นเล็กน้อยด้วยผลของจิตวิทยา แต่ระยะถัดไปเชื่อว่าราคายางยังคงมีทิศทางทรงถึงลงเพราะอุปสงค์จากจีนที่ยังไม่ฟื้นตัวเป็นสำคัญ เราไม่ได้ชอบ STA แต่แนะนำถือเพียงเพราะราคาปรับลงมามากและเชื่อว่าใกล้ bottom แต่การฟื้นตัวยังช้า

  ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมายังปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อยรับตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งเกินคาด ซึ่งยังแสดงให้เห็นถึงทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ดีของสหรัฐฯ
  ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อปิดในแดนบวกได้ต่อเนื่องเช่นกันโดยตลาดคาดหวังว่า ECB จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในอนาคต
  ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ขยับตัวในแดนบวกได้ตามตลาดหุ้นในภูมิภาคอื่นจากบรรยากาศการลงทุนที่ค่อนข้างเป็นบวกหลังสหรัฐฯรายงานตัวเลขเศรษฐกิจออกมาดีเกินคาด
  ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยแต่ภาพรวมยังเป็นการแกว่งตัวออกข้าง ล่าสุดแกว่งตัวในกรอบ 31.85-31.98 บาท/ดอลลาร์
  ราคาน้ำมันดิบในตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน ต.ค. เพิ่มขึ้น 0.51 ดอลลาร์/บาร์เรล มาปิดที่ 93.86 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบปรับตัวลดลง รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืนที่ออกมาแข็งแกร่งเกินคาด
  ราคาทองคำในตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้น 6.30 ดอลลาร์/ออนซ์ มาปิดที่ 1,285.20 ดอลลาร์/ออนซ์ จากค่าเงินดอลลาร์ที่ชะลอการแข็งค่า แต่อย่างไรก็ตามการปรับขึ้นของราคาทองคำคาดว่าจำกัดจากเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ฟื้น
ปัจจัยที่ต้องติดตาม

27-29 ส.ค. - ไทย: Thailand Focus 2014 – Reforming for Sustainable Growth ตลาดฯร่วมจัดกับ BofaML
28 ส.ค. - ไทย:ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (ก.ค.)
- ฟิลิปปินส์: 2Q14 GDP
- สหรัฐ: 2Q14 GDP (ตลาดคาด +3.9% Q-Qชะลอเล็กน้อยจากไตรมาสก่อนที่ +4.0% Q-Q)
- ยูโรโซน:ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ส.ค.)
29 ส.ค. - ไทย: ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจเดือน ก.ค.
- อินเดีย: 2Q14 GDP
- ยูโรโซน: เงินเฟ้อ (ส.ค.)
- MSCIQuarterly Review ไม่มีหุ้นไทยที่นำเข้าคำนวณเพิ่ม แต่มีหุ้นเอาออก 2 ตัวคือ GJS และ GSTEL ใช้ราคาปิดวันนี้
1 ก.ย. - ไทย: เงินเฟ้อ (ส.ค.)
- จีน: Manufacturing PMI (ส.ค.)
2 ก.ย. - ไทย:LDCเริ่มซื้อขาย (ราคา IPO 1.50 บาท)
Contact person : Somchai Anektaweepon
Research Dept.   Tel: 02-646-9967, 02-646-9852